สแกมเมอร์มาแนวใหม่ทำเป็นช่วยเหลือเหยื่อ

มิจฉาชีพใช้รูปกลอุบายรูปแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยี หลอกชาวออสเตรเลียให้สูญเงินไปแล้วเกือบ 500 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว

Scammers are now targeting superannuation accounts during coronavirus crisis

Scammers are now targeting superannuation accounts during coronavirus crisis. Source: Getty Images

You can read the full article in English

มิจฉาชีพพบวิธีใหม่ที่หลีกเลี่ยงไม่ให้เหยื่อวางสายโทรศัพท์จากการที่แสร้งทำเป็นเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิก โดยกลยุทธ์ใหม่ที่ใช้คืออ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่กำลังพยายามตามจับมิจฉาชีพที่หลอกลวงประชาชน

องค์กรดูแลผู้บริโภคของออสเตรเลียเผยว่า ‘การหลอกขอข้อมูลเพื่อนำไปใช้เข้าระบบคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ’ กำลังทำให้ชาวออสเตรเลียจำนวนมากเสียรู้มิจฉาชีพ ขณะที่การสูญเสียจากการหลอกลวงทุกรูปแบบเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นเกือบ 500 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว

ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่รู้ว่าต้องวางสายเมื่อมีคนโทรศัพท์มาบอกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกเขาถูกไวรัสเล่นงาน และคนที่โทรมาต้องการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของพวกเขาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้

แต่ขณะนี้ อาชญากรเหล่านี้กำลังแสร้งทำเป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ของเทลสตรา (Telstra) ที่กำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยอ้างว่าคอมพิวเตอร์ของเหยื่อถูกสแกมเมอร์แอบเจาะเข้าระบบแล้ว และพวกเขากำลังช่วยตามจับตัวมิจฉาชีพ

จากนั้นเหยื่อจะถูกหลอกให้บอกข้อมูลเพื่อให้สแกมเมอร์ที่โทรมาเข้าระบบคอมพิวเตอร์ได้ และส่งเงินให้เพื่อจะได้ ‘ตามหาเบาะแส’ ของผู้ลักลอบเข้าระบบได้ จากข้อมูลที่ระบุในรายงานการหลอกลวงล่าสุดของคณะกรรมาธิการการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย หรือเอทริปเปิลซี

หญิงสูงอายุผู้หนึ่งสูญเงินไปเกือบ 20,000 ดอลลาร์ หลังถูกขอให้ช่วยเหลือผู้รับเงินบำนาญคนอื่นๆ ติดตามหาเงินที่สูญไปผ่านบัตรไอทูน (iTune cards) รายงานของเอทริปเปิลซี เผย

เงินที่สูญไปจากการหลอกลวงเพื่อแอบเข้าระบบคอมพิวเตอร์เพื่อขึ้นสองเท่าเป็นจำนวนเงิน 4.76 ล้านดอลลาร์ในปี 2018

โดยเป็นเงินที่ถูกหลอกไปจากเหยื่อ 881 คน แม้ว่าจำนวนเงินโดยรวมของการถูกมิจฉาชีพหลอกเข้าระบบคอมพิวเตอร์ที่มีการรายงานให้เอทริปเปิลซีทราบนั้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 ไปอยู่ที่จำนวนเงิน 11,344 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว

โดยรวมแล้ว ชาวออสเตรเลียสูญเงินให้แก่มิจฉาชีพที่หลอกลวงมากเป็นประวัติการในปี 2018 ที่จำนวน 489.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดิม 340 ล้านดอลลาร์ จากกรณีที่มีการแจ้งในเอทริปเปิลซีและองค์กรอื่นๆ ของรัฐบาลทราบในปีก่อน (2017)

“เงินที่สูญเสียไปมากเป็นประวัติกาลครั้งนี้เป็นแค่ส่วนน้อยของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงอย่างมหาศาลเท่านั้น” นางดีเลีย ริคาร์ด รองประธาน เอทริปเปิลซี กล่าวเมื่อวันจันทร์ (29 เม.ย.)

“เรารู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่สูญเงินให้กับมิจฉาชีพจะแจ้งให้องค์กรรัฐบาลทราบ”

การหลอกลวงด้านการลงทุนสร้างความเสียหายทางการเงินมากที่สุดอีกครั้งในปีนี้ โดยเหยื่อสูญเสียเงินไปให้แก่การหลอกลวงด้านการลงทุนรวมเป็นจำนวน 86 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 34) ตามมาด้วยการหลอกลวงแบบรักออนไลน์ (Romance scam) เหยื่อสูญเงินไปรวมกันในปี 2018 จำนวน 60.5 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 44)

นางริคาร์ด กล่าวว่า มิจฉาชีพกำลังใช้กลอุบายแบบเก่ากับเทคโนโลยีใหม่ โดยขอให้จ่ายเงินด้วยวิธีที่แตกต่างไปจากปกติ และใช้ข้อความโทรศัพท์อัตโนมัติเพื่อเพิ่มการเข้าถึงประชาชนที่พวกเขาเพ่งเล็ง

เอทริปเปิลซี กล่าวว่า ชาวออสเตรเลียหลายหมื่นคนตกเป็นเป้าหมายของการโทรศัพท์เข้ามาด้วยข้อความอัตโนมัติ ที่อ้างว่าประชาชนเหล่านั้นติดหนี้ภาษีกับกรมสรรพากรออสเตรเลีย (Australian Taxation Office หรือเอทีโอ) เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ประชาชนเกือบ 19,455 คนแจ้งว่ามิจฉาชีพข่มขู่ที่จะจับกุมตัวพวกเขา ขู่ยึดทรัพย์สิน และแม้แต่ขู่จะเนรเทศพวกเขาออกจากออสเตรเลีย หากไม่จ่ายเงินให้ แต่มีเพียง 344 คนที่ตกเหยื่อ และสูญเงินไปเป็นจำนวนรวมกัน 3.3 ล้านดอลลาร์

Share
Published 29 April 2019 4:05pm
Updated 30 April 2019 10:45am
Presented by Parisuth Sodsai
Source: AAP


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand