Breaking

เมลเบิร์นล็อกดาวน์ต่อเจ็ดวันหลังพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มหกราย

เมลเบิร์นล็อกดาวน์ต่ออีกสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลกรณีแพร่เชื้อระหว่างบุคคลแปลกหน้า ด้านพื้นที่ส่วนภูมิภาคเตรียมคลายข้อจำกัดบางประการ

Near empty streets in Melbourne after six new community COVID-19 cases were recorded in the state.

Near empty streets in Melbourne after six new community COVID-19 cases were recorded in the state. Source: AAP

นครเมลเบิร์นยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ต่ออีกเจ็ดวัน ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกังวลว่าไวรัสสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ขณะนี้ “ติดต่อง่ายและรวดเร็วกว่าที่เราเคยพบมา”

วันนี้ (2 มิ.ย.) นายเจมส์ เมอร์ลิโน รักษาการมุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ประกาศขยายระยะเวลาล็อกดาวน์นครเมลเบิร์น พร้อมทั้งผ่อนคลายข้อจำกัดบางประการสำหรับพื้นที่ส่วนภูมิภาค

วันเดียวกันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ภายในชุมชนหกราย จากผลตรวจเชื้อกว่า 51,000 ครั้ง ในจำนวนนี้รวมผู้ติดเชื้อที่เดินทางในรัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อช่วงที่ผ่านมา รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมที่เชื่อมโยงกับการระบาดรอบปัจจุบัน 60 ราย

“เราต้องควบคุมให้ได้ เพราะถ้าเราไม่ทำ จะมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น” นายเมอร์ลิโนกล่าว

ผู้อาศัยในพื้นที่เขตมหานครเมลเบิร์นและปริมณฑล (Metropolitan Melbourne) ต้องอยู่ในที่พักอาศัยจนถึงเวลา 23.59 น. วันที่ 10 มิถุนายน โดยออกจากบ้านได้เฉพาะเหตุผลห้าประการ ได้แก่ ซื้อข้าวของเครื่องใช้จำเป็น ทำงานที่ได้รับอนุญาต ให้การดูแลหรือรับการดูแล ออกกำลังกาย และไปฉีดวัคซีน

ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 3 มิถุนายน ข้อจำกัดระยะการเดินทางในเมลเบิร์นเพื่อประกอบกิจกรรมที่อนุญาต จะขยายจากรัศมี 5 กิโลเมตรเป็น 10 กิโลเมตรจากที่พักอาศัยของตน

พร้อมทั้งอนุญาตให้นักเรียนระดับชั้น Year 11 และ 12 กลับไปเข้าเรียนที่โรงเรียน

ขณะเดียวกัน พื้นที่ส่วนภูมิภาครัฐวิกตอเรียยกเลิกคำสั่งให้อยู่ในที่พักอาศัย ประชาชนสามารถเดินทางจากบ้านได้โดยไม่จำกัดระยะทางจากที่พักอาศัย และทำกิจกรรมรวมกลุ่มกลางแจ้งได้สูงสุด 10 คน

ผู้อาศัยในส่วนภูมิภาครัฐวิกตอเรียสามารถเดินทางเข้าเขตมหานครเมลเบิร์นได้เฉพาะเหตุผลห้าข้อข้างต้น และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่บังคับใช้ในเขตมหานครเมื่ออยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

ร้านอาหาร สถานบันเทิง ร้านค้าปลีก และกิจกรรมทางศาสนา เปิดทำการได้ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค แต่ผู้ประกอบการต้องตรวจสอบและยืนยันว่าผู้ใช้บริการไม่ใช่ผู้อาศัยในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น

"เรามีตัวอย่างก่อนหน้านี้ที่มีคนเดินทางออกจากเมลเบิร์น ฝ่าฝืนกฎแล้วเอาไวรัสไปแพร่" นายเมอร์ลิโนกล่าว "เราไม่ต้องการเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะกับไวรัสสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ตอนนี้"

ทางการตัดสินใจขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังจากพบกรณีการแพร่เชื้อในผู้สัมผัสครั้งคราว (casual contact) เพิ่มขึ้น โดยอย่างน้อย 1 ใน 10 ของผู้ป่วยปัจจุบันติดเชื้อจากบุคคลแปลกหน้า
อีกทั้งยังพบกรณีเชื่อมโยงกับสถานที่กลางแจ้ง ซึ่งที่ผ่านมาไม่คาดว่าเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่เราพบเห็นประจำ และเราไม่พบกรณีแบบนี้บ่อยนักในปี 2020” ศาสตราจารย์เบรตต์ ซัตตัน ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าว

“เราปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ เราไม่อาจปล่อยให้[ไวรัส]กระจายโดยไม่มีการตรวจจนเสี่ยงสัมผัสคนจำนวนมาก”

ขณะนี้ รัฐวิกตอเรียระบุรายชื่อสถานที่เสี่ยงสัมผัสโรคกว่า 350 แห่ง โดยมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกว่า 5,200 คน ทั้งนี้ ร้อยละ 78 ของผู้สัมผัสใกล้ชิดมีผลตรวจเป็นลบ

กรณีผู้ติดเชื้อรายใหม่ของวันพุธ (2 มิ.ย.) มีรายหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองแองเกิลซี (Anglesea) ในพื้นที่เกรทโอเชียนโรด (Great Ocean Road) ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีสถานที่ที่อาจเสี่ยงสัมผัสโรค ทั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้ติดเชื้อรายนี้และครอบครัวติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้อย่างไร
วันนี้ไม่มีรายงานกรณีติดเชื้อรายใหม่ที่เชื่อมโยงกับสถานดูแลผู้สูงอายุ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานผู้อาศัยในสถานดูแลหนึ่งคนและเจ้าหน้าที่อีกสองคนมีผลตรวจเป็นบวก

วานนี้ (1 มิ.ย.) นายเจโรน เวย์มาร์ (Jeroen Weimar) หัวหน้าฝ่ายงานตรวจเชื้อโรคโควิด-19 รัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า การระบาดภายในรัฐรอบนี้ มี 4-5 กรณีที่ติดเชื้อไวรัสจาก "การสัมผัสผิวเผิน"

"พวกเขาไม่รู้จักชื่อของกันและกัน นับว่าเป็นคนละเรื่องกับที่เราเคยพบเห็นมา" นายเวย์มาร์กล่าว

ทั้งนี้ ทางการสนับสนุนให้ผู้ใช้บริการศูนย์การค้าและย่านการค้า 14 แห่งในเขตมหานครเมลเบิร์นช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ไปเข้ารับการตรวจโควิด

ตั้งแต่วันพุธ (2 มิ.ย.) ได้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีน 10 แห่งทั่วรัฐ ภายใต้มาตรการเร่งฉีดวัคซีนช่วงห้าวันนี้
ช่องพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ เปิดทำการ 9.00 น. - 16.00 น. ผู้ปฏิบัติงานที่ประสงค์ฉีดวัคซีนผ่านช่องนี้ต้องแสดงหลักฐานการทำงานต่อเจ้าหน้าที่ก่อนรับบริการ


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 2 June 2021 1:11pm
Updated 2 June 2021 4:30pm
By SBS News
Presented by Phantida Sakulratanacharoen
Source: SBS News


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand