ดีเดย์ปีภาษีใหม่ มีนโยบายอะไรเปลี่ยนแปลง

NEWS: 1 ก.ค.นี้ วันแรกของปีภาษี 2019-20 จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงหลายนโยบายสำคัญ ทั้งเพดานภาษี เงินช่วยเหลือจากรัฐ เงินซูเปอร์ ค่าแรงขั้นต่ำ และอีกมากมาย

ปีภาษีใหม่นี้ มีกรเปลี่ยนแปลงมากมายที่มากกว่าเรื่องภาษี

ปีภาษีใหม่นี้ มีกรเปลี่ยนแปลงมากมายที่มากกว่าเรื่องภาษี Source: Getty Images

รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

You can read a full article on SBS Punjabi .

ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ ชาวออสเตรเลียจะพบกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่สำคัญ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ครอบคลุมถึงทุกๆ คน ทั้งรายบุคคล ลูกจ้าง ครอบครัว เจ้าของธุรกิจ รวมถึงผู้เกษียณ โดยครอบคลุมตั้งแต่เรื่องการเงิน ภาษี ไปจนถึงเรื่องค่าจ้างและเงินซูเปอร์

ค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้น

อัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้น 3% ตั้งแต่รอบเต็มของการจ่ายค่าจ้างแรกของปีภาษีเป็นต้นไป หรือตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายสัปดาห์นั้นจะเพิ่มขึ้นจาก $719.20 ดอลลาร์ เป็น $740.78 ดอลลาร์ (โดยคิดจากพื้นฐานชั่วโมงทำงานที่ 38 ชั่วโมง) ซึ่งการตัดสินใจเพิ่มอัตราค่าจ้างจะมีผลกับลูกจ้างในออสเตรเลียราว 2.2 ล้านคน หรือคิดเป็น 21% จากลูกจ้างทั้งหมด

การเปลี่ยนแปลงกับเงินซูเปอร์

Superannuation
Source: Getty Images Source: Getty Images
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ นโยบายปกป้องเงินซูเปอร์โดยรัฐบาล จะมีกฎระเบียบใหม่ที่ปกป้องสมาชิกเงินซูเปอร์จากค่าธรรมเนียมและเบี้ยประกันพรีเมียมที่ไม่จำเป็น โดยบัญชีเงินซูเปอร์ที่ไม่มีความเคลื่อนไหว หรือบัญชีเงินซูเปอร์ใดที่ไม่มีการจ่ายเงินซูเปอร์จากนายจ้างเป็นเวลามากกว่า 16 เดือนขึ้นไป อาจสูญเสียความคุ้มครองทางประกันไป ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้

สมาคมกองทุนเงินซูเปอร์แอนูเอชันแห่งออสเตรเลีย (Association of Superannuation Funds of Australia) ระบุว่า บัญชีเงินซูเปอร์มากกว่า 3 ล้านบัญชีจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี

ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลว่า ผู้ที่ถือบัญชีเงินซูเปอร์ที่เข้าข่ายนี้ อาจสูญเสียความคุ้มครองทางประกันชีวิต และรวมถึงเงินกองทุนความพิการทั้งหมดหรือโดยถาวร จนกว่าพวกเขาจะติดต่อกับบริษัทบัญชีซูเปอร์

หากท่านต้องการตรวจสอบว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับบัญชีซูเปอร์ของท่านหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ 

เกณท์ประเมินจ่ายเงินสนับสนุนเลี้ยงดูบุตร (Child care subsidy)

Image

ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป เกณฑ์การประเมินเงินสนับสนุนเลี้ยงดูบุตรนั้น จะพิจารณาจากรายได้รวมกันในครอบครัวแต่ละปี โดยอัตราการประเมินจ่ายเงินสนับสนุนเลี้ยงดูบุตร มีดังต่อไปนี้ 

    • รายได้ไม่เกิน $68,163 ต่อปี ได้รับเงินสนับสนุน 85%
    • รายได้มากกว่า $68,163 แต่ไม่เกิน $173,163 ต่อปี ได้รับเงินสนับสนุนลดลงมาที่ 50%
    • รายได้ $173,163 - $252,453 ต่อปี ได้รับเงินสนับสนุนลดลงมาเหลือ 50%
    • รายได้ $252,453 to $342,453 ต่อปี ได้รับเงินสนับสนุนลดลงมาที่ 20%
    • รายได้ $342,453 to $352,453 ต่อปี ได้รับเงินสนับสนุน 20%
    • รายได้มากกว่า $352,453 ต่อปีขึ้นไป ไม่ได้รับเงินสนับสนุน
คุณสามารถตรวจสอบอัตราการจ่ายเงินสนับสนุนที่ครอบครับของคุณจะได้รับได้

นโยบายลดภาษีสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง

ในส่วนหนึ่งของงบประมาณสหพันธรัฐ ปี 2019-20 รัฐบาลได้เสนอนโยบายการเปลี่ยนแปลงด้านภาษีจำนวนหนึ่ง ซึ่งหากนโยบายเหล่านี้ได้รับการอนุมัติ จะส่งผลให้ผู้จ่ายภาษี ทั้งรายบุคคลและครอบครัว ได้รับเงินเพิ่มขึ้น

    • ผู้มีรายได้น้อย และรายได้ปานกลาง จะได้รับการลดภาษีเป็นจำนวนเงินถึง $1,080 ดอลลาร์ต่อปี
    • ผู้จ่ายภาษีที่มีเงินได้พึงประเมินน้อยกว่า $37,000 ดอลลาร์ จะได้รับการลดภาษีเป็นจำนวนถึง $255 ดอลลาร์
    • หากเงินได้พึงประเมินอยู่ระหว่าง $37,000 - $48,000 ดอลลาร์ คุณจะได้รับการลดภาษีจำนวน $255 ดอลลาร์ และลดลงไปอีกเป็นอัตรา 7.5% ของอัตราเพดานอัตราลดภาษีสูงสุดที่ $1,080 ดอลลาร์ 
    • ผู้จ่ายภาษีที่มีเงินได้พึงประเมินระหว่าง $48,000 - $90,000 ดอลลาร์ จะได้รับการลดภาษีลงตามเพดานภาษีที่ $1,080 ดอลลาร์
ทั้งนี้ สำนักงานสรรพากรออสเตรเลียระบุว่า จะนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปปรับใช้อย่างเป็นขั้นตอน หากรัฐสภามีมติเห็นชอบกับข้อเสนอด้านภาษีที่ได้มีการเสนอมา
Tax Time
Source: Getty Images Source: Getty Images

อัตราภาษีสำหรับครอบครัวสำหรับผู้มีรายได้สูง

ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับผลประโยชน์ด้านภาษีครอบครัวสำหรับผู้ที่มีรายได้สูง โดยเพดานเงินได้พึงประเมินจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ระหว่าง $94,316 - $98,988 ดอลลาร์ ครอบครัวที่มีเงินได้พึงประเมินสูงกว่านั้นจะได้รับการลดภาษีลง 30% ในทุกๆ $1 ดอลลาร์ของเงินได้ตั้งแต่ $98,988 ดอลลาร์ขึ้นไป

การยืนขอคืนเงินภาษีที่เปลี่ยนไป

สำนักงานสรรพากรออสเตรเลียได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงในการจัดการเงินภาษี และรายละเอียดเงินซูเปอร์ของคุณในปีภาษีนี้ 

โดยตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป คุณอาจไม่ได้รับแบบสรุปรายได้ (Payment summary) จากนายจ้างของคุณ นั่นเป็นเพราะว่า วิธีการที่นายจ้างของคุณรายงานข้อมูลภาษีและเงินซูเปอร์นั้นได้เปลี่ยนไป 

คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลได้โดยการล็อกอินเข้าไปในบัญชี และเข้าไปที่ ATO online services หากคุณใช้บริการกับเจ้าหน้าที่บัญชีภาษีอากร (tax agent) เจ้าหน้าที่จะมีข้อมูลเหล่านี้ และสามารถใช้มันเพื่อกรอกแบบยื่นขอคืนเงินภาษีให้กับคุณได้

นอกจากนี้ บริษัทประกันสุขภาพ จะไม่จำเป็นต้องส่งแบบสรุปบัญชีเงินประกันรายปีให้กับคุณอีกต่อไป โดยข้อมูลเหล่านี้จะไปอยู่กับบริการออนไลน์ของสรรพากรออสเตรเลีย ภายในวันที่ 20 ก.ค.นี้ 

และตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ คุณจะสามารถรายงานการลดหย่อนภาษีสำหรับเงินที่คุณจ่ายให้กับลูกจ้าง หรือผู้รับเหมา ที่มีการเก็บภาษีก่อนจ่ายผ่านระบบ PAYG และมีการรายงานการหักภาษีแล้วเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงด้านภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

Small Business
Source: AAP Image/Dave Hunt Source: (AAP Image/Dave Hunt)
ตั้งแตวันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ธุรกิจขนาดเล็กที่มีลูกจ้างน้อยว่า 20 คน จะต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบบันทึกการจ่ายค่าจ้างออนไลน์ ที่เรียกกันว่า "ซิงเกิล ทัช เพย์โรลล์" (Single Touch Payroll)

สำนักงานสรรพากรออสเตรเลียระบุว่า นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ภาษี GST เป็นต้นมา โดยระบบใหม่นี้จะสามารถติดตามการจ่ายเงินซูเปอร์ให้ลูกจ้าง ซึ่งนั่นจะทำให้ธุรกิจที่ไม่จ่ายเงินซูเปอร์ให้ลูกจ้าง หรือจ่ายค่าจ้างอย่างผิดปกติ สามารถถูกตรวจพบได้อย่างชัดเจนขึ้นโดยสำนักงานสรรพากร

เมื่อปีที่แล้ว ธุรกิจที่มีลูกจ้างน้อยกว่า 20 คนหลายกิจการได้เปลี่ยนผ่านสู่ระบบ ซิงเกิล ทัช เพย์โรลล์ โดยในปีภาษีนี้ ผู้ประกอบการกว่า 9 ล้านรายจะไม่ส่งรายงานการจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างของตน แต่จะใช้ขอมูลที่อยู่ในบริการออนไลน์ myGov 

ทั้งนี้ สำนักงานสรรพากรออสเตรเลียระบุว่า ได้พยายามช่วยเหลือให้ธุรกิจขนาดเล็กนั้นเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบใหม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เพิ่มเพดานลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายทางธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์

ธุรกิจขนาดเล็กสามารถยื่นขอลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจแบบหักค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ (write-off asset) เต็มจำนวนได้เลย สำหรับสินทรัพย์เพื่อธุรกิจที่มีราคาน้อยกว่า $30,000 ดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้สามารถหักค่าเสื่อมราคาได้สูงสุดที่ $25,000 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

อัตราลดหย่อนที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจขนาดเล็กนี้ อาจเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อรถคันใหม่ หรือตอบสนองความต้องการทางธุรกิจอื่นๆ 

นอกจากนี้ กิจการที่มีผลประกอบการตั้งแต่ 10 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์ ยังสามารถที่จะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

การขอเลขประจำตัวด้านอากาศยาน (ARN)

passengers_make_their_way_through_melbourne_airport_aap_7.jpg?itok=kbPRKWV9&mtime=1561708054

ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงการใช้เอกสารยืนยันตัวตนที่จำเป็นสำหรับเลขอ้างอิงทางอากาศยาน (Aviation Refence Number หรือ ARN) โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะยกเลิกระบบการยืนยันตัวตนด้วยระบบคะแนนเอกสาร 100 แต้ม ที่จำเป็นสำหรับการขอหมายเลขอ้างอิงทางอากาศยานทางออนไลน์ โดยผู้ต้องการขอหมายเลขดังกล่าวจะใช้เพียงหนึ่งในเอกสารเหล่านี้

    • พาสปอร์ตออสเตรเลีย
    • สูติบัตรออสเตรเลีย (Australia Birth Certificate)
    • ใบรับรองสัญชาติออสเตรเลีย (Australia Citizenship Certificate)
    • ImmiCard 
    • พาสปอร์ตจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของหน่วยงานด้านความปลอดภัยอากาศยาน ระบุว่า ผู้ที่ยืนขอหมายเลข ARN ที่ถือพาสปอร์ตต่างประเทศ จะต้องอาศัยอยู่ในออสเตรเลียในเวลาที่มีการยื่นขอหมายเลข เว้นแต่จะเป็นประชากรถาวร นอกเหนือจากนั้น พวกเขาจะต้องส่งสำเนาของพาสปอร์ตที่ได้รับการรับรอง

Share
Published 1 July 2019 12:22pm
Updated 2 July 2019 10:44am
By Preetinder Grewal
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS Punjabi


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand