NSW-VIC คลายกฎสกัดโควิดแล้ว มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

มาตรการจำกัดห้ามด้านสาธารณสุขในสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรียกำลังจะได้รับการผ่อนคลาย เอสบีเอรวมรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ และเมื่อไหร่ที่มาตรการใหม่จะมีผล

뉴사우스웨일스, 빅토리아 코로나19 격리 규정 변경/ Household contact rules for those who have been exposed to COVID-19 in New South Wales and Victoria have been eased.

뉴사우스웨일스, 빅토리아 코로나19 격리 규정 변경/ Household contact rules for those who have been exposed to COVID-19 in New South Wales and Victoria have been eased. Source: AAP / Steven Saphore

ผู้สัมผัสเชื้อในระดับครัวเรือนกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะไม่ต้องกักตัวเป็นเวลา 7 วันอีกต่อไปในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย จากการเปลี่ยนแปลงจำนวนมากที่เกิดขึ้นทั้ง 2 รัฐ เพื่อผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุขในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

การประกาศผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) ขณะที่ทั้งสองรัฐอยู่ในแนวทางเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับไวรัสได้อย่างปกติ

ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่ เมื่อไหร่ที่จะมีผลบังคับใช้ และเพราะเหตุใดจึงมีการเปลี่ยนแปลง

กฎอะไรบ้างที่เปลี่ยนแปลง

รัฐนิวเซาท์เวลส์

ผู้สัมผัสใกล้ชิดในระดับครัวเรือน (household contact) จากบุคคลที่ได้รับผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก จะไม่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านและแยกตนเองเป็นเวลา 7 วันอีกต่อไป แต่จะต้องตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจแอนติเจนแบบทราบผลเร็ว (RAT) ทุกวัน สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารสถานที่ และทำงานจากที่บ้านหากเป็นไปได้

ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่ความเสี่ยงสูง เช่น โรงพยาบาล ทัณฑสถาน รวมถึงสถานดูแลผู้พิการและผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อจะต้องแจ้งให้นายจ้างทราบ เมื่อกลายเป็นผู้สัมผัสเชื้อในระดับครัวเรือน

ก่อนหน้าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หากผู้ใดเป็นผู้สัมผัสเชื้อในระดับครัวเรือนจากผู้ที่มีผลการตรวจหาโควิด-19 เป็นบวก จะต้องกักตัวเป็นเวลา 7 วัน เว้นแต่จะได้รับการยกเว้นว่าเป็นผู้ทำงานที่มีความสำคัญ (critical worker)

นายโดมินิก เพอร์โรต์เทต์ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ข้อกำหนดใหม่นี้จะมีผลตั้งแต่เวลา 18:00 น. ของวันศุกร์นี้ (22 เม.ย.)

นอกจากนี้ ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนที่เดินทางมารัฐนิวเซาท์เวลส์จะไม่ต้องกักตัวในโรงแรมกักกันโรคอีกต่อไปตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.นี้

รัฐวิกตอเรีย

ประชาชนในรัฐวิกตอเรียจะไม่ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเช็กอิน และไม่ต้องแสดง หลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสก่อนเข้ารับบริการในสถานบริการอีกต่อไป

ในส่วนของการสวมใส่หน้ากากอนามัย ไม่จำเป็นต้องสวมใส่ในโรงเรียนประถมศึกษา รวมถึงในศูนย์เด็กปฐมวัย ในสถานบริการต่าง ๆ รวมถึงร้านค้าปลีกในศูนย์การค้า แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสนามบิน เมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ รวมถึงในสถานดูแลผู้สูงอายุ และในทัณฑสถาน

สำหรับกฎในส่วนของผู้สัมผัสเชื้อในระดับครัวเรือนของรัฐวิกตอเรียนั้น จะใช้กฎเดียวกันกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่จะต้องตรวจเชื้อด้วยชุดตรวจแอนติเจนแบบทราบผลเร็ว (RAT) อย่างน้อย 5 ครั้งในระยะเวลา 7 วัน และถึงแม้การตรวจเชื้อด้วยวิธี RT-PCR จะได้รับคำแนะนำ แต่ไม่มีข้อกำหนดให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการจำเป็นต้องตรวจเชื้อด้วยวิธีนี้อีกต่อไป

นอกจากนี้ ผู้เดินทางที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะไม่ต้องกักตัวในโรงแรมกักกันโรคในทั้งสองรัฐอีกต่อไป

นายมาร์ติน โฟลีย์ (Martin Foley) รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงมาตรการทั้งหมดนี้จะมีผลตั้งแต่เวลา 23:59 น. ของวันศุกร์นี้ (22 เม.ย.)

ทำไมประกาศตอนนี้

รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า รัฐวิกตอเรียอยู่ในจุดที่สามารถผ่อนคลายมาตรการจำกัดต่าง ๆ เนื่องจากได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนระลอก 2 ไปแล้ว

“นั่นคือเหตุผลที่เราอยู่ในจุดที่สามารถดำเนินการสำคัญบางอย่างในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ได้” นายมาร์ติน โฟลีย์ รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย แถลงต่อผู้สื่อข่าว

ถึงแม้จะไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการแพร่ระบาดใหญ่ แต่มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ก็ยอมรับว่าเป็นวันที่ยิ่งใหญ่

“มันยังเป็นวันของการระลึกว่าเราได้ผ่านอะไรมาบ้าง ... ขอให้เรามุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จในตอนนี้” นายโดมินิก เพอร์โรต์เทต์ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าว

มาตรการต่าง ๆ ที่ได้รับการผ่อนคลายนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้นำธุรกิจได้เรียกร้องมาก่อนหน้านี้ให้มีการยกเลิกมาตรการจำกัดห้ามดังหล่าว หลังภาวะขาดแคลนคนทำงานส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่กำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดใหญ่

โควิด-19 หมดไปแล้วหรือ?

ไม่ใช่เสียทีเดียว ยัง แต่เจ้าหน้าที่ทางการในแต่ละรัฐมั่นใจว่ามาตรการเหล่านี้สามารถผ่อนคลายได้โดยไม่เป็นอันตราย

อย่างไรก็ดี นางแนนซี แบ็กส์เตอร์ (Nancy Baxter) นักระบาดวิทยาคลินิก และหัวหน้าสถาบันแห้งประชากรและสุขภาพระดับโลกเมลเบิร์น (Melbourne School of Population and Global Health) กล่าวว่า ประชาชนยังต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพื่อให้แน่ใจว่าการระบาดแบบฉับพลันของโควิด-19 จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้งจากมาตรการที่ผ่อนคลาย

“เราต้องปกป้องผู้คนจากผู้ที่สัมผัสเชื้อในครัวเรือนเหล่านั้น หากเราปล่อยให้พวกเขาออกจากบ้านโดยไม่มีการกักต้ว” นางแบ็กซ์เตอร์ กล่าวกับโทรทัศน์เอบีซีในวันนี้ (20 เม.ย.)

นายแบ็กซ์เตอร์เตือนว่า ผู้คน 1 ใน 8 ที่สัมผัสเชื้อในระดับครัวเรือนกับผู้ติดเชื้อโควิดสิบ-19 จะมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อไวรัส

“คุณจะต้องการให้พวกเขาตรวจเชื้อด้วยชุดตรวจ RAT คุณจะต้องการให้พวกเขาใส่หน้ากากอนามัย และไม่ใช่หน้ากากอะไรก็ได้ แต่เป็นหน้ากากคุณภาพสูงอย่าง P2 หรือ N95

นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่า ออสเตรเลีย “ได้ผ่านการแพร่ระบาดใหญ่นี้อย่างแข็งแรง”

“ผมต้อนรับข้อเท็จจริงที่ว่า ในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย พวกเขากำลังกลับสู่ความปกติ ฮาเลลูยา” นายมอร์ริสัน กล่าว

“เราได้รอมานานสำหรับสิ่งเหล่านี้ และผมมั่นใจว่ารัฐต่าง ๆ ที่เหลือจะเดินตามแนวทางเดียวกันนี้”


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 21 April 2022 2:40pm
Updated 21 April 2022 3:11pm
By Rayane Tamer
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS, AAP


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand