นายจ้างยักยอกเงินลาหยุดสำหรับพ่อแม่ $12,000 จากลูกจ้างผู้ย้ายถิ่นฐาน

NEWS: ผู้จัดการปั๊มน้ำมันในรัฐนิวเซาท์เวลส์ นายคัลพรีท ซิงห์ ถูกปรับหลังจากพยายามเอาเปรียบผลประโยชน์ของลูกจ้าง

สตรีท่านดังกล่าวสอบถามเรื่องการจ่ายเงินลาหยุดสำหรับบิดามารดากับนายจ้างของเธอเป็นเวลาหลายครั้ง

สตรีท่านดังกล่าวสอบถามเรื่องการจ่ายเงินลาหยุดสำหรับบิดามารดากับนายจ้างของเธอเป็นเวลาหลายครั้ง Source: Getty Images

ชายในรัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งพยายามยักยอกเงินชดเชยการลาหยุดงานสำหรับบิดามารดาซึ่งจ่ายโดยรัฐบาลให้กับลูกจ้าง เพื่อเข้ากระเป๋าตนเองนั้น ถูกสั่งปรับเป็นเงิน $118,440 ดอลลาร์ หลังจากที่มีการสอบสวนโดยผู้ตรวจการแผ่นดินด้านความเป็นธรรมในการจ้างงาน (Fair Work Ombudsman)

นายคัลพรีท ซิงห์ เป็นผู้จัดการของปั๊มน้ำมันริมถนนยูไนเต็ด ปิโตรเลียม ที่เมืองมาร์รังการู ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และเป็นผู้อำนวยการบริษัท นัวร์พรีท จำกัด

เขาว่าจ้างสตรีชาวอินเดียผู้หนึ่งในฐานะเชฟโดยใช้วีซ่าทักษะ 457 ซึ่งมีนายจ้างเป็นผู้เสนอชื่อสำหรับท้องที่ชนบท โดยตอนนี้เธอได้ถือสัญชาติออสเตรเลียแล้ว

เมื่อเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2015 เธอมีบุตรขณะที่อายุได้ 29 ปี กรมบริการมนุษย์ (Department of Human Services) ได้จ่ายเงินเข้าบัญชีให้กับบริษัทผู้ว่าจ้างเธอเป็นจำนวน $11,538 ดอลลาร์ เพื่อที่เงินดังกล่าวจะได้ถูกโอนไปยังลูกจ้าง
ปั๊มน้ำมันยูไนเต็ดปิโตรเลียมดังกล่าว ที่เมืองมาร์รังการู
ปั๊มน้ำมันยูไนเต็ดปิโตรเลียมดังกล่าว ที่เมืองมาร์รังการู (ภาพ: Google Maps) Source: Google Maps
คุณ นาตาลี เจมส์ จาก Fair Work Ombudsman กล่าวว่า การที่นายซิงห์พยายามจะเอาเปรียบลูกจ้างซึ่งมีความเปราะบางนั้น เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้จริงๆ

“พ่อแม่มือใหม่นั้น มีเรื่องต่างๆ ในใจมากเต็มที่อยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องมาคอยไล่ล่านายจ้างซึ่งขัดขืนการจ่ายเงินชดเชยการลาหยุดงานสำหรับบิดามารดา ซึ่งมาจากภาษีของประชน” เธอกล่าว

“นายจ้างคนใดก็ตามที่คิดว่าจะสามารถปกปิดการฝ่าฝืนกฎหมายการจ้างงาน โดยสร้างบันทึกปลอมต่างๆ หรือโกหกต่อผู้ตรวจการด้านการจ้างงานอย่างเป็นธรรมนั้น – จงระวังตัวไว้”

สตรีข้างต้นมีสิทธิ์ในเงินจำนวนดังกล่าว ภายใต้แนวคิดริเริ่มเรื่องเงินชดเชยการลาหยุดงานสำหรับบิดามารดาของสหพันธรัฐ และเมื่อเธอไม่ได้รับเงินนั้น เธอจึงติดต่อกับทางกรมบริการมนุษย์

การสืบสวนโดยผู้ตรวจการแผ่นดินด้านการจ้างงานอย่างเป็นธรรมพบว่า นายซิงห์ได้จัดทำเอกสารปลอมขึ้น ซึ่งอ้างว่าแสดงให้เห็นว่าเขาได้จ่ายเงินดังกล่าวครบจำนวนแล้ว เป็นเวลาล่าช้ากว่ากำหนดห้าเดือน

นายซิงห์ยอมรับในชั้นศาลว่าได้กระทำความผิดหลายกระทง รวมถึงการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติเงินชดเชยการลาหยุดงานสำหรับบิดามารดา รวมไปถึงการทำบัญชีที่เป็นเท็จ และถูกปรับเป็นเงิน $19,720 ในขณะเดียวกัน บริษัทนัวร์พรีม จำกัด ของเขานั้นก็จำเป็นจะต้องจ่ายเพิ่มเติมอีก $100,000

นายนิค นิโคลส์ ผู้พิพากษากล่าวว่า เหตุผลบางข้อที่นายซิงห์ใช้อ้างเพื่อที่จะไม่ทำการจ่ายเงินนั้น “ไร้สาระ”

“นายซิงห์นั้น ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือถูกจับได้โดย FWO อย่างคามือจริงๆ โดยได้กระทำการอันมิชอบอย่างจงใจเกี่ยวกับบันทึกการจ่ายเงินที่เป็นเท็จ” เขากล่าว

บริษัทนัวร์พรีทนั้นเคยถูกยกเลิกเลขประจำตัวธุรกิจของออสเตรเลีย (ABN) ในปี 2016 และในขณะนี้บริษัทก็ไม่ได้ดำเนินกิจการอีกต่อไปแล้ว แต่นายนิโคลส์ ผู้พิพากษาก็กล่าวว่าการลงโทษนั้นจำเป็น เพื่อ “ช่วยเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้คนอื่นๆ ได้เกรงกลัวทั่วกันในอุตสาหกรรมงานบริการ”

เมื่อปีที่แล้ว เริ่มมีผลที่ตามมาซึ่งหนักหน่วงขึ้นต่อนายจ้างที่ไม่จัดเก็บบันทึกต่างๆ เกี่ยวกับลูกจ้างอย่างถูกต้องแม่นยำ โดยมีการเพิ่มบทลงโทษเป็นสองเท่าสำหรับบริษัทและบุคคลใดซึ่งจงใจทำเอกสารปลอมขึ้น

คดีดังกล่าวนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้ตรวจการแผ่นดินด้านการจ้างงานอย่างเป็นธรรมได้ทำการฟ้องร้องทางกฎหมายต่อนายจ้างซึ่งจงใจไม่โอนเงินเงินชดเชยการลาหยุดงานสำหรับบิดามารดาให้กับลูกจ้าง

นายจ้างและลูกจ้างที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 13 13 94

Share
Published 24 May 2018 10:33am
Updated 24 May 2018 8:05pm
By Jessica Washington
Presented by Tanu Attajarusit


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand