ประธานแพทย์หนุนหลังล็อกดาวน์อาคารสงเคราะห์ในวิกตอเรีย

ศ.พอล เคลลี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของสหพันธรัฐ สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐวิกตอเรียในการออกคำสั่ง “ล็อกดาวน์ขั้นเด็ดขาด” สำหรับตึกอาคารสงเคราะห์ 9 แห่งของรัฐ

People ride past police patrols outside public housing towers on Racecourse Road in Flemington, Melbourne, Sunday, 5 July, 2020.

People ride past police patrols outside public housing towers on Racecourse Road in Flemington, Melbourne, Sunday, 5 July, 2020. Source: AAP

ศาสตราจารย์ พอล เคลลี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของสหพันธรัฐ ให้การสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลรัฐวิกตอเรีย ในการสั่งล็อกดาวน์ ห้ามการเข้าออกอย่างสิ้นเชิง สำหรับตึกอาคารสงเคราะห์ 9 แห่งของรัฐวิกตอเรีย โดยระบุว่า จำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มงวดและเด็ดขาด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

“ตึกเหล่านั้นมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในพื้นที่เล็กๆ ตึกเหล่านั้นเป็นเหมือนเรือสำราญแนวตั้ง ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า การแพร่ระบาดถูกควบคุมให้น้อยลงและประชาชนได้รับการปกป้อง” ศ.เคลลี บอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงแคนเบอร์รา ในวันอาทิตย์ (5 ก.ค.)

เขากล่าวว่า ทุกรัฐและทุกมณฑลได้ตกลงจะให้ความสนับสนุนตามที่รัฐวิกตอเรียร้องขอ ขณะที่วิกตอเรียกำลังพยายามรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง และกล่าวว่าความช่วยเหลือส่วนใหญ่ได้มาถึงรัฐวิกตอเรียแล้ว

“เราไม่เคยได้ห็นการแพร่ระบาดของเชื้อนี้ในชุมชนที่อยู่ในระดับสูงขนาดนี้ตั้งแต่มีการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนาเกิดขึ้นในออสเตรเลีย แต่เราได้เห็นมันในประเทศอื่นๆ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสมและสมน้ำสมเนื้อ ซึ่งต้องดำเนินการทันทีและได้รับการสนับสนุนจากพวกเราทุกฝ่าย” ศ.เคลลี ระบุ

ขณะเดียวกัน บริการให้ความช่วยเหลือด้านความรุนแรงในครอบครัวและกลุ่มปกป้องสิทธิทางกฎหมาย แสดงความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ในตึกอาคารสงเคราะห์ดังกล่าว ระหว่างช่วงล็อกดาวน์ขั้นเด็ดขาด

องค์กรความรุนแรงในครอบครัวแห่งรัฐวิกตอเรีย (Domestic Violence Victoria) กล่าวว่า ผู้หญิง เด็ก และประชาชนที่มีความเปราะบาง ซึ่งกำลังเผชิญความรุนแรงในครอบครัว ที่อยู่ในตึกอาคารสงเคราะห์เหล่านั้น ต้องได้รับอนุญาตให้ออกมาขอความช่วยเหลือและออกจากตึกได้ หากพวกเขามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
A sign is seen on a window at one of the public housing towers on Racecourse Road in Flemington, Melbourne.
A sign at one of the public housing towers on Racecourse Road in Flemington, Melbourne. Source: AAP
ศูนย์กฎหมายชุมชนประจำพื้นที่เฟลมมิงตันและเคนซิงตัน (Flemington and Kensington Community Legal Centre) กล่าวในแถลงการณ์ว่า องค์กร “วิตกอย่างมาก” เกี่ยวกับการล็อกดาวน์ขั้นเด็ดขาดนี้

“มีรายงานว่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นรู้สึกสับสน หวาดกลัว วิตกกังวล และเมื่อคืนนนี้ ต้องพบกับคำสั่งที่ขัดแย้งกันเองจากตำรวจและเจ้าหน้าที่ ขณะที่พวกเขาพยายามเตรียมตัวให้พร้อมกับการล็อกดาวน์ขั้นเด็ดขาด 5 วันที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน” ศูนย์กฎหมายชุมชน กล่าวเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

“เราได้เรียกร้องมานานแล้วให้มีมาตรการทางสุขภาพที่มุ่งเน้นการดูแลและสวัสดิภาพ ไม่ใช่มาตรการที่เป็นเหมือนการลงโทษ ที่จะส่งผลให้เกิดความเสียหายมากขึ้นไปอีก” ทางศูนย์ระบุ
นอกจากนี้ยังการตำหนิการขาดข้อมูลเป็นภาษาอื่นๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในตึกอาคารสงเคราะห์เหล่านั้น ที่จำนวนมากไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก

มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวปกป้องการดำเนินการของรัฐบาลวิกตอเรียในการจัดการกับสถานการณ์นี้ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า

“บริการหลากหลายได้เข้าไปยังตึกเหล่านั้นแล้วทั่วพื้นที่ โดยกรรมาธิการดูแลด้านพหุวัฒนธรรมของวิกตอเรีย ยังได้ประสานงานกัลผู้นำชุมชนต่างๆ ให้ส่งสารออกไปยังเครือข่ายกระจายข้อมูลของพวกเขา และให้พวกเขามีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวประสานงานกับชุมชน” นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีวิกตอเรีย กล่าว

“ยังมีล่ามภาษาปฏิบัติงานในตึกดังกล่าว และจะเคาะประตูห้องต่างๆ ในตึกเพื่อช่วยอธิบายคำสั่งและช่วยให้เราเข้าใจความช่วยเหลือที่ผู้เช่าตึกแต่ละคนอาจต้องการ เพื่อช่วยเหลือผู้อาศัยในตึก รัฐบาลวิกตอเรียยังได้จัดอาหารและของใช้จำเป็น รวมทั้งบริการด้านสุขภาพและสุขภาพจิตให้แก่ประชาชนด้วย” นายแอนดรูส์ เสริม

“ได้มีการเริ่มส่งกล่องกิจกรรมสำหรับเด็กๆ ไปให้ในตึกแล้ว โดยข้างในกล่องจะมีดินสอสี เลโก้ และหนังสือกิจกรรมสนุกๆ และยังมีการตั้งโทรศัพท์สายด่วนเฉพาะกิจ เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า มีการให้ความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงให้แก่ผู้อยู่อาศัยในตึกทุกเมื่อที่พวกเขาต้องการ”

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

บริการแปลและล่ามฟรีในออสเตรเลีย

 


Share
Published 6 July 2020 10:36am
By Jarni Blakkarly
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand