สรุปข่าวการเปลี่ยนแปลงของวีซ่าผู้สำเร็จการศึกษา (graduate visa) ในปี 2024

ปัจจุบันมีนักเรียนต่างชาติกว่า 650,000 คนอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย และหลายคนกำลังพยายามขอวีซ่าเพื่ออยู่ต่อ นั่นคือ วีซ่าชั่วคราวหลังจบการศึกษา (graduate visa) ซึ่งวีซ่าตัวนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

India-students-graduates

การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่ถือวีซ่าชั่วคราวสำหรับผู้สำเร็จการศึกษามีเป้าหมายเพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถหางานที่มีทักษะหรือออกจากประเทศ

รายงานของ Grattan Institute ในปี 2023 พบว่านักเรียนต่างชาติที่สำเร็จการศึกษา 1 ใน 3 คนกลับเข้ามาเรียนต่อ "ส่วนใหญ่เรียนหลักสูตรอาชีวศึกษาที่ถูกกว่า เพื่อยืดเวลาการอยู่ในออสเตรเลีย"

ประเด็นที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ

คะแนนภาษาอังกฤษ

• คะแนนสอบที่จำเป็นสำหรับวีซ่าผู้สำเร็จการศึกษา (graduate visa) เพิ่มขึ้นจาก 6.0 เป็น 6.5

อายุขอผู้มีสิทธิ์ยื่น

• จำกัดอายุของผู้ที่จะยื่นวีซ่าตัวนี้ไว้ที่ 35 ปี แต่มีข้อยกเว้น สำหรับนักศึกษาที่เรียนแบบทำงานวิจัยที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอก รัฐบาลได้ชี้แจงว่า พวกเขาจะยังคงมีสิทธิ์จนถึงอายุ 50 ปี ผู้ถือหนังสือเดินทางของฮ่องกงและอังกฤษที่ถือสัญชาติต่างประเทศก็ยังคงมีสิทธิ์จนถึงอายุ 50 ปี

ระยะเวลาถือวีซ่า

• ระยะเวลาพำนักที่สั้นลง โดยลดเหลือเพียง 18 เดือน สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับ อาชีวศึกษา
• สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มอุดมศึกษา แบ่งเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี รวมถึงเกียรตินิยม สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ปริญญาโทโดยการเรียนแบบรายวิชา ระยะเวลาในการพำนักสูงสุดจะอยู่ที่ 2 ปี และสำหรับนักศึกษาที่ศึกษาระดับปริญญาโทโดยการวิจัยหรือปริญญาเอก จะอยู่ที่ 3 ปี
• ส่วนผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาในเขตภูมิภาคและอาศัยอยู่ในพื้นที่ภูมิภาคเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี ก็จะมีระยะที่ต่างกัน

ไม่สามารถยื่นขอวีซ่านักเรียนในประเทศได้อีก

• ผู้ที่ถือวีซ่า graduate visa จะไม่สามารถยื่นขอวีซ่านักเรียนในประเทศได้อีก หลังพบว่านักเรียนต่างชาติที่สำเร็จการศึกษา 1 ใน 3 คนกลับเข้ามาเรียนต่อ "ส่วนใหญ่เรียนหลักสูตรอาชีวศึกษาที่ถูกกว่า เพื่อยืดเวลาการอยู่ในออสเตรเลีย"
  

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ทางรัฐบาลกลางออสเตรเลียระบุในแถลงการณ์ว่า “จะช่วยฟื้นฟูความสมบูรณ์ให้กับระบบการศึกษานักเรียนต่างชาติของเรา และสร้างระบบการย้ายถิ่นฐานที่ยุติธรรมกว่า มีขนาดเล็กกว่า และสามารถตอบสนองความต้องการของออสเตรเลียได้ดีขึ้น”