ร่างงบประมาณสหพันธรัฐเผยการเปลี่ยนแปลงสำคัญด้านวีซ่า

รัฐบาลออสเตรเลียเผยแผนดึงผู้อพยพย้ายถิ่นที่มีความสามารถมากที่สุดจากทั่วโลกเมื่อเปิดพรมแดนระหว่างประเทศอีกครั้ง ขณะที่อัตราเติบโตของประชากรในออสเตรเลียต่ำสุดในรอบศตวรรษ

Australia's border closures will see net migration falling into negative levels.

Australia's border closures will see net migration falling into negative levels. Source: AAP

7 ต.ค. การแถลงแถลงร่างงบประมาณแผ่นดินเมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) ได้เปิดเผยคาดการณ์อัตราการอพยพย้ายถิ่นสุทธิมายังออสเตรเลีย ว่าจะลดลงสู่แดนลบเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่   และจะยังไม่ฟื้นตัวไปสู่ระดับที่เคยเป็นมา ก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะมาถึงเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี  

จากข้อมูลดังกล่าว หมายความว่า อัตราการเติบโตของประชากรชาวออสเตรเลียจะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 0.2 ในปีงบประมาณนี้ ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบกว่าศตวรรษ จากการที่ผู้อพยพย้ายถิ่นเดินทางออกจากออสเตรเลีย และผู้ถือวีซ่าชั่วคราวรายใหม่ถูกจำกัดห้ามไม่ให้เข้ามายังออสเตรเลีย จากมาตรการปิดพรมแดนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

สาระสำคัญ

  • อัตราสุทธิในการอพยพย้ายถิ่นมายังออสเตรเลียจากต่างประเทศนั้น คาดว่าจะลดลงเข้าสู่แดนลบเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยคาดว่าจะลดลงเหลือ 72,000 คน ในปีงบประมาณ 2020-21
  • จำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นจากต่างประเทศสุทธิ จะไม่ฟื้นตัวเข้าสู่แดนบวกจนกว่าจะถึงปีงบประมาณ 2022-23
  • ปีนี้ อัตราการเติบโตของประชากรในออสเตรเลียจะลดลงเหลือเพียง 0.2% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 100 ปี จากการปิดพรมแดนระหว่างประเทศช่วงวิกฤตไวรัส และอัตราการเกิดที่ต่ำลง
  • รัฐบาลสหพันธรัฐจะมุ่งดึงดูดผู้อพยพย้ายถิ่นที่มีทักษะจากต่างประเทศ และให้ความสำคัญกับผู้ยื่นขอวีซ่าภายในประเทศ หวังฟื้นระบบเศรษฐกิจเมื่อเปิดพรมแดนอีกครั้ง 
ขณะที่อัตราการเกิดของประชากรในออสเตรเลีย (ซึ่งกำหนดนิยามจากจำนวนเด็กที่ผู้หญิงแต่ละคนให้กำเนิด) คาดว่าจะลดลงเหลือร้อยละ 1.58 ในช่วงปีงบประมาณ 2020-22 ซึ่งลดลงอย่างมีนัยยะจากที่คาดการณ์ไว้ในปีงบประมาณ 2019-20 ที่อัตราร้อยละ 1.9

ข้อมูลการคาดการณ์ที่อยู่ในการแถลงร่างงบประมาณแผ่นดิน ปีงบประมาณ 2020-21 โดย นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังของออสเตรเลีย ซึ่งถูกเลื่อนเวลาแถลงมาก่อนหน้านี้  ได้แสดงให้เห็นว่า ประชากรในออสเตรเลียจะเพิ่มขึ้นเป็น 26 ล้านคนในปี 2022 ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ในช่วงเวลาเดียวกันของร่างงบประมาณแผ่นดินในปีงบประมาณก่อนหน้าประมาณ 1 ล้านคน

ในส่วนของจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นจากต่างประเทศสุทธิ ร่างงบประมาณแผ่นดินเมื่อปีการเงินที่ผ่านมาคาดว่า อัตราผู้อพยพย้ายถิ่นสุทธิในปีปฏิทินนี้จะอยู่ที่ 271,300 คน และ 267,600 คน ในปีปฏิทินหน้า แต่อัตราการคาดการณ์ใหม่ในปีงบประมาณล่าสุดได้ระบุว่า ตัวเลขมีแนวโน้มลดลงเข้าสู่แดนลบในปีงบประมาณ 2020-21 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1946

โดยอัตราอพยพย้ายถิ่นสุทธิในปีงบประมาณ 2019-20 คาดว่าจะลดลงจาก 154,000 คน เหลือ 72,000 คน ในปีงบประมาณ 2020-21 และลดลงเหลือ 21,600 คน ในปีงบประมาณ 2021-22 ก่อนที่จะทยอยเพิ่มขึ้นไปเป็นประมาณ 201,000 คน ภายในระยะเวลา 4 ปี

โดยตัวเลขการอพยพย้ายถิ่นจากต่างประเทศสุทธิ เป็นตัวชี้วัดว่า มีผู้เข้ามายังออสเตรเลียและอยู่อาศัยมากกว่า 12 เดือนเป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งเปรียบเทียบกับจำนวนผู้คนที่เดินทางออกจากออสเตรเลียในช่วงระยะเวลาเดียวกัน โดยการอพยพย้ายถิ่นจากต่างประเทศ ตามปกติแล้วจะคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของอัตราการเติบโตของประชากร 

นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังของออสเตรเลียระบุว่า อัตราการเติบโตของประชากรที่ลดลงเป็นประวัติการณ์ จะมีผลในระยะยาวต่อระบบเศรษฐกิจ ขณะที่รัฐบาลสหพันธรัฐกำลังเผชิญกับภาวะขาดดุลงบประมาณ $213,700 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณนี้ ซึ่งเป็นการขาดดุลงบประมาณที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย
การอพยพย้ายถิ่น และการเติบโตของประชากร เป็นสิ่งสำคัญสำหรับระบบเศรษฐกิจของออสเตรเลีย มันคือหนึ่งนโยบาย 3P คือ Population (ประชากร), Participation (การมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจ) และ Productivity (การสร้างผลิตผล) นายฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังกล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ ก่อนหน้าการแถลงร่างงบประมาณแผ่นดิน
Victoria 190 & 491 Visa nomination places updated
จะมีข้อกำหนดด้านภาษาอังกฤษสำหรับวีซ่าคู่ครอง (partner visa) Source: SBS

การเปลี่ยนแปลงด้านวีซ่าในร่างงบประมาณฯ ปีนี้

การแถลงร่างงบประมาณแผ่นดินโดยรัฐบาลสหพันธรัฐ ยังได้เปิดเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงมากมายเกี่ยวกับนโยบายด้านวีซ่าชั่วคราว ซึ่งรัฐบาลหวังว่าจะเป็นการดึงดูดผู้อพยพย้ายถิ่น “ที่ดีและมีความสามารถมากที่สุด” กลับมายังออสเตรเลีย แต่อัตรากำหนดรับผู้อพยพย้ายถิ่นที่ 160,000 คนต่อปี ที่มีการประกาศใช้เมื่อปีงบประมาณ 2019-20 นั้นจะยังคงเดิม 

การเปลี่ยนแปลงในโครงการผู้อพยพย้ายถิ่นต่าง ๆ นั้น รวมถึงการเพิ่มจำนวนรับผู้อพยพย้ายถิ่นเป็น 3 เท่า ในโครงการ Global Talent Independent ให้มีอัตรารับอยู่ที่ 15,000 ตำแหน่ง และเพิ่มอัตรารับผู้อพยพย้ายถิ่นในโครงการ Business Innovation and Investment เป็น 13,500 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ การรับผู้อพยพย้ายถิ่นผ่านช่องทางการมาอยู่ร่วมกันของครอบครัว (family reunion scheme) จะเพิ่มขึ้นจาก 47,732 ตำแหน่ง เป็น 77,300 ตำแหน่ง ในปีงบประมาณนี้ แต่ในช่องทางดังกล่าว คิดเป็นประเภทคู่ครองจำนวน 72,300 ตำแหน่ง ซึ่งนั่นหมายความว่าจะเหลือเพียง 5,000 ตำแหน่งเท่านั้น สำหรับประเภทครอบครัวที่มีบุตรหลาน 

ในจำนวนผู้ที่เดินทางมายังออสเตรเลียนั้น รัฐบาลคาดว่าจะเป็นผู้ที่ถือวีซ่าทักษะประมาณ 2 ใน 3 จากทั้งหมด 

ผู้ที่ยื่นขอวีซ่า Working Holiday และวีซ่าท่องเที่ยว (visitor visa) จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมทันทีที่มีการเปิดพรมแดนอีกครั้ง เพื่อเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ส่วนผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จะได้รับการคืนค่าธรรมเนียมวีซ่า ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงิน $270 ล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 4 ปี

ขณะที่การอพยพย้ายถิ่นผ่านช่องทางการสปอนเซอร์โดยนายจ้าง รวมถึงโครงการ Global Talent และ Business Innovation and Investment จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญเป็นอันดับแรก เช่นเดียวกับผู้ยื่นขอวีซ่าที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียภายในพื้นที่ส่วนภูมิภาคที่ได้รับการกำหนด และผู้ยื่นขอวีซ่าคู่ครอง (partner visa) ที่มีสปอนเซอร์พำนักอาศัยอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน

นอกจากนี้ จะมีข้อกำหนดด้านทักษะภาษาอังกฤษสำหรับผู้ยื่นขอวีซ่าคู่ครอง (partner visa) ซึ่งรวมถึงสปอนเซอร์ที่เป็นผู้อาศัยถาวร (PR) เพื่อเป็นการกระตุ้นการมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจ    

ในส่วนของการอพยพย้ายถิ่นผ่านช่องทางด้านมนุษยธรรม (humanitarian program) จะมีการกำหนดอัตรารับผู้อพยพย้ายถิ่นในช่องทางดังกล่าวที่ 13,750 ตำแหน่ง และจะได้รับเงินสนับสนุนโครงการเพิ่มเติมจำนวน $12.7 ล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 2 ปี ในการขยายโครงการสำหรับเยาวชนซึ่งมีอยู่แล้ว

ขณะที่การปฏิรูปโครงการภาษาอังกฤษสำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ย้ายถิ่นฐาน (AMEP) และบริการตั้งรกราก จะทำให้รัฐบาลสหพันธรัฐสามารถประหยัดรายได้ $958.3 ล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 4 ปี 

ออสเตรเลียได้ปิดพรมแดนระหว่างประเทศมาตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยยกเว้นสำหรับพลเมืองออสเตรเลีย ผู้อาศัยถาวร (รวมถึงสมาชิกครอบครัวใกล้ชิดของทั้งสองประเภท) และผู้ที่ได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในท้องถิ่น

โดยรัฐบาลออสเตรเลียคาดว่าจะมีวัคซีนสำหรับประชาชนทั่วทั้งประเทศภายในสิ้นปี 2021 ซึ่งจะทำให้ออสเตรเลียสามารถทยอยกลับมาเปิดพรมแดนได้อีกครั้ง

นายไมเคิล แม็กคอร์แม็ก (Michael McCormack) รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ชาวนิวซีแลนด์ จะเป็นผู้เดินทางระหว่างประเทศชาติแรกที่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป 


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 7 October 2020 12:27pm
Updated 7 October 2020 12:44pm
By Maani Truu
Presented by Tinrawat Banyat


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand