ออสฯ พร้อมเปิดรับใบสมัครวีซ่าบิดามารดาชนิดใหม่ เริ่มปี 2019

รัฐสภาสหพันธรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับวีซ่าดังกล่าวแล้ว โดยเป็นการเปิดช่องทางสำหรับวีซ่าชนิดใหม่ อย่างไรก็ตามฝ่ายค้านและกลุ่มตัวแทนผู้อพยพย้ายถิ่นฐานหลายกลุ่มไม่พอใจที่วีซ่าดังกล่าวของรัฐบาลนั้นมีความแตกต่างไปจากที่ได้เคยสัญญาไว้ก่อนหน้านี้

Australian visa Application

Source: SBS

You can read the full version of this story in English on SBS Punjabi .

รัฐบาลสหพันธรัฐได้ประกาศว่าจะเปิดรับคำร้องสำหรับวีซ่าที่ได้รับการรอคอยมาเป็นเวลายาวนาน temporary sponsored visa for parents (วีซ่าชั่วคราวสำหรับบิดามารดาซึ่งมีผู้ให้การสนับสนุน) ในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า หลังจากในที่สุดรัฐสภาก็ได้ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับวีซ่าดังกล่าวเมื่อวันพุธที่ 26 พ.ย. โดยวุฒิสภาสหพันธรัฐได้ผ่านร่างแก้ไขพระราชบัญญัติการตรวจคนเข้าเมือง (ความรุนแรงในครอบครัวและมาตรการอื่นๆ) ปี 2016 หรือ Migration Amendments (Family Violence and Other Measures) Bill 2016 ด้วยข้อเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ยื่นเสนอโดยรัฐบาล ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็ผ่านสภาล่างในวันเดียวกัน อันจะเป็นการปูทางต่อการเริ่มให้วีซ่าที่ชุมชนผู้อพยพย้ายถิ่นฐานนั้นได้เรียกร้องมาเป็นระยะเวลาหลายปี

“วีซ่าใหม่นี้จะช่วยให้ครอบครัวได้กลับมาพบกันและใช้เวลาร่วมกัน” รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง นายเดวิด โคลแมนกล่าวผ่านแถลงการณ์

“มันจะเปิดช่องทางใหม่ให้แก่บิดามาดาและปู่ย่าตายายเพื่อการเยี่ยมเยียนครอบครัวของพวกเขาในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะมอบผลประโยชน์ทางสังคมอย่างใหญ่หลวงให้กับชุมชนของออสเตรเลีย” เขากล่าวเสริม

อย่างไรก็ตาม นายโคลแมนได้พุ่งเป้าไปที่พรรคแรงงานซึ่งไม่เห็นด้วยกับข้อเปลี่ยนแปลงโดยรัฐบาลต่อกฎหมายดังกล่าว แม้ว่าในช่วงแรกนั้นได้ลงคะแนนเสียงเห็นชอบก็ตาม

“มันน่าประหลาดใจมากที่พรรคแรงงานลงคะแนนเสียงไม่เห็นชอบต่อกฎหมายที่สำคัญนี้ ซึ่งนายบิล ชอร์เทนจำเป็นจะต้องอธิบายต่อชุมชนต่างๆ ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงบอกให้วุฒิสมาชิกของเขานั้นยืนขวางทางการปฏิรูปนี้” รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองกล่าว

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากพรรคแรงงานก็ยืนยันว่าทางพรรคนั้น ไม่เห็นด้วยต่อข้อเปลี่ยนแปลงของกฎหมายในเรื่องอำนาจการตามทวงหนี้ ที่ทางพรรคนั้นยังมีความวิตกกังวล

รัฐมนตรีเงาด้านตรวจคนเข้าเมือง นายเชน นิวแมนน์ กล่าวว่า รัฐบาลนั้นควรจะให้มีวีซ่า โดยไม่ใช่แบบฉบับที่ “ได้รับการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งรวมไปถึงการมีเงื่อนไขหลายๆ ข้ออันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของที่ได้สัญญาไว้เมื่อมีการประกาศเรื่องนี้ รวมไปถึงการจำกัดวีซ่านี้ให้เพียงหนึ่งคู่บิดามารดาต่อครัวเรือนเท่านั้น

“เงื่อนไขต่างๆ  เช่นนี้ จะบังคับให้ครอบครัวนั้นต้องเลือกว่า บิดามารดา พ่อตาแม่ยาย หรือพ่อปู่แม่ย่าคนใด ที่พวกเขานั้นจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ก่อนหน้านี้พรรคแรงงานได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรต่อรัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง นายเดวิด โคลแมน เพื่อแสดงความวิตกกังวลต่างๆ เหล่านี้และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา” นายนิวแมนกล่าว

วีซ่าที่สัญญาไว้

ชุมชนผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน ได้ทำการรณรงค์เพื่อให้มีวีซ่าพิเศษสำหรับบิดามารดาของพวกตน และในช่วงก่อนการเลือกตั้งสหพันธรัฐครั้งที่แล้ว รัฐบาลของนายเทิร์นบูลล์ก็สัญญาว่าจะมีวีซ่าบิดามารดาซึ่งมีผู้ให้การสนับสนุน (sponsored parent visa) ที่จะอนุญาตให้บิดามารดาของผู้อพยพย้ายถิ่นฐานอยู่อาศัยในประเทศออสเตรเลียอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอาจถึงห้าปีได้
Parent Visa
Source: Getty Images
ในการ รัฐบาลได้ประกาศว่าผู้สมัครนั้นจะสามารถขอวีซ่าสามปีได้ด้วยค่าธรรมเนียม $5,000 ดอลลาร์ และวีซ่าห้าปีด้วยค่าธรรมเนียม $10,000 ดอลลาร์ โดยจะมีโอกาสให้ต่ออายุได้หนึ่งครั้งเป็นระยะเวลาห้าปีที่ราคาดังกล่าว

กลุ่มผู้อพยพย้ายถิ่นฐานตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจคนเข้าเมือง เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมสำหรับวีซ่าซึ่ง “สูงมาก”

“ผมไม่ทราบว่ามีผู้อพยพย้ายถิ่นฐานจำนวนมากที่สนใจวีซ่านี้สำหรับบิดามารดาของพวกเขาหรือไม่ แต่แน่นอนว่าผมจะไม่แนะนำให้ใครก็ตามทำไป มันไม่มีเหตุผลเลยที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าอย่างสูงลิบลิ่ว” คุณจุจฮาร์ บาจวา ตัวแทนการอพยพย้ายถิ่นฐานในนครเมลเบิร์นท่านหนึ่งกล่าว

ขอบข่ายของการเป็นสปอนเซอร์ใหม่

เมื่อร่างกฎหมายที่ถูกยื่นเสนอต่อรัฐสภาสหพันธรัฐได้ผ่านเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ขอบข่ายการเป็นสปอนเซอร์ก็ได้รับการกำหนดไว้ โดยภายใต้ขอบข่ายดังกล่าว ผู้อพยพย้ายถิ่นฐานซึ่งต้องการที่จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนบิดาบมารดาของพวกตนจะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันทางการเงิน และตามกฎหมายนั้นจะต้องเป็นผู้ชำระหนี้สินใดๆ ก็ตามที่บังเกิดขึ้นต่อผู้เสียภาษี เนื่องจากเหตุการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์

“วีซ่าใหม่นี้จะทำให้แน่ใจได้ว่า การมาอยู่ร่วมกันของสมาชิกครอบครัวนั้นจะเป็นไปได้สำหรับครอบครัวผู้อพยพย้ายถิ่นฐานเป็นจำนวนมากทั่วทั้งประเทศออสเตรเลีย ในขณะที่ก็ปกป้องผู้เสียภาษีด้วยข้อบังคับซึ่งเข้มงวดซึ่งพยายามให้แน่ใจว่า หนี้สินต่างๆ ด้านสาธารณสุขรวมถึงค่าใช้จ่ายต่อโรงพยาบาลและการดูแลผู้สูงอายุนั้น รัฐบาลออสเตรเลียจะสามารถทวงคืนได้” นายโคลแมนกล่าว

แต่นายบาจวาก็กล่าวว่า มีวีซ่านักท่องเที่ยวซึ่งมีราคาถูกกว่ามาก ซึ่งก็อนุญาตให้บิดามารดานั้นอยู่อาศัยในประเทศออสเตรเลียได้อาจถึงสองปีในช่วงเวลาสามปี ซึ่งมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของวีซ่าใหม่ และไม่มีข้อกำหนดต่างๆ ซึ่ง “เทอะทะ”

“ค่าธรรมเนียมที่สูงนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ปัญหาเดียว มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพเอกชนผ่านผู้ให้บริการของออสเตรเลีย และในกรณีที่บิดามารดาสร้างหนี้ด้านการดูแลสุขภาพ บุตรซึ่งเป็นสปอนเซอร์ก็จะถูกบังคับตามกฎหมายให้ชำระคืน ถึงแม้ว่าจะได้จ่ายค่าธรรมเนียม(วีซ่า)ในราคาที่สูงแล้วก็ตาม ในขณะที่สำหรับวีซ่านักท่องเที่ยวตามปกตินั้นไม่มีข้อกำหนดดังกล่าว” เขากล่าว

ขอบข่ายการเป็นสปอนเซอร์ใหม่ดังกล่าวยังทำให้เกิดกระบวนการยื่นสมัครแบบสองขั้น ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการประเมินตัวผู้เป็นสปอนเซอร์ ซึ่งเมื่อได้รับการอนุมัติแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าได้

ซึ่งข้อเปลี่ยนแปลงนี้ พุ่งเป้าไปเพื่อคุ้มครองสมาชิกครอบครัวที่มีความเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กๆ และคู่แต่งงาน จากสปอนเซอร์ของพวกเขาที่มีความรุนแรง

ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 11 December 2018 11:39am
Updated 11 December 2018 8:48pm
By Shamsher Kainth
Presented by Tanu Attajarusit
Source: SBS Punjabi


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand