Breaking

VIC ล็อกดาวน์หนึ่งสัปดาห์เริ่มเที่ยงคืนนี้

รัฐบาลรัฐวิกตอเรียประกาศมาตรการล็อกดาวน์ระยะเวลา 7 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่ 11 รายจากคลัสเตอร์โควิด-19 ในพื้นที่ทางเหนือของนครเมลเบิร์น

People are seen waiting in a line to receive covid19 tests at a walk-in covid19 testing facility in Melbourne, Wednesday, May 26, 2021.

People wait for COVID tests in Melbourne on Wednesday, 26 May. Source: AAP

รัฐวิกตอเรียประกาศเข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์ตั้งแต่เวลา 23.59 น. ของวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ขณะทางการพยายามควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ทางเหนือของนครเมลเบิร์น

ประชาชนต้องสวมหน้ากากทั้งในร่มและกลางแจ้ง ยกเว้นในที่พักอาศัยของตน

โรงเรียนปิดทำการ ยกเว้นบริการสำหรับบุตรของพนักงานผู้ปฏิบัติงานสาขาที่จำเป็น ขณะที่บริการดูแลเด็กเล็ก (childcare) สามารถเปิดทำการได้

ซูเปอร์มาร์เก็ตและบริการจำเป็นยังคงเปิดให้บริการ เช่น ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน ร้านขายยา ส่วนร้านอาหาร ผับ คาเฟ่ให้บริการได้เฉพาะซื้อกลับบ้านเท่านั้น

ผู้อาศัยในรัฐวิกตอเรียสามารถออกจากบ้านได้ภายใต้เหตุผลห้าข้อ ได้แก่ จัดหาอาหารและเครื่องใช้ ให้การดูแลและรับการดูแล ทำงานประเภทที่ได้รับอนุญาต ออกกำลังกาย หรือไปฉีดวัคซีน

การออกกำลังกายและจับจ่ายของใช้จำเป็น จำกัดการเดินทางอยู่ภายในระยะ 5 กิโลเมตรจากที่พักอาศัยของตน อีกทั้งจำกัดเวลาออกกำลังกายที่สองชั่วโมงพร้อมกับบุคคลอื่นอีกหนึ่งคน

ไม่อนุญาตให้จัดงานแต่งงานยกเว้นบางสถานการณ์ เช่น ก่อนเสียชีวิตหรือกรณีส่งตัวกลับประเทศ

กิจกรรมทางศาสนาไม่สามารถจัดได้ ยกเว้นในรูปแบบถ่ายทอดออกอากาศโดยมีผู้ประกอบกิจกรรมสูงสุด 5 คน
นายเจมส์ เมอร์ลิโน รักษาการมุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสำคัญยิ่งต่อการตัดสินใจนี้ นับเป็นล็อกดาวน์ครั้งที่ 4 ของรัฐ

“หากเราตัดสินใจเลือกผิดตอนนี้ หากเรารอช้าเกินไป สิ่งนี้จะหลุดรอดจากมือเรา” นายเมอร์ลิโนกล่าวต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี

รัฐวิกตอเรียรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในชุมชนรายใหม่ 11 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รวมยอดผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์พื้นที่ทางเหนือของนครเมลเบิร์น 26 ราย

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ติดตามผู้สัมผัสโรคติดต่อผู้เสี่ยงสัมผัสเชื้อทั้งโดยตรงและโดยอ้อม (primary and secondary contacts) มากกว่า 10,000 คน อีกทั้งอยู่ระหว่างประเมินสถานที่เสี่ยงสัมผัสโรคมากกว่า 150 แห่งทั่วรัฐ

นายเมอร์ลิโนกล่าวว่า ล็อกดาวน์ครั้งนี้เพื่อ "ตัดวงจร" ไวรัสที่แพร่กระจายในอัตรา "รวดเร็วอย่างยิ่ง" ซึ่งฝ่ายสาธารณสุขแนะนำว่าจำเป็นต้องใช้เวลาเจ็ดวัน

ศาสตราจารย์เบรตต์ ซัตตัน (Brett Sutton) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่าทางการกำลังรับมือกับไวรัสสายพันธุ์ B161 ซึ่งมีอัตราการติดต่อสูง

"เมื่อเราพบสมาชิกครอบครัวคนหนึ่งติดเชื้อ แทบทุกคนในบ้านก็ติดไปด้วย" ศาสตราจารย์ซัตตันกล่าว

"ติดต่อไวมาก [จำนวนผู้ติดเชื้อ]จึงเพิ่มขึ้นทวีคูณ"

เตรียมฉีดวัคซีนผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไป

นอกจากนี้ นายเมอร์ลิโนยังประกาศขยายสิทธิ์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นในรัฐวิกตอเรียสามารถเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

"เหตุผลที่เรามารับมือการระบาดวันนี้ก็เพราะเชื้อหลุดรอดจากโรงแรมกักโรคในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย" นายเมอร์ลิโนกล่าว

"เราเจอกรณีหลุดรอดเช่นนี้ในโรงแรมกักโรคทั่วประเทศ หนทางเดียวที่จะข้ามผ่านโรคระบาดนี้ไปได้คือทุกคนเข้ารับวัคซีนทันทีที่มีสิทธิ์"

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหพันธรัฐประกาศส่งมอบวัคซีนแก่รัฐวิกตอเรียเพิ่มเติม 130,000 โดส
ด้านนายเมอร์ลิโนชี้ถึงความล่าช้าในการดำเนินงานกระจายวัคซีนของสหพันธรัฐ

"หากเรามีวัคซีน หากโครงการวัคซีนของสหพันธรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เราคงไม่ต้องมาอยู่ในจุดนี้"

มาตรการตอบรับจากรัฐอื่น

หน่วยงานด้านสุขภาพรัฐนิวเซาท์เวลส์แจ้งว่า ผู้ใดก็ตามที่เดินทางมาจากรัฐวิกตอเรียหลังเวลา 16.00 น. ของวันพฤหัสบดี (27 พ.ค.) ต้องปฏิบัติตามกฎล็อกดาวน์ของรัฐวิกตอเรียแม้แต่ขณะอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์

กล่าวคือ ต้องอยู่ในที่พักเป็นเวลาเจ็ดวันและอนุญาตให้ออกจากบ้านได้เฉพาะบางเหตุผล อาทิ ซื้อของใช้จำเป็น รับการดูแลทางการแพทย์ ให้การดูแลบุคคลอื่น ออกกำลังกายกลางแจ้ง และทำงานหรือเรียนด้านที่จำเป็น

อย่างไรก็ตาม ชาวรัฐนิวเซาท์เวลส์ในชุมชนบริเวณพรมแดนต้องปฏิบัติตามกฎเหล่านี้หากเดินทางออกนอกพื้นที่พรมแดนตั้งแต่เวลา 16.00 น.

รัฐเซาท์ออสเตรเลียอนุญาตให้ผู้ที่เดินทางในพื้นที่เขตมหานครเมลเบิร์น (Greater Melbourne) ข้ามพรมแดนเข้ารัฐได้เฉพาะผู้ปฏิบัติงานด้านที่จำเป็นและชาวรัฐเซาท์ออสเตรเลียที่เดินทางกลับ แต่ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อสามครั้งและแยกตัวจากผู้อื่น 14 วัน

ส่วนผู้ที่เดินทางจากพื้นที่ดังกล่าวเข้ารัฐเซาท์ออสเตรเลียตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อและแยกตัวจากผู้อื่นจนกว่าจะมีผลตรวจเป็นลบ

ด้านนครเพิร์ทตั้งคลินิกตรวจเชื้อที่สนามบินรองรับผู้เดินทางจากรัฐวิกตอเรีย โดยต้องแยกตัวจากผู้อื่นจนกว่าจะมีผลตรวจเป็นลบ

รัฐควีนส์แลนด์ขอให้ประชาชนพิจารณาเลี่ยงการเดินทางทุกประเภทไปยังรัฐวิกตอเรียโดยเฉพาะพื้นที่เขตมหานครเมลเบิร์น ส่วนผู้อาศัยหรือมีประวัติเยือนเมืองวิตเทิลซีตั้งแต่ 11 พฤษภาคม จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้ารัฐตั้งแต่เวลา 01.00 น. ของวันพฤหัสบดี


หากคุณต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต สามารถติดต่อ บียอนด์ บลู (Beyond Blue) โทร. 1300 22 4636 หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ 

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080 

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 




Share
Published 27 May 2021 11:41am
Updated 27 May 2021 2:36pm
By Rashida Yosufzai
Presented by Phantida Sakulratanacharoen


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand