เวลาฤดูร้อนเริ่มแล้ว จะรักษาสุขภาพของคุณอย่างไร

เวลากลางวันที่ยาวนานและอบอุ่นขึ้นกำลังจะมาถึง หลังการปรับเวลาฤดูร้อนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่สิ่งนี้อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณได้อย่างไร

Thai Article Image - DST and Health.jpg

ในเช้าวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม มีผู้คนไม่น้อยที่อาจยังรู้สึกงัวเงียหลังการปรับเวลาฤดูร้อน (Daylight Savings Time) Credit: Cris Saur/Sonja Langford via Unsplash

ประเด็นสำคัญในบทความ
  • ในวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นวันเริ่มต้นของเวลาฤดูร้อน (Daylight Saving Time) ในบางรัฐและมณฑลของออสเตรเลีย เวลาจะปรับขึ้น 1 ชั่วโมงเพื่อให้กลางวันยาวนานขึ้น และจะปรับลงในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายนปีถัดไป
  • การศึกษาวิจัยพบว่า การปรับเวลาขึ้นลงในทุกปีเช่นนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต เสี่ยงอายุสั้น และปัญหาเกี่ยวกับสมอง
  • มูลนิธิด้านการนอนหลับมีคำแนะนำในการปรับ “นาฬิการ่างกาย” แบบค่อยเป็นค่อยไปและไม่หักโหมที่คุณนำไปใช้ได้
ชาวออสเตรเลียจำนวนไม่น้อยจะเสียเวลานอนไป 1 ชั่วโมง พร้อมกับเวลากลางวันอบอุ่นที่ยาวนานและอบอุ่นขึ้นที่กำลังจะมาถึง หลังเวลาฤดูร้อนได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม ประชาชนในบางพื้นที่ของออสเตรเลียจะปรับเวลาเพิ่มขึ้น 1 ชั่วโมงเมื่อถึงเวลา 2:00 น. ทำให้เวลาเดินหน้าขึ้นเป็น 3:00 น. และจะสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน โดยจะปรับลงเมื่อถึงเวลา 3:00 น. ทำให้เวลาถอยกลับมาเป็น 2:00 น.

ระบบเวลาฤดูร้อน หรือเวลาออมแสง (Daylight Savings Time) ใช้ในรัฐวิกตอเรีย รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐแทสเมเนีย รัฐเซาท์ออสเตรเลีย และมณฑลนครหลวงออสเตรเลีย ยกเว้นในรัฐควีนส์แลนด์ มณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

นอนไม่หลับทำอย่างไรดี?

การปรับเวลาเดินหน้าส่งผลต่อการนอนของคุณอย่างไร

แม้การปรับเวลาเดินหน้าในฤดูใบไม้ผลิจะทำให้เรามีเวลาที่มีแสงแดดนานขึ้น แต่มูลนิธิเพื่อสุขภาพการนอนหลับ (Sleep Health Foundation) ระบุว่าเรายังได้เสียเวลาในการนอนหลับไป 1 ชั่วโมงด้วยเช่นกันหากไม่ได้เตรียมตัว

กล่าวโดยทั่วไปก็คือ การปรับเวลาเดินหน้าสามารถรบกวนรูปแบบการนอนหลับได้ ซึ่งการสูญเสียเวลานอนไป 1 ชั่วโมงนั้นปรับตัวได้ยากกว่าการได้เวลากลับมา 1 ชั่วโมง เมื่อปรับนาฬิกาถอยกลับเมื่อสิ้นสุดฤดูร้อน

ทำไมจึงเป็นแบบนั้น นั่นก็เพราะจังหวะรอบวันของเรา หรือ circadian rhythms ซึ่งเป็นรอบเวลา 24 ชั่วโมงที่เป็นส่วนหนึ่งของนาฬิการ่างกาย ถูกกำหนดให้ตรงกับความสว่างและความมือในรอบวันตามธรรมชาติ สิ่งนี้จะทำงานไม่ตรงกันเมื่อเราต้องตื่นในเวลาที่ร่างกายถูกกำหนดให้นอนหลับ

“นาฬิการ่างกายของเรา หรือจังหวะรอบวัน 24 ชั่วโมงจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามการปรับเวลา” มูลนิธิเพื่อสุขภาพการนอนหลับ (Sleep Health Foundation) ระบุบนเว็บไซต์

“ถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะปรับตัวได้อย่างไม่มีปัญหา แต่เราต้องตระหนักว่ามันมีโอกาสที่จะง่วงนอนมากขึ้นขณะที่ร่างกายกำลังปรับตัวเข้ากับเวลาใหม่”

“ผู้ที่มีปัญหาในการนอนหลับอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่มีความผิดปกติในการนอน หรือคนที่ทำงานเป็นกะ อาจพบว่าการปรับร่างกายทำได้ลำบากขึ้น ขณะที่เด็ก ๆ จะใช้เวลาในการปรับตัวมากกว่า” มูลนิธิ ฯ ระบุ

เวลาฤดูร้อนมีผลต่อสุขภาพอย่างไร

ขณะที่บางคนอาจมีข้อถกเถียงว่ามีข้อดีบางอย่างเกี่ยวกับเวลาฤดูร้อน เช่น เวลากลางวันที่ยาวขึ้น แต่สำหรับบางคนก็มีข้อถกเถียงว่าเวลาฤดูร้อนนั้นสร้างปัญหา

ความสัมพันธ์ระหว่างการนอนหลับกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตโดยรวมนั้น ได้มีการบันทึกไว้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากผลกระทบที่มีต่อสมาธิและอารมณ์แล้ว การนอนหลับไม่เพียงพอ

การศึกษาวิจัยขนาดใหญ่ได้แสดงให้เห็นว่า การนอนหลับที่ถูกรบกวนอย่างเรื้อรัง ยัง เช่น ภาวะซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล และภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง (PTSD)

บางการศึกษาวิจัยยังได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบระยะสั้นของเวลาฤดูร้อน ซึ่งอาจรวมถึงระยะเวลานอนที่สั้นลง พร้อมกับประสิทธิภาพร่างกายที่ลดลง และสุขภาพที่แย่ลง

การวิจัยระยะเวลา 20 ปีจนถึงปี 2020 ที่ผ่านมาชี้ว่า

เมื่อพูดถึงผลกระทบในระยะยาว ที่ได้แสดงให้เห็นว่า ความแตกต่างระหว่างเวลาของ “นาฬิการ่างกาย (body clock)” และ “นาฬิกาสังคม (social clock)” มีส่วนเกี่ยวข้องต่ออายุขัยเฉลี่ยที่ลดลง และความบกพร้องในการรับรู้

เคล็ดลับในการปรับสู่เวลาฤดูร้อน

มูลนิธิสุขภาพการนอนหลับแนะนำว่า ก่อนที่นาฬิกาจะปรับขึ้นเป็นเวลาฤดูร้อน 3-4 วัน ให้คุณเข้านอนเร็วขึ้น 15-20 นาที และการตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้นกว่าปกติ 30 นาทีจะช่วยเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับการตื่นเช้าในวันจันทร์
นอกจากนี้ มูลนิธิ ฯ ยังแนะนำให้คุณทำให้ห้องนอนสว่างที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เมื่อคุณตื่นนอน เช่นเดียวกับการออกไปข้างนอกเพื่อรับแสงแดด หรืออกกำลังกายกลางแจ้งในตอนเช้า พร้อมกับคำแนะนำในการนอนหลับให้เพียงพอระหว่าง 7-9 ชั่วโมงในแต่ละคืน

นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายก่อนเข้านอน เช่นเดียวกับการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา หรือกาแฟ ไม่สูบบุหรี่ก่อนนอนหรือในช่วงกลางคืน ก็จะช่วยคุณได้มากขึ้นด้วย

รัฐควีนส์แลนด์และข้อถกเถียงเรื่องเวลาฤดูร้อน

มีเสียงเรียกร้องอีกครั้งให้มีการลงประชามติ ในเรื่องการใช้เวลาฤดูร้อนของรัฐควีนส์แลนด์ แต่อย่างไรก็ตาม อี

ในเวลานั้น เธอกล่าวว่าประเด็นดังกล่าวไม่ได้เป็นจุดสนใจ หลังมีคำแนะนำให้ทำประชามติจากนายกเทศมนตรีนครบริสเบน

“เราได้รับฟังผู้คนในรัฐควีนส์แลนด์ที่ได้พูดมาแล้วก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาไม่ต้องการเวลาฤดูร้อนแล้ว” รัฐมนตรีดาร์ท กล่าวก่อนหน้านี้


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 3 October 2022 7:17pm
Updated 3 October 2022 7:45pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS, AAP


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand