Settlement Guide: ชมฟ้าส่องดาวในออสเตรเลีย

Milky Way over the Karlu Karlu/Devils Marbles Conservation Reserve, NT

Milky Way over the Karlu Karlu Source: Getty Images/John White Photos

ชวนคุณสำรวจท้องฟ้าและหมู่ดาวอันน่าพิศวงของซีกโลกใต้ พร้อมกับกระแสความหลงใหลใน “การท่องเที่ยวชมท้องฟ้ามืด” หรือ ‘dark sky tourism’ ของออสเตรเลีย


กดเพื่อฟังสัมภาษณ์
LISTEN TO
Dark sky tourism stargazing in Australia image

Settlement Guide: ชมฟ้าส่องดาวในออสเตรเลีย

SBS Thai

03/01/202210:07

ท้องฟ้าที่ไม่เหมือนใครของออสเตรเลีย

กลุ่มดาวและวัตถุท้องฟ้าบางส่วนไม่อาจมองเห็นได้จากซีกโลกเหนือ อีกทั้งออสเตรเลียยังมีพื้นที่ธรรมชาติที่มืดสนิทห่างไกลจากแสงเรืองบนท้องฟ้าของชุมชนเมือง ที่นี่จึงมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการดูดาว

“ตอนที่ผมย้ายจากอเมริกามาออสเตรเลียครั้งแรก ผมทึ่งกับท้องฟ้าอันสวยงามและทุกสิ่งที่คุณเห็นได้ที่นี่ ซึ่งผมไม่มีโอกาสได้เห็นเมื่ออยู่ในซีกโลกเหนือ" คุณดูอาน ฮามอาเคอร์ (Duane Hamacher) รองศาสตราจารย์สาขาดาราศาสตร์เชิงวัฒนธรรมที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น กล่าวถึงความประทับใจแรก 

"ทั้งระนาบทางช้างเผือก เมฆแมกเจลแลน กลุ่มดาวกางเขนใต้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งใหม่สำหรับผม แล้วเห็นได้ชัดเจนเหลือเกินจากซีกโลกใต้”

กลุ่มดาวกางเขนใต้หรือ Southern Cross คือกลุ่มดาวที่มีชื่อเสียงที่สุดของออสเตรเลีย มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาว โดยมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของท้องฟ้ายามค่ำคืน

กลุ่มดาวกางเขนใต้ประกอบขึ้นจากดาวห้าดวงเรียงตำแหน่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดแนวนอน ทั้งยังเป็นจุดตั้งต้นที่ดีสำหรับสังเกตปรากฏการณ์อื่น ๆ บนท้องฟ้า
Southern Cross constellation
Southern Cross constellation Source: Getty images/Phil Clark/EyeEm
คุณแครอล เรดฟอร์ด (Carol Redford) หรือ ‘Galaxy Girl’ ผู้ก่อตั้งสมาคมการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Astrotourism WA) กล่าวถึงหนึ่งในวัตถุท้องฟ้าที่เห็นได้ชัดที่สุดจากซีกโลกใต้

“เมฆแมกเจลแลนดูเหมือนเมฆฟุ้งก้อนน้อยสองก้อนลอยอยู่บนซีกฟ้าใต้ใกล้กับกลุ่มดาวกางเขนใต้ เมฆแมกเจลแลนไม่ได้อยู่ในกาแล็กซีเดียวกับเรา แต่เป็นกาแล็กซีบริวารของกาแล็กซีทางช้างเผือกที่เราอาศัยอยู่ จึงเห็นได้เฉพาะจากซีกโลกใต้” คุณเรดฟอร์ดกล่าว

ไกลจากแสงเรืองของเมืองใหญ่

คุณเรดฟอร์ดมุ่งมั่นพัฒนาการท่องเที่ยวชมท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ท้องฟ้ามืดอันกว้างใหญ่ของดินแดนแห่งนี้คือสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการดูดาวที่สุดอีกที่หนึ่งของโลก

คุณเรดฟอร์ดกล่าวว่า เพียงเดินทาง 2-3 ชั่วโมงจากเมืองใหญ่ใดๆ ในออสเตรเลีย เราจะได้พบกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สวยบริสุทธิ์ เช่น บลูเมาน์เทนส์ (Blue Mountains) ทางตะวันตกของซิดนีย์ ภาคตะวันตกของควีนส์แลนด์ ภาคตะวันออกของเวสเทิร์นออสเตรเลีย หรือแม้แต่แค่ออกนอกเมืองเพิร์ท

คุณฮามอาเคอร์เสริมว่า ท้องฟ้าที่สวยงามที่สุดนั้นเห็นได้จากทะเลทราย
อากาศแห้งมาก เย็นมาก มีแสงน้อยมาก ยิ่งช่วงเดือนสิงหาคมกับเดือนกันยายนทางช้างเผือกจะอยู่เหนือศรีษะพอดี
Milky Way
Under the Milky Way Source: Getty Images/Supoj Buranaprapapong

กลุ่มดาวจากพื้นที่ว่างบนท้องฟ้ามืด

คุณฮามอาเคอร์อธิบายว่า มุมมองต่อท้องฟ้าทั้งของชาวตะวันตก ทั้งของชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส ต่างจัดดวงดาวเข้าเป็นกลุ่ม หรือที่เรียกว่า "กลุ่มดาว"

"แต่มีกลุ่มดาวบนท้องฟ้ามืดบางกลุ่มเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซีกโลกใต้ นั่นคือกลุ่มดาวที่ไม่ได้ประกอบจากดาวฤกษ์เท่านั้น แต่รวมถึงพื้นที่ว่างอันมืดมิดระหว่างหมู่ดาวและทางช้างเผือก ในทางดาราศาสตร์ตะวันตก พื้นที่ว่างเหล่านั้นคือบริเวณของก๊าซเย็นและฝุ่นธุลี เป็นแหล่งกำเนิดของดวงดาว"

ตามภูมิปัญญาพื้นบ้านของชาวอะบอริจิน พื้นที่ว่างสร้างเค้าโครงเงาเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น “นกอีมูบนท้องนภา” หรือ “Emu in the Sky”

คุณกิลลาร์ ไมเคิล แอนเดอร์สัน (Ghillar Michael Anderson) ผู้อาวุโสแห่งกลุ่มชนโอลิอา (Euahlayi) และนักดาราศาสตร์จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ บรรยายว่า นกอีมูบนท้องนภาคือผู้พิทักษ์แห่งสายน้ำ

"ทุกคนล้วนมีสายสัมพันธ์กับนกอีมูนี้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งนกอีมูตัวนี้นอนอิงแอบกับทางช้างเผือก เพราะทางช้างเผือกนั้นหมายถึง 'แม่น้ำสายใหญ่บนท้องนภา' บนฟ้านั้นคือกายของเธอ บนผืนน้ำของโลกนั้นคือที่สถิตของจิตวิญญาณ” คุณกิลลาร์เล่า
Emu in the Sky
Emu in the Sky Source: Stellarium.org

นักดาราศาสตร์ยุคบุกเบิก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผู้คนชนชาติแรก (First Nations) บนแผ่นดินนี้คือนักดาราศาสตร์ยุคบุกเบิกของออสเตรเลีย คุณฮามอาเคอร์กล่าวว่า พวกเขาต้องอาศัยความรู้ด้านดาราศาสตร์ระดับหนึ่งเพื่อเดินทางมาถึงที่นี่เมื่อหลายหมื่นปีก่อน

“ในช่วงสหัสวรรษนั้น ผู้คนชนชาติแรกได้พัฒนาระบบภูมิความรู้อันซับซ้อนเกี่ยวกับดวงดาว นั่นคือสิ่งที่เหล่าท่านผู้อาวุโสเรียกว่า ‘การอ่านดาว’” คุณฮามอาเคอร์กล่าว
กล่าวกันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นพิภพนั้นล้วนแต่สะท้อนอยู่บนท้องฟ้า
คุณกิลลาร์เพิ่มเติมว่า ท้องฟ้ายามราตรียังมีนัยกำหนดเครือข่ายสังคมของชาวอะบอริจินรวมทั้งสายสัมพันธ์ของพวกเขาต่อสภาพแวดล้อมด้วย

“คุณจะเห็นว่าด้านทิศตะวันออกของทางช้างเผือกสว่างกว่าอีกฟาก นั่นคือฝั่งที่ฟ้าจะเปลี่ยนสู่กลางวัน แน่นอนว่าด้านทิศตะวันตกคือฝั่งของท้องฟ้ากลางคืน นั่นคือสองส่วนของจักรวาลและทางช้างเผือก ซึ่งบอกเราว่าเราทำอะไรได้หรือไม่ได้" คุณกิลลาร์กล่าว
The sky above Spoonbill Lake
The sky above Spoonbill Lake, Chittering, one hour north of Perth Source: Astrotourism WA

ท้องฟ้าที่ถูกคุกคาม

มลภาวะทางแสงเพิ่มขึ้นปีละประมาณร้อยละ 2
เมื่อเมืองใหญ่ทั่วโลกขยายตัวขึ้น มีแสงเรืองยิ่งปะปนบนท้องฟ้ากลางคืนมากขึ้นจนบดบังทัศนวิสัยดวงดาวไปด้วย คุณเรดฟอร์ดและสมาคมการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียร่วมงานกับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อรักษาท้องฟ้ากลางคืนไว้ให้มืดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“ที่เวสเทิร์นออสเตรเลียเรามีท้องฟ้ากว้างที่ยังคงมืดสนิท รัฐบาลท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญมากในการพิทักษ์รักษาสมบัติอันแสนงดงามนี้ต่อไป” คุณเรดฟอร์ดกล่าว


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand