ก้าวต่อไปรัฐบาลออสฯ หลังแผนเปิดประเทศเจอโรคเลื่อน

จากการอุบัติขึ้นของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ออสเตรเลียเบรกแผนเปิดพรมแดนระหว่างประเทศออกไป 2 สัปดาห์ ผู้ถือวีซ่าออสเตรเลียซึ่งเฝ้ารอที่จะได้กลับมาจำนวนมากต้องรอต่อไป แต่ท่าทีของรัฐบาลออสเตรเลียในก้าวต่อไปจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้

A graphic showing planes and a traveller

The easing of border measures was put back due to the emergence of the Omicron variant. Source: SBS

การปิดพรมแดนระหว่างประเทศไม่ใช่เรื่องใหม่ในยุคสมัยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่การอุบัติขึ้นของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ‘โอไมครอน (Omicron)’ ได้ทำให้แผนในการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางในออสเตรเลียต้องหยุดชะงัก

หลังตรวจพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เป็นครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ก็เริ่มมีผู้ติดเชื้อนี้อีกหลายรายในนครซิดนีย์ และในพื้นที่ขายฝั่งทางตอนกลางของรัฐนิวเซาท์เวลส์

นักศึกษาต่างชาติ เป็นหนึ่งในผู้ถือวีซ่าออสเตรเลียที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมายังออสเตรเลียตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่การพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนก็ได้ทำให้แผนนั้นต้องพับไป หลังรัฐบาลสหพันธรัฐได้ประกาศเลื่อนแผนเปิดประเทศไปเป็นเวลา 2 สัปดาห์

แผนเดิมเป็นอย่างไร

หลังต้องติดค้างอยู่ต่างแดนเป็นเวลามากกว่า 2 ปี ผู้ถือวีซ่าออสเตรเลียบางส่วนที่มีสิทธิ์ ซึ่งรวมถึงวีซ่าแรงงานทักษะ นักศึกษาต่างชาติ เช่นเดียวกับวีซ่าด้านมนุษยธรรม วีซ่าเวิร์กกิงฮอลิเดย์ และวีซ่าครอบครัวชั่วคราว ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมายังออสเตรเลียในช่วงต้นเดือนธันวาคม

นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย กล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ได้ประกาศแผนนำกลุ่มผู้ถือวีซ่าเหล่านี้กลับมาว่า “การกลับมายังออสเตรเลียของแรงงานทักษะอาชีพและนักศึกษา ถือเป็นก้าวสำคัญของเราในแนวทางกลับสู่ความปกติ”

"นับเป็นก้าวสำคัญ เกี่ยวกับสิ่งที่ชาวออสเตรเลียสามารถบรรลุ และช่วยให้เกิดขึ้นได้" นายมอร์ริสัน กล่าว

รัฐบาลสหพันธรัฐได้ประมาณว่า มีผู้อพยพย้ายถิ่นซึ่งถือวีซ่าเหล่านี้ราว 2 แสนคน ที่จะตอบรับข้อเสนอในแผนดังกล่าว เพื่อเดินทางกลับมาในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า

นอกจากนี้ ในวันแรกของเดือนธันวาคม ยังเป็นวันที่นักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามายังออสเตรเลียอีกด้วย

เกิดอะไรขึ้น

27 พ.ย.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการพบเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ในพื้นที่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ทำให้รัฐบาลสหพันธรัฐประกาศใช้มาตรการความปลอดภัยกับพรมแดนระหว่างประเทศของออสเตรเลีย สำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ ประเทศเลโซโท เอสวาตีนี นามิเบีย บอตสวานา ซิมบับเว โมซัมบิก และมาลาวี

ผู้ที่เคยเดินทางไปยังประเทศเหล่านี้ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางมายังออสเตรเลีย ยกเว้นผู้ถือสัญชาติออสเตรเลีย และผู้อยู่อาศัยถาวร (พีอาร์) รวมถึงสมาชิกครอบครัวใกล้ชิดของทั้งสองประเภท
20211101001591594077-original.jpg
โดยบรรดาผู้ที่ได้รับอนุญาตให้กลับมายังออสเตรเลียจากประเทศเหล่านี้ จะต้องเข้ารับการกักตัวภายใต้การดูแล ซึ่งปกติแล้วจะดำเนินการภายในโรงแรม เป็นระยะเวลา 14 วัน หากพวกเขาเดินทางมาจากประเทศในรายชื่อดังกล่าว

ผู้ที่เดินทางมาถึงออสเตรเลียจากประเทศอื่น

จนถึงขณะนี้ไม่มีข้อกำหนดจากรัฐบาลสหพันธรัฐในการให้กักตัว หากเดินทางมาถึงออสเตรเลียจากประเทศอื่น แต่มีการตั้งข้อกำหนดเรื่องการกักตัวในส่วนของรัฐบาลในรัฐและมณฑลต่าง ๆ ซึ่งตั้งกฎขึ้นเอง
ผู้ที่เดินทางมาถึงรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และมณฑลนครหลวงออสเตรเลียจากต่างประเทศ จะต้องกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ขณะที่รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ผู้เดินทางทุกคน รวมถึงผู้ที่มาเปลี่ยนเส้นทางเพื่อไปรัฐอื่น ๆ ในออสเตรเลีย จะต้องเข้ากักตัวเป็นเวลา 14 วัน ในโรงแรมทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรอง

จะเกิดอะไรขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

เหตุผลในการตัดสินใจเลื่อนวันเปิดประเทศไปเป็นเวลา 2 สัปดาห์ของรัฐบาลสหพันธรัฐ ก็เพื่อที่จะซื้อเวลาในการทำความเข้าใจกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ‘โอไมครอน’ ว่าวัคซีนจะมีประสิทธิภาพเพียงใดในการรับมือกับเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้ เช่นเดียวความรวดเร็วในการแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าว

หน่วยงานสาธารณสุขของออสเตรเลีย ระบุในประกาศเตือนเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่นี้ว่า มีหลายสิ่งที่ยังไม่ทราบ แต่ก็ได้เสริมว่า ไม่มีสิ่งใดที่ชี้แนะว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในออสเตรเลีย ได้แก่ วัคซีนของไฟเซอร์ โมเดอร์นา และแอสตราเซเนกา จะมีประสิทธิภาพน้อยลงในการป้องกันภาวะอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงการเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

“เรากำลังทำงาน เพื่อสืบหาว่าวัคซีนที่ได้รับการรับรองให้ใช้ในออสเตรเลียในปัจจุบันมีประสิทธิภาพเพียงใด ในการปกป้องผู้คนจากผลกระทบของเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้” หน่วยงานสาธารณสุขออสเตรเลีย ระบุในคำแนะนำบนเว็บไซต์ของหน่วยงาน
ด้านนายมอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า “มีสิ่งที่ระบุชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนจะเป็นรูปแบบของไวรัสที่ไม่รุนแรง ซึ่งหากได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง นั่นจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญ แต่สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด”

มีชาวออสเตรเลียเกือบร้อยละ 93 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดส ขณะที่ประชาชนทั้งประเทศที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปร้อยละ 87 ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

ก้าวต่อไปของผู้ถือวีซ่าที่จะมาออสเตรเลีย

นางแคเรน แอนดรูส์ รัฐมนตรีมหาดไทยของออสเตรเลีย ได้แถลงต่อรัฐสภา ว่าการหยุดแผนเปิดประเทศเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายดายของรัฐบาล แต่สิ่งนั้นอยู่บนพื้นฐานของคำแนะนำด้านสุขภาพ

สิ่งนี้ได้เสียงตอบรับจาก นายเกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของออสเตรเลีย โดยระบุว่าการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้น “ภายใต้ข้อสันนิษฐานว่าเราจะเริ่มแผนการเปิดประเทศอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.นี้”

และเมื่อถึงวันนั้น ผู้ถือวีซ่าประเภทใดประเภทหนึ่งในบรรดาวีซ่าออสเตรเลีย 42 ชนิด ซึ่งรวมถึงวีซ่าผู้ขอลี้ภัย วีซ่านักเรียน และวีซ่าเวิร์กกิงฮอลิเดย์ จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามายังออสเตรเลียนับตั้งแต่วันนั้น โดยไม่ต้องยื่นขอการยกเว้นใด ๆ ตราบใดที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส โดยเป็นวัคซีนที่ออสเตรเลียให้การยอมรับ ซึ่งรวมถึงวัคซีนที่ใช้ในออสเตรเลีย เช่นเดียวกับวัคซีนซิโนแว็ก (Sinovac) ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) โควิชีลด์ (Covidshield) และโคแว็กซิน (Covaxin)


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 2 December 2021 5:47pm
Updated 2 December 2021 5:58pm
By Alexander Britton
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS News


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand