ออสเตรเลียจะเปิดประเทศ 21 ก.พ.นี้ ต้องรู้อะไรบ้าง

อีกไม่ถึงสัปดาห์ พรมแดนระหว่างประเทศของออสเตรเลียก็จะเปิดแล้ว หลังปิดมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสำคัญด้านพรมแดนระหว่างประเทศที่จะมีผลในไม่ช้า

Overseas tourists can return to Australia from next week.

Source: AAP Image/James Gourley

21 กุมภาพันธ์นี้ นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะเดินทางเข้ามายังออสเตรเลียได้เป็นครั้งแรก หลังออสเตรเลียปิดพรมแดนมานานเกือบ 2 ปีจากการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19

นางแคเรน แอนดรูส์ (Karen Andrews) รัฐมนตรีมหาดไทยออสเตรเลีย ได้กล่าวในการประกาศมาตรการเปิดพรมแดนในสัปดาห์นี้ว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นไป "เพื่อการปกป้องสุขภาพของชาวออสเตรเลีย และทำงานเพื่อฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศในเวลาเดียวกัน"

เอสบีเอส นิวส์ วิเคราะห์ประเด็นสำคัญ ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงมาตรการจำกัดการเดินทางครั้งสำคัญในสถานการณ์โควิด-19 ของออสเตรเลียจะมีผลในเร็ว ๆ นี้

เกิดอะไรขึ้น

ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ออสเตรเลียจะไม่กำหนดให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องขอยกเว้นการเดินทางอีกต่อไป ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และผู้มาเยี่ยมเยือนออสเตรเลียในกรณอื่น ๆ เดินทางเข้าประเทศได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา

นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการในขั้นต่อไปของการทยอยเปิดพรมแดนออสเตรเลียอีกครั้ง

“มันเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล และเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมาก ขณะที่เราขับเคลื่อนออสเตรเลียกลับสู่จุดที่เราจะบรรลุความเป็นปกติให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายมอร์ริสันกล่าวต่อผู้สื่อข่าว
A family is reunited and hugs at Brisbane airport.
Queensland scrapped quarantine for some international arrivals in January, allowing family reunions to take place. Source: AAP

มีเงื่อนไขและข้อกำหนดอะไรบ้าง

ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางมายังออสเตรเลียหลังจากวันที่ 21 ก.พ.นี้ จะไม่จำเป็นต้องขอยกเว้นการเดินทาง แต่จะต้องแสดงหลักฐานที่ระบุว่าได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว หรือมีใบรับรองในกรณีได้รับการงดเว้นจากการฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลทางการแพทย์

เว็บไซต์ของหน่วยงานมหาดไทยออสเตรเลีย ได้ระบุแนวทางการพิจารณาว่า ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้ได้รับวัคซีนโดยสมบูรณ์ (fully vaccinated) สำหรับการเดินทางเข้าออสเตรเลีย หมายถึงผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวน 2 โดส โดยมีระยะห่างระหว่างโดสอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนแบบผสมหรือการฉีดไขว้ โดยใช้วัคซีนจากผู้ผลิตดังต่อไปนี้

    • AstraZeneca (Vaxzevria)
    • AstraZeneca (Covishield)
    • Pfizer/Biontech (Comirnaty)
    • Moderna (Spikevax or Takeda)
    • Sinovac (Coronavac)
    • Bharat Biotech (Covaxin)
    • Sinopharm (BBIBP-CorV) สำหรับผู้ที่เดินทางมาออสเตรเลียที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปีเมื่อเดินทางมาถึง)
    • Gamaleya Research Institute (Sputnik V)
    • Novavax/Biocelect (Nuvaxovid)
  • หรือได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 เพียง 1 โดสจากผู้ผลิตวัคซีนต่อไปนี้
    • Johnson & Johnson/ Janssen-Cilag COVID Vaccine
ซึ่งวัคซีนทั้งหมดนี้ และจะมีการพิจารณาเพื่อยอมรับและอนุมัติวัคซีนชนิดอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต

แต่อย่างไรก็ตาม รัฐและมณฑลต่าง ๆ อาจประกาศใช้มาตรการเป็นของตนเองเองได้ เช่นในรัฐวิกตอเรีย โดย นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ผู้เดินทางระหว่างประเทศจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการยอมรับเป็นจำนวน 3 โดส 

นายไซมอน เบอร์มิงแฮม (Simon Birmingham) รัฐมนตรีเศรษฐกิจของออสเตรเลีย กล่าวว่า การกระทำของนายแอนดรูส์เป็นการเติมเชื้อไฟให้กับความไม่แน่นอนและควรได้รับการทบทวนใหม่อีกครั้ง เพราะรัฐวิกตอเรียอาจพลาดโอกาสในการได้รับการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เดินทางระหว่างประเทศจะมอบให้

“คำแนะนำด้านสาธารณสุขของเครือจักรภพระบุว่า เราสามารถดำเนินการด้วยแนวทางฉีดวัคซีน 2 โดสได้” นายเบอร์มิงแฮม กล่าวกับเครือข่ายโทรทัศน์ไนน์ เน็ตเวิร์ก

“โอกาสที่พวกเขาจะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่ออสเตรเลียนั้น แน่นอนว่าเขา (นายแอนดรูส์) ก็ยื่นข้อเสนอนี้ได้ เราก็ทำได้ เราไม่อยากทะเลาะกันในประเด็นนี้ เราต้องการให้พวกเขา (รัฐวิกตอเรีย) ยึดตามแนวทางเดียวกับส่วนที่เหลือในประเทศนี้จะปฏิบัติตาม ซึ่งก็คือคำแนะนำด้านสาธารณสุขที่ระบุว่าให้ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส” นายเบอร์มิงแฮม กล่าว

แล้วคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะทำอย่างไร

หน่วยงานมหาดไทยของออสเตรเลียระบุว่า สำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับวัคซีนโควิด-19 ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ จะสามารถเข้าถึงเงื่อนไขการเดินทางเดียวกับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างสมบูรณ์

โดยผู้ที่จะได้รับยกเว้นจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับการเดินทางมายังออสเตรเลียนั้น จะต้องแสดงใบรับรองทางการแพทย์เป็นภาษาอังกฤษที่มีรายละเอียดชื่อ-นามสกุล วันที่เข้ารับคำปรึกษา และรายละเอียดภาวะอาการอันเป็นผลให้ได้รับการยกเว้นจากการฉีดวัคซีนโควิด-19  

รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่า การติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนหน้านี้ ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นข้อห้ามจากการรับวัคซีนโควิด-19 โดยได้กล่าวถึงกรณีของ นายโนวัค ยอโควิช นักเทนนิสชื่อดังระดับโลกที่ถูกเนรเทศออกจากออสเตรเลีย จากความล้มเหลวในการแสดงหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาน่าจะส่งสารที่มีความชัดเจนอย่างมากไปยังผู้คนทั่วโลก”

ทั้งนี้ เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปี จะได้รับการพิจารณาว่าได้รับวัคซีนอย่างสมบูรณ์ แม้พวกเขาจะไม่ได้รับวัคซีนโควิดชนิดใดก็ตาม และยังได้มีการกำหนดเงื่อนไขเพื่ออนุญาตให้เด็กที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบโดสหรือไม่ได้รับวัคซีนใด ๆ เลย เดินทางไปยังบางรัฐและมณฑลของออสเตรเลีย พร้อมกับผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโดยสมบูรณ์ได้

นโยบายใหม่จะมีผลทั่วทั้งออสเตรเลียหรือไม่

อย่างไรก็ตาม รัฐและมณฑลต่าง ๆ ก็สามารถประกาศใช้มาตรการหรือกฎต่าง ๆ ของตนเองได้เช่นกัน ซึ่งประชาชนที่มีความประสงค์จะเดินทางไปต้องปฏิบัติตามแม้ว่าจะผ่านวันที่ 21 กุมภาพันธ์ไปแล้ว ซึ่งอาจเป็นกฎการกักตัวเฝ้าระวังอาการ ข้อกำหนดในการตรวจเชื้อโควิด-19 หรือแม้กระทั่งการปฏิเสธที่จะให้ผู้เดินทางเข้ามายังพื้นที่เหล่านั้น

รัฐและมณฑลส่วนใหญ่ในออสเตรเลียอนุญาตให้มีการเดินทางจากต่างประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเฝ้าระวังอาการแล้ว ยกเว้นรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งยังคงมีข้อกำหนดให้ต้องกักตัวเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 2 สัปดาห์เมื่อเดินทางมาถึง

ขณะที่การเปิดพรมแดนระหว่างประเทศอีกครั้งของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด นับตั้งแต่ นายมาร์ค แม็กโกแวน มุขมนตรีรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ตัดสินใจเลื่อนวันเปิดพรมแดนระหว่างประเทศออกไปจากวันที่ 5 กุมภาพันธ์

เกิดอะไรขึ้นบ้างกับแผนทยอยเปิดประเทศอีกครั้งของออสเตรเลีย

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ประกาศปิดพรมแดนระหว่างประเทศกับผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองออสเตรเลีย ในวันที่ 20 มีนาคม 2020 ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยระบุว่า “ความสำคัญอันดับหนึ่งของเรา คือการชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาเพื่อช่วยชีวิตผู้คน” นอกจากนี้ยังมีมาตรการจำกัดห้าม ไม่ให้ชาวออสเตรเลียเดินทางไปต่างประเทศโดยที่ไม่ได้รับการยกเว้นการเดินทาง

ต่อมาในเดือนตุลาคม 2021 สมาชิกครอบครัวใกล้ชิดของชาวออสเตรเลีย และผู้อยู่อาศัยถาวรของออสเตรเลีย (PR) สามารถขอยกเว้นการเดินทางเพื่อเข้ามายังออสเตรเลียได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกักตัวเฝ้าระวังอาการในแต่ละรัฐและมณฑล

เมื่อ 15 ธันวาคมปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้เปิดพรมแดนระหว่างประเทศส่วนหนึ่งให้กับนักศึกษาต่างชาติ และผู้ถือวีซ่าสำเร็จการศึกษาชั่วคราว (Temporary Graduate Visa) อย่างไรก็ดี การประกาศดังกล่าวก็เป็นการเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมที่ประกาศไว้ในตอนแรกคือวันที่ 1 ธันวาคม ขณะที่ผู้ถือวีซ่าประเภทอื่นก็ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องขอยกเว้นการเดินทางเช่นกัน เช่น ผู้ถือวีซ่าทักษะขาดแคลนชั่วคราว (Temporary Skills Shortage Visa – Subclass 482) วีซ่าเวิร์กกิง ฮอลิเดย์ (Working Holiday Visa – Subclass 417) และวีซ่าสำหรับพ่อแม่แบบมีสปอนเซอร์ (Sponsored Parent Visa – Subclass 870)
University representatives hold signs as international students arrive at Sydney Airport in Sydney
Students were among the first to be allowed to enter Australia. Source: AAP

ประเทศอื่นมีมาตรการอย่างไรสำหรับผู้เดินทางจากออสเตรเลีย

ถึงแม้ว่าออสเตรเลียจะเปิดพรมแดนให้กับผู้เดินทางจากต่างประเทศ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางกลับบ้านจากออสเตรเลียนั้น อาจพบกับปัญหาจากมาตรการจำกัดห้ามที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้งในประเทศอื่น ๆ

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ออสเตรเลียถูกนำออกจากรายชื่อประเทศสีเขียวของสหภาพยุโรป เช่นเดียวกับประเทศอาร์เจนตินา และแคนาดา ขณะที่แต่ละประเทศในสหภาพยุโรปก็สามารถประกาศกฎหรือข้อจำกัดต่าง ๆ ของตนเองขึ้นมาได้ ในส่วนของเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศ

ที่สหรัฐ ฯ ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้จัดให้ออสเตรเลียเป็นจุดหมายปลายทางที่มีความเสี่ยงในระดับ 4 ซึ่งอยู่ในระดับ “สูงมาก (Very high)” โดยได้เตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเหล่านี้ และควรฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครบโดสก่อนเดินทาง หากมีความจำเป็นต้องไปยังจุดหมายปลายทางในระดับนี้

ก่อนหน้าการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา ระบบเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของออสเตรเลียได้รับการสนับสนุนโดยนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ แต่จีนนั้นยังคงมีมาตรการจำกัดห้ามที่เข้มงวดสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ในความพยายามเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยผู้ที่เดินทางเดินทางเข้าไปยังประเทศจีนจากต่างประเทศ จะต้องกักตัวเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วันเมื่อเดินทางมาถึง


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

โควิด-19 อัปเดต: วัคซีนโนวาแวกซ์มาถึงออสเตรเลียแล้ว


Share
Published 9 February 2022 4:53pm
Updated 17 February 2022 9:22am
By Alexander Britton
Presented by Tinrawat Banyat


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand