ควีนส์แลนด์ประกาศปิดพรมแดน NSW-ACT เสาร์นี้

เย้ยกฎหมาย-หนีกักโรคอื้อ มุขมนตรีควีนส์แลนด์ลั่นเสาร์นี้ปิดพรมแดนระหว่างนิวเซาท์เวลส์ และมณฑลนครหลวงเอซีที

Queensland Premier Annastacia Palaszczuk.

Queensland Premier Annastacia Palaszczuk. Source: AAP

รัฐควีนส์แลนด์จะปิดพรมแดนระหว่างรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) และมณฑลนครหลวงออสเตรเลีย (ACT) หลังยังคงมีประชาชนที่ยังคงเพิกเฉยต่อมาตรการกักโรคภาคบังคับ 

โดยตั้งแต่เวลา 1:00 น. ของวันเสาร์นี้ (8 ส.ค.) ประชาชนในรัฐควีนส์แลนด์ที่เดินทางกลับมา จะต้องเข้ารับการกักตัวในโรงแรมกักกันโรคภาคบังคับเป็นเวลา 14 วัน และจะต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด โดยการเดินทางมาเยี่ยมพบปะจะไม่สามารถทำได้ และจะมีข้อยกเว้นที่น้อยลงมาก

นางอนาสตาเซีย ปาลาเชย์ มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า จะต้องมีการปิดพรมแดนอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากที่ยังคงท้าทายกฎหมาย

"มีผู้คนที่กำลังจะตาย สถานการณ์ที่นี่อยู่ระหว่างความเป็นและความตาย" นางปาลาเชย์กล่าวในวันนี้ (5 ส.ค.)

นายสตีเฟน ไมล์ส (Stephen Miles) รัฐมนตรีด้านสาธารณสุข กล่าวว่า การปิดพรมแดนในครั้งนี้ จำเป็นที่จะต้องรวมพื้นที่มณฑลนครหลวงออสเตรเลีย (ACT) เข้ามาด้วย หลังพบผู้หลบหนีการกักกันโรคเดินทางด้วยเครื่องบินมาจากกรุงแคนเบอร์รา โดยเจ้าหน้าที่พบคนหนึ่ง ซึ่งขับรถมาจากนครซิดนีย์ มายังมณฑลนครหลวงออสเตรเลีย (ACT) จากนั้นต่อเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังเมืองแคนส์ ในรัฐควีนส์แลนด์ เพื่อหลบหนีมาตรการกักกันโรคภาคบังคับ

ขณะที่ นายสตีฟ กอลชิวสกี (Steve Gollschewski) รักษาการผู้บัญชาการตำรวจรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า ชาวคนดังกล่าวได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “รู้สึกคับข้องใจ” กับมาตรการจำกัดห้าม และเขาต้องการที่จะไปทำงาน 

ขณะนี้ ชายคนดังกล่าวอยู่ระหว่างการกักกันโรคภาคบังคับ

วันนี้ รัฐควีนส์แลนด์ได้บันทึกยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 1 ราย หลังหญิงวัย 86 ปี ในเมืองอิพสวิตช์ (Ipswitch) ได้รับผลตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก

ขณะที่ชายอีก 3 ราย ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับได้ระหว่างหลบหนีการกักกันโรค หลังเดินทางกลับมาจากนครเมลเบิร์น ได้รับผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นลบ โดยทั้งหมดได้รับหมายเรียกจากศาล และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่


ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น.

ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จะเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น

ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น

รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้  ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 5 August 2020 11:19am
Updated 5 August 2020 11:26am
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand