คุก 2 สามีภรรยาหลอกใช้ผู้อพยพ สะท้อนภาพแรงงานทาสยุคใหม่ในออสฯ

Joshua McAleer ignored reporters' questions

Joshua McAleer ignored reporters' questions Source: SBS

ศาลได้ตัดสินจำคุกคู่สามีภรรยาชาวซิดนีย์คู่หนึ่ง ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวหญิงชาวฟิลิปปินส์ไว้เป็นแรงงานทาสที่บ้านและกิจการของพวกเขานานกว่า 3 ปี โดยคดีดังกล่าวได้เน้นย้ำถึงปัญหาแรงงานทาสยุคใหม่ในออสเตรเลียที่ยังไม่หมดไป ตำรวจเผยทุกคนในชุมชนมีส่วนในการหยุดยั้งปัญหานี้


LISTEN TO
Sentencing for Sydney couple who admitted to slavery-like offences image

คุก 2 สามีภรรยาหลอกใช้ผู้อพยพ สะท้อนภาพแรงงานทาสยุคใหม่ในออสฯ

SBS Thai

29/06/202106:49
นายโจชัวร์ แม็กอลีเออร์ (Joshua McAleer) พร้อม นางชีลา แม็กอลีเออร์ (Shiela McAleer) ผู้เป็นภรรยา จากเมืองร็อกเดล (Rockdale) ในนครซิดนีย์ ถูกศาลตัดสินจำคุกวันนี้ ในความผิดเข้าข่ายมีทาสในครอบครอง หลังล่อลวงหญิงชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่ง และบังคับให้เธอทำงานเป็นคนรับใช้ภายในบ้านและกิจการของพวกเขาในนครซิดนีย์ทั้งวันทั้งคืน ซึ่งรวมถึงร้านขายของชำคาพามิลยา (Kapamilya grocery) และกิจการร้านอาหารต่าง ๆ ของพวกเขาทั่วนครซิดนีย์   

นางแม็กอลีเออร์ ซึ่งเป็นมารดาลูก 3 ที่มีความสุขกับการจับจ่ายซื้อของในร้านแฟชั่นบูติกหรูหรา จะต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน โดยศาลกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำห้ามปล่อยตัวเป็นเวลา 14 เดือน

ส่วนนายแม็กอลีเออร์ ได้รับโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่ศาลให้ประกันตัว จนกว่าผู้พิพากษาจะมีคำตัดสินว่า เขาจะสามารถรับโทษในชุมชนได้หรือไม่

นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งให้ทั้งสองต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับเหยื่อเป็นจำนวน $70,000 ดอลลาร์

เหยื่อรายดังกล่าว ซึ่งไม่สามารถระบุตัวตนได้ ทำงานเป็นแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านของครอบครัวแม็กอลีเออร์ในนครซิดนีย์ ต่อมาได้ทำงานที่ร้านขายของชำ และร้านอาหารของพวกเขาในเมืองร็อกเดล (Rockdale)

เธอถูกล่อลวง ถูกจำกัดการเคลื่อนไหว และต้องพึ่งพาปัจจัยทางการเงินจากสามีภรรยาคู่นี้ โดยถูกข่มขู่ว่าจะโดนทำร้ายหากเธอพยายามที่จะหลบหนี

ทั้งสองถูกกล่าวหาว่า พวกเขาบังคับให้เธอทำงานเป็นคนดูแลบ้าน และเป็นพี่เลี้ยงให้กับบุตรทั้ง 3 ของครอบครัวแม็กอลีเออร์ ทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดหย่อน เธอไม่ได้รับอิสระในการออกจากบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และถูกบังคับให้ใช้ชื่อปลอมเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ  

เหยื่อรายนี้เดินทางมายังออสเตรเลียในปี 2013 หลังจากที่นางแม็กอลีเออร์ได้ออกค่าใช้จ่ายในการทำพาสปอร์ต และวีซ่าท่องเที่ยวระยะเวลา 3 เดือนให้กับเธอ ซึ่งวีซ่าดังกล่าวจำกัดไม่ให้เธอสามารถทำงานในออสเตรเลียได้ 

ผู้พิพากษาได้ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีของครอบครัวแม็กอลีเออร์ เป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมในข้อหาบังคับใช้แรงงาน และการปิดบังซ่อนเร้นผู้ไม่ใช่พลเมืองออสเตรเลียอย่างผิดกฎหมาย โดยจนถึงปัจจุบัน ออสเตรเลียมีการดำเนินคดีในลักษณะนี้เพียง 2 ครั้ง ซึ่งรวมถึงคดีดังกล่าว

นางพอลลา ฮัดสัน (Paula Hudson) ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการพิเศษด้านการค้ามนุษย์ กรมตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย (AFP) กล่าวว่า ยังมีคดีอื่น ๆ ในลักษณะนี้อยู่อีกมากที่เราอาจมองข้ามไป
ดิฉันบอกตามตรงว่า คดีเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงคดีในวันนี้ เป็นเรื่องน่าตกใจและชวนหัวใจสลายที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ผู้คนและชุมชนอาจคิดว่า การค้ามนุษย์และการใช้แรงงานทาสนั้นไม่เกิดขึ้นในออสเตรเลีย แต่นั่นไม่จริงเลย มันกำลังเกิดขึ้น และมันกำลังเกิดขึ้นที่นี่ ในชุมชน และในบ้านเรา ผู้กำกับการฮัดสัน กล่าว
กรมตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย ระบุว่า คดีเหล่านี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจอย่างมากสำหรับผู้ตกเป็นเหยื่อของการกระทำที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์และแรงงานทาส โดยได้ส่งสารไปยังผู้ที่กำลังตกเป็นเหยื่อว่า มีความช่วยเหลือที่พวกเขาเข้าถึงได้ และมีทางออกสำหรับสถานการณ์ที่น่าสะเทือนใจนี้

บ่อยครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้น คือ อิสระในการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะถูกจำกัด พวกเขาจะถูกบังคับให้อยู่ในเงื่อนไขที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าหนีไปไม่ได้ บ่อยครั้งพวกเขาอาจถูกยึดเอกสารระบุตัวตน หรือถูกตัดขาดจากการสื่อสาร เพื่อที่จะทำให้พวกเขาหนีไปไม่ได้ 

"และในบางครั้ง พวกเขาอาจถูกทำให้รู้สึกว่า ตนเองกำลังทำผิดอาญา และมีความผิด และถูกข่มขู่ให้จำยอมอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น มันจึงเป็นคดีอาชญากรรมที่เป็นเรื่องยากที่ผู้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นจะแจ้งกับเจ้าหน้าที่" ผู้กำกับการฮัดสัน กล่าว

"แต่สารของเรา AFP ที่ต้องการจะสื่อไปยังผู้ที่อาจกำลังตกเป็นเหยื่อ นั่นก็คือ มันมีทางออกสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายเหล่านี้ เรามีความพร้อมและความสามารถที่จะช่วยเหลือคุณได้" ผู้กำกับการฮัดสัน กล่าว

เมื่อปีที่ผ่านมา กรมตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย (AFP) ได้รับรายงานเหตุการค้ามนุษย์และแรงงานทาสจำนวน 223 ครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า ตัวเลขที่แท้จริงนั้นอาจสูงกว่านี้ เนื่องจากจำนวนการรายงานเหตุในความเป็นจริงนั้นไม่เพียงพอ

"เมื่อปีการเงินที่ผ่านมา เราได้รับรายงานการค้ามนุษย์และแรงงานทาส 223 ครั้งเข้ามายัง AFP ในปีการเงินนี้ เราคาดว่าจะมีการรายงานในแนวโน้มเดียวกันหรืออาจมากขึ้น" ผู้กำกับการฮัดสัน กล่าว

"อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2019 สถาบันอาชญาวิทยาออสเตรเลีย ได้เปิดเผยการศึกษาวิจัยในบริบทของออสเตรเลีย ซึ่งเปิดเผยว่า ทุก 1 ครั้งที่มีการรายงานเหตุจากผู้ตกเป็นเหยื่อ จะพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อ 4 คนที่ไม่ได้รายงาน"  

"ดังนั้น ความเป็นจริงของสถานการณ์นี้ในออสเตรเลียก็คือ มีเหตุเกิดขึ้นมากกว่าที่ได้มีการรายงานมายัง AFP และเราได้ตระหนักในเรื่องนั้นเป็นอย่างมาก"


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand