อาจพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายที่ 3 ในซิดนีย์

มุขมนตรีโดมินิก เพอร์โรต์เทต์ ยืนยันว่า พรมแดนของนิวเซาท์เวลส์จะเปิดต่อไป แต่จะมีมาตรการรับมือที่เขาระบุว่า “สมเหตุสมผล” และ “สมดุล”

NSW Premier Dominic Perrottet at press conference

NSW Premier Dominic Perrottet speaks to the media at a press conference in Sydney, Tuesday, November 2, 2021. (AAP Image/Mick Tsikas) NO ARCHIVING Source: AAP

มีผู้คนเกือบ 150 คนที่เดินทางมาถึงยังนิวเซาท์เวลส์จากประเทศในแถบทางตอนใต้ของแอฟริกา ซึ่งเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) กำลังระบาดไปทั่ว ขณะนี้มีอาจมีการพบผู้ติดเชื้อรายที่ 3 ในหมู่ผู้เดินทางมาถึงเหล่านั้น

การตรวจจีโนมของเชื้อเมื่อวันอาทิตย์ยืนยันว่า นักเดินทางจากต่างประเทศที่เดินทางมาถึงซิดนีย์ 2 รายจากแอฟริกาใต้ ติดเชื้อโอไมครอน ซึ่งเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่

ผู้โดยสารเครื่องบินทั้งสองไม่แสดงอาการป่วยใดๆ เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงในคืนวันเสาร์ และกำลังถูกกักตัวอยู่ในที่พักพิเศษด้านสุขภาพ โดยทั้งสองเป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว

มุขมนตรีโดมินิก เพอร์โรต์เทต์ ของนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ผู้ติดเชื้ออีก 1 รายอาจติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้ด้วย โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้คน 140 คนที่เดินทางเข้ามายังนิวเซาท์เวลส์จากประเทศแถบแอฟริกาทางตอนใต้ 9 ประเทศที่มีการระบาดของเชื้อโอไมครอน

ผู้คนเหล่านี้ทั้งหมดถูกส่งไปกักตัวในโรงแรม 14 วัน

อย่างไรก็ตาม มุขมนตรีนิวเซาท์เวลส์ ได้ออกคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศทั้งหมดต้องกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ขณะที่เขายืนยันว่าพรมแดนระหว่างประเทศและระหว่างรัฐของนิวเซาท์เวลส์นั้น จะยังคงเปิดอยู่

“ท้ายที่สุดแล้ว เราจำเป็นต้องเปิดประตูสู่โลก และเราจำเป็นต้องทำอย่างปลอดภัย” นายเพอร์โรต์เทต์ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (29 พ.ย.)

“เราไม่จำเป็นต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างที่เคยทำมา เราจำเป็นต้องมีการรับมือที่สมเหตุสมผลและสมดุลต่อสถานการณ์นี้ที่อยู่เบื้องหน้าเรา”

คำสั่งกักตัวสามวันสำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศทุกคนนั้น เพิ่มเติมจากข้อกำหนดของรัฐบาลสหพันธรัฐให้ผู้เดินทางจากต่างประเทศกักตัว 2 สัปดาห์ หากพวกเขาเคยไปยัง แอฟริกาใต้ เลโซโท บอตสวานา ซิมบับเว โมซัมบิก นามิเบีย เอสวาตีนี มาลาวี หรือเซเชลส์ ในช่วง 14 วันก่อนเดินทางมาถึงออสเตรเลีย

นายเพอร์โรต์เทต์ ยังย้ำว่า นิวเซาท์เวลส์นั้นมีการเตรียมพร้อมอย่างดีที่จะรับมือกับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ ได้

“เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น”

“อัตราการฉีดวัคซีนที่นี่เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีอัตราสูงที่สุดในโลก”

“แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นในประเทศแถบแอฟริกาตอนใต้”
นายเพอร์โรต์เทต์ กล่าวว่า เขาไม่มีแผนที่จะปรับเปลี่ยนแผนแม่บทการเปิดเมืองของนิวเซาท์เวลส์ ดังนั้นจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดให้ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดในวันที่ 15 ธันวาคม

ขณะเดียวกัน นิวเซาท์เวลส์พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในรัฐ 150 ราย ซึ่งมีการรายงานในวันจันทร์ และเป็นเวลา 5 วันติดกันแล้วที่ไม่มีรายงานการพบผู้เสียชีวิต

นิวเซาท์เวลส์มีอัตราประชากรอายุ 16 ปีขึ้นไปร้อยละ 94.5 ที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส ขณะที่ร้อยละ 92.4 ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว

รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่มีรายงานในวันจันทร์ 1,007 ราย มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
สำหรับเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ ถูกตั้งชื่อว่า โอไมครอน (Omicron) โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันเสาร์ ถูกตรวจพบในแอฟริกาใต้ บอตสวานา ฮ่องกง อิสราเอล เบลเยียม และสหราชอาณาจักร

เชื้อสายพันธุ์ใหม่ตัวนี้มีการกลายพันธุ์มากกว่าเชื้อสายพันธุ์เดลตาสองเท่า

เที่ยวบินจากแอฟริกาใต้ นามิเบีย ซิมบับเว บอตสวานา เลโซโท เอสวาตินี เซเชลส์ มาลาวี และโมซัมบิก จะหยุดเป็นเวลาสองสัปดาห์ภายใต้

ผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองออสเตรเลียที่เคยไปยังประเทศเหล่านั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในออสเตรเลีย

พลเมืองออสเตรเลียและครอบครัว จะต้องกักตัวสองสัปดาห์หากพวกเขาได้เคยไปยังประเทศต่างๆ เหล่านี้ภายในระยะเวลา 14 วันก่อนเดินทางเข้ามายังออสเตรเลีย

รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และเอซีที จะกำหนดให้ผู้เดินทางมาจากจากต่างประเทศทั้งหมดต้องกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 72 ชั่วโมง

ผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศก่อนหน้านี้ ที่อยู่ในนิวเซาท์เวลส์ วิกตอเรีย และเอซีทีแล้ว แต่เคยไปยังประเทศใดประเทศหนึ่งใน 9 ประเทศดังกล่าว ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันและไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR Test) ในทันที

เพื่อตอบสนองต่อเรื่องเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน รัฐเซาท์ออสเตรเลียได้ขยายระยะเวลากักตัวสำหรับชาวออสเตรเลียที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วและเดินทางมาจากต่างประเทศให้ต้องกักตัว 2 สัปดาห์ และยังได้เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเล็กน้อยสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างรัฐ

ด้านนายมาร์ก แม็กโกแวน มุขมนตรีรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประกาศว่า รัฐเซาท์ออสเตรเลียจะถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่ "มีความเสี่ยงต่ำ" โดยเริ่มใช้ข้อกำหนดการกักตัวสำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศที่เดินทางเข้ามายังเวสเทิร์นออสเตรเลียผ่านเซาท์ออสเตรเลีย

เขากล่าวว่า จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เนื่องจากมีการผ่อนคลายข้อกำหนดการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศในเซาท์ออสเตรเลียในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

การเปลี่ยนแปลงหมายความว่า เวสเทิร์นออสเตรเลียอนุญาตให้มีการเดินทางเข้ารัฐได้โดยไม่ต้องกักตัว เฉพาะจากแทสเมเนียและควีนส์แลนด์เท่านั้น และยังคงปิดพรมแดนสำหรับรัฐและมณฑลอื่นๆ

แทสเมเนียจะห้ามไม่ให้ผู้ที่เคยไปยังภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้เข้ารัฐ นอกเสียจากว่าพวกเขาได้กักตัวในโรงแรมครบ 14 วันบนแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลีย

ศ.พอล เคลลี ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของสหพันธรัฐ กล่าวว่า เชื้อสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า เชื้อนี้ก่อให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรงกว่าเชื้อสายพันธุ์ก่อนหน้า

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า วัคซีนที่มีอยู่จะมีประสิทธิภาพลดน้อยลงสำหรับเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้หรือไม่


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 29 November 2021 11:14am
Updated 29 November 2021 12:17pm
By SBS News
Presented by Parisuth Sodsai
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand