ครัวเรือน-ธุรกิจรายเล็กเจอค่าไฟพุ่ง รบ.จวก 'ลิเบอรัล' เมินเฉย 9 ปี

หน่วยงานกำกับดูแลพลังงานออสฯ จำใจขึ้นราคากลางจากวิกฤตโลก-โรงไฟฟ้าถ่านหินออสฯ ทยอยหยุดผลิต สะเทือนภาคธุรกิจไปถึงภาคครัวเรือน พรรคแรงงานโวยผลพวงรบ.ชุดก่อนเมินเฉย-ไร้แผนจัดการจริงจัง

Electricity bills are set to rise for households and small businesses.

Electricity bills are set to rise for households and small businesses. Source: iStockphoto/Getty Images/MarkPiovesan

ค่าไฟฟ้าสำหรับภาคครัวเรือนและธุรกิจขนาดเล็กจะเพิ่มสูงขึ้น จากการตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแลพลังงานออสเตรเลีย (Australian Energy Regulator) จากสถานการณ์อุทกภัย สงครามรัสเซีย-ยูเครน และภาวะขาดแคลนพลังงานจากโรงไฟฟ้าถ่านหินลดกำลังการผลิต

วันนี้ (26 พ.ค.) หน่วยงานกำกับดูแลพลังงานออสเตรเลีย (Australian Energy Regulator) ได้เผยแพร่การทบทวนล่าสุดสำหรับราคาเสนอขายเริ่มต้น (Default Market Offer หรือ DMO) ปีงบประมาณ 2022/23

ทั้งนี้ ราคาเสนอขายเริ่มต้น (DMO) จะกำหนดโครงข่ายราคารองรับและราคาอ้างอิง เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากราคาพลังงานที่สูงอย่างไม่เป็นธรรม

โดยราคาเสนอขายเริ่มต้นที่หน่วยงาน ฯ ได้เสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับลูกค้าในครัวเรือนมีดังนี้

  • รัฐนิวเซาท์เวลส์ เปลี่ยนแปลงจาก $1,512 ดอลลาร์ เป็น $2,092 ดอลลาร์ (เพิ่มจากร้อยละ 8.5 เป็น 14.1 หรือมากกว่าปีที่ผ่านมาจาก $119 ดอลลาร์ เป็น $227 ดอลลาร์)
  • พื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ $1,620 ดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 หรือมากกว่าปีที่ผ่านมา $165 ดอลลาร์)
  • รัฐเซาท์ออสเตรเลีย $1,840 ดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 หรือมากกว่าปีที่ผ่านมา $124 ดอลลาร์)
สำหรับลูกค้าภาคธุรกิจ ราคาเสนอขายเริ่มต้น (DMO) จะเปลี่ยนแปลงดังนี้

  • รัฐนิวเซาท์เวลส์ เปลี่ยนแปลงจาก $3,782 ดอลลาร์ เป็น $4,901 ดอลลาร์ (เพิ่มจากร้อยละ 10 เป็น 19.7 หรือมากกว่าปีที่ผ่านมาจาก $690 ดอลลาร์ เป็น $1,146 ดอลลาร์)
  • พื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ $3,446 ดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 หรือมากกว่าปีที่ผ่านมา $705 ดอลลาร์)
  • รัฐเซาท์ออสเตรเลีย $4,539 ดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 หรือมากกว่าปีที่ผ่านมา $459 ดอลลาร์)
หน่วยงานกำกับดูแลพลังงานออสเตรเลีย ระบุว่า ราคาพลังงานขายส่งสำหรับผู้ค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.4 ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ร้อยละ 49.5 ในรัฐควีนส์แลนด์ และร้อยละ 18 ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย อันเป็นผลจากการลดกำลังการผลิตพลังงานความร้อนจากการขาดกำลังผลิตโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ราคาก๊าซและถ่านหินที่สูงขึ้น การลงทุนในศักยภาพที่ชะลอตัว รวมถึงการเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างฉับพลันของความต้องการพลังงาน
นอกจากนี้ หน่วยงานฯ ยังระบุอีกว่า ความกดดันจากสงครามในประเทศยูเครน สภาพอากาศที่รุนแรงในรัฐนิวเซาท์เวลส์และควีนส์แลนด์ กำลังส่งผลกระทบต่อปริมาณถ่านหินรวมถึงความต้องการพลังงานไฟฟ้าภายในประเทศ เช่นเดียวกับการหยุดผลิตโดยไม่ได้วางแผนของโรงผลิตไฟฟ้า

แคลร์ ซาเวจ (Clare Savage) ประธานหน่วยงานกำกับดูแลพลังงานออสเตรเลีย (AER) กล่าวว่า การทบทวนราคาล่าสุดนี้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลได้พยายามสร้างสมดุลของแรงกดดันราคาเพิ่มเติมที่มีต่อผู้บริโภค โดยทำให้แน่ใจว่าผู้ค้าปลีกรายต่าง ๆ จะสามารถกู้คืนต้นทุนจากราคาค้าส่งรวมถึงราคาเครือข่ายพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นได้

“ในการตั้งราคา DMO ใหม่ เราเข้าใจถึงผลกระทบที่มีนัยยะสำคัญที่จะมีต่อลูกค้าบางรายที่อาจกำลังดิ้นรนกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นอยู่แล้ว” นางซาเวจ กล่าว

“เราได้พิจารณาปัจจัยทั้งหมดที่จะส่งผลต่อการคำนวณราคาเสนอขายเริ่มต้นโดยละเอียด และได้ตั้งโครงข่ายราคารองรับที่สะท้อนสภาวการณ์ในปัจจุบันและต้นทุนพื้นฐานสำหรับผู้ค้าปลีก”

เธอกล่าวอีกว่า สิ่งนี้ทำให้การมองหาแผนราคาพลังงานของผู้บริโภคให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเองนั้นมีความสำคัญมากขึ้น

หน่วยงานกำกับดูแลพลังงานออสเตรเลียมีเว็บไซต์เพื่อเปรียบเทียบราคาพลังงานที่ชื่อว่า ซึ่งนางซาเวจ กล่าวว่า กำลังมีข้อเสนอจำนวนหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าระดับครัวเรือนประหยัดไปได้ราว $443 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 24 ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กสามารถประหยัดค่าพลังงานไปได้ราว $1,308 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 29
ด้าน นายคริส โบเวน (Chris Bowen) ว่าที่รัฐมนตรีพลังงานที่กำลังจะเข้ามาดำรงตำแหน่งหลังการเปลี่ยนคณะรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ได้กล่าวโทษว่าราคาพลังงานที่สูงขึ้นนั้น เกิดจาก “การปฏิเสธที่จะรับรู้และมูลค่าความเสียหาย 9 ปีจากพรรคลิเบอร์รัล”

“มีปัจจัยระหว่างประเทศเข้ามาในตรงนี้ ... แต่การขาดนโยบายพลังงาน การขาดการลงทุงในพลังงานใหม่ การขาดการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และการขาดการเปลี่ยนผ่านในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา หมายความว่าชาวออสเตรเลียจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้ามากกว่าที่ควรจะเป็น” นายโบเวน ว่าที่รัฐมนตรีพลังงาน กล่าว

นายโบเวน กล่าวว่า การนำพลังงานหมุนเวียนเข้ามามากขึ้นของรัฐบาลนายแอนโทนี อัลบานิซี จะลดแรงกดดันในส่วนของราคาพลังงานลง

นายอดัม แบนท์ (Adam Bandt) ผู้นำพรรคกรีนส์ กล่าวว่า พรรคแรงงานต้องทบทวนคำมั่นที่จะไม่เร่งปิดโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินเร็วจนเกินไป

"นั่นเป็นปัญหา เพราะมันจะผลักดันราคาพลังงานไฟฟ้าให้สูงขึ้น” นายแบนท์ กล่าว

เคลลีย์ คอท (Kellie Caught) ผู้อำนวยการด้านพลังงานจากสภาสังคมสงเคราะห์ออสเตรเลีย กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ควรดำเนินการทันที โดยปรับปรุงแนวทางของหน่วยงานกำกับดูแลพลังงานออสเตรเลีย (AER) เพื่อตั้งราคาขายตรง (Direct Market Offer) ใน “อัตราที่มีประสิทธิภาพ” โดยลดส่วนต่างของราคาขายปลีกแบบในรัฐวิกตอเรีย

สำหรับเรื่องที่สำคัญอื่น ๆ ที่สภาสังคมสงเคราะห์ออสเตรเลียแนะนำ คือการปรับปรุงส่วนลดราคาพลังงาน และขยายการเข้าถึงมาตรการประหยัดพลังงาน รวมถึงอุปกรณ์อย่างโซล่าร์เซลล์บนหลังคาสำหรับเจ้าของบ้านที่มีรายได้น้อย


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 26 May 2022 6:35pm
Updated 26 May 2022 6:41pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS, AAP


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand