VIC ทุบสถิติเหยื่อโควิด ด้านรบ.ให้คำมั่นร่างแผนฯปลดล็อกดาวน์

วันนี้ (31 ส.ค.) รัฐวิคตอเรียพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา 41 รายซึ่งเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สูงที่สุดของออสเตรเลียตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

Victorian Premier Daniel Andrews

Victorian Premier Daniel Andrews Source: AAP

มีผู้เสียชีวิตในรัฐวิคตอเรียจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 41 ราย ในขณะที่นาย แดเนียล แอนดรูส์ (Daniel Andrews) มุขมนตรี เปิดเผยว่าเขาจะประกาศแผนแม่บทการลดระดับล็อกดาวน์ระดับ 4 ในเมลเบิร์นในวันอาทิตย์

ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้ง 41 รายนี้ได้รวมเอาผู้ที่เสียชีวิตในสถานดูแลคนชราจำนวน 22 รายเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมแต่ได้แจ้งให้กระทรวงสุขภาพและการบริการมนุษย์ (The Department of Health and Human Services) ทราบในวันอาทิตย์ (30 ส.ค) และอีก 8 รายที่เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นาย แอนดรูส์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ (31 ส.ค.) ว่าจำนวนผู้เสียชีวิต 37 รายนี้ได้ถูกเชื่อมโยงกับสถานดูแลคนชราในขณะที่ตอนนี้มีจำนวนยอดผู้ติดเชื้อ 1,225 ราย
ส่วนกรณีความล่าช้าในการรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของพันธะสัญญาในการรายงานข่าว ศาสตราจารย์ แบรตต์ ซัตตัน เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการสรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนาประจำวัน

“ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นสถานดูแลคนชราทราบถึงเรื่องนี้รวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตเหล่านั้นก็ทราบเรื่องด้วยแต่มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เราเห็นจำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตมากเช่นนี้”

รัฐวิคตอเรียยังได้รับรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 73 รายภายในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ในขณะที่วันนี้ (31 ส.ค.) มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่เป็นจำนวน 94 ราย และ 114 ราย ในวันเสาร์ (29 ส.ค.) ที่ผ่านมา

ทำให้ในขณะนี้มีจำนวนยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดในรัฐวิคตอเรียมากกว่า 19,000 ราย รายงานล่าสุดมีผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการอยู่จำนวน 2,620 ราย ซึ่งนายแอนดรูส์เปิดเผยว่ามีผู้ติดเชื้อ 543 รายรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลซึ่งในจำนวนนี้ 21 รายรักษาตัวในห้องไอซียู

อย่างไรก็ตามจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ได้รับรายงานในวันนี้ (31 ส.ค.) เป็นเรื่องที่น่ายินดีซึ่งก็เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์เอาไว้ ศ.แบรตต์ ซัตตัน ชี้ว่ามีการคาดการณ์ว่ายอดผู้ติดเชื้อจะลดลงเรื่อยๆ

ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อค่อยๆ ลดลง นายแอนดรูส์ตั้งธงไว้ว่าเขาจะประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับแผนแม่บทที่จะคลายล็อคดาวน์ในวันที่ 6 กันยายนนี้

“ตอนนี้มันค่อนข้างเร็วไปหน่อยที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับแผนแม่บทและจับวางมันไว้เช่นนั้น เราต้องการดูข้อมูลในอาทิตย์ถัดไปด้วยซึ่งมันสำคัญมาก”

“ผมทราบดีว่าอีกอาทิตย์หนึ่งมันเป็นยังไง ซึ่งมันเป็นเวลาที่ยาวนานมากที่ต้องอยู่กับบ้าน แต่มันเป็นระยะเวลายาวนานเช่นกันเมื่อคำนึงถึงการทำความเข้าใจว่าไวรัสนี้กำลังทำอะไรอยู่”
ในขณะที่ในวันจันทร์ (31 ส.ค.)นาย โจช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งรัฐบาลสหพันธรัฐได้เตือนนายแอนดรูส์ให้กำหนดวันเวลาที่จะคลายมาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 ในนครเมลเบิร์นไม่เช่นนั้นรัฐวิคตอเรียอาจเผชิญกับภาวะการว่างงานอย่างหนักอีกระลอก 

มีการคาดการณ์ว่าในเดือนธันวาคมนี้จะมีชาวรัฐวิคตอเรียที่ยังอยู่ในโครงการช่วยเหลือ JobKeeper ของรัฐบาล

“มันจะเป็นนโยบายสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดที่ประกาศใช้โดยรัฐบาลระดับรัฐที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์”

นายฟรายเดนเบิร์กบรรยายถึงสถานการณ์ในรัฐวิคตอเรียว่าเป็นภาพเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าของอุบัติเหตุรถยนต์
ส่วนสมาพันธ์ตำรวจแห่งรัฐวิคตอเรียเรียกร้องให้มีการยืดระยะเวลาใช้อำนาจภาวะฉุกเฉินแห่งรัฐเพื่อเป็นทำให้แน่ใจว่าการคลายมาตรการล็อกดาวน์จะเป็นไปโดยปลอดภัย

“มันอาจจะไม่มีแผนการที่เหมาะสมที่จะกลับสู่ภาวะปกติ หากไม่มีแผนงานที่ออกแบบมาเพื่อทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นการดำเนินงานอย่างปลอดภัยและค่อยๆ ปลดมาตรการล็อกดาวน์ออกไปในที่สุด”

“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่อยู่เหนือการเมือง ความปลอดภัยของชุมชนและผู้คนของเราในช่วงเวลาที่อันตรายเช่นนี้มันสำคัญมาก”

ด้านกองบัญชาการตำรวจรัฐวิคตอเรียเปิดเผยในวันจันทร์ (31 ส.ค.) ว่าในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาได้มีการปรับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายไปเป็นจำนวน 195 ราย รวมถึงมีผู้คนจำนวน 60 รายทั่วนครนครเมลเบิร์นที่ฝ่าฝืนการห้ามออกจากเคหะสถานในเวลา 20.00น.-5.00 น. ส่วนอีก 21 รายนั้นฝ่าฝืนกฎข้อบังคับที่ต้องสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะ


 

ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น.

ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จำเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น

ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น

รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้  ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 31 August 2020 4:06pm
Updated 15 September 2020 3:57pm
By Maani Truu
Presented by Chayada Powell


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand