ไทยเลือกตั้งครั้งแรกหลังรัฐประหาร 2014

NEWS: ชาวไทยไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกนับตั้งแต่การก่อรัฐประหารของทหารในปี 2014 (พ.ศ.2557) โดยมีประชาชนกว่า 50 ล้านคนมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง

You can read the full article in English

คูหาเลือกตั้งต่างๆ เปิดให้ประชาชนไทยไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐประหารในปี 2014 คาดว่าจะมีผู้ไปใช้สิทธิในอัตราสูง ขณะเดียวกัน มี ร.10 โปรดเกล้าฯ อัญเชิญพระบรมราโชวาท ร.9 ให้ประชาชน ส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือนร้อน

การเลือกตั้งไทยในวันอาทิตย์เป็นการประชันกันระหว่างรัฐบาลทหารหัวอนุรักษ์นิยม กับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในอดีต และกระแสที่ยากคาดเดาของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งเป็นครั้งแรก

ประเทศไทยยังคงแตกแยกเป็นหลายฝักหลายฝ่าย แม้ว่ารัฐบาลทหารได้ให้คำมั่นจะช่วยนำความสงบมั่นคงสู่ประเทศหลังความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองที่เกิดขึ้นมานานนับสิบปี การประท้วง และการก่อรัฐประหาร

นักการเมืองจากทั่วทุกพรรคต่างเกรงว่าจะเกิดสถานการณ์เสมอกันจนเกิดทางตัน เนื่องจากกฎการเลือกตั้งใหม่จำกัดโอกาสที่พรรคใดพรรคหนึ่งจะมีเสียงในรัฐสภาอย่างท่วมท้น

ผู้มีสิทธิิออกเสียงเลือกตั้งต่างมุ่งมั่นที่จะไปใช้สิทธิของตนเป็นครั้งแรก หลังจากไม่มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยมานานหลายปี โดยในกรุงเทพมหานครนั้นประชาชนต่างเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้งกันตั้งแต่เช้าของวันอาทิตย์

"ประชาชนต้องการใช้สิทธิเลือกตั้ง" อภิยดา ศวาราชล นักธุรกิจผู้หนึ่งที่ไปใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ กล่าว พร้อมบอกว่า "ประชาชนไทยยังคงแบ่งแยกเป็นสองฝ่าย"

"เราไม่มีสิทธิที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองมา 5 ปีแล้ว" วศา อนุพัมนต์ แพทย์วัย 28 ปี กล่าว "ฉันตื่นเต้นมากเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้"
Thailand's Prime Minister Prayuth Chan-ocha gestures as he stands in a line to cast his vote at a polling station in Bangkok.
Thailand's Prime Minister Prayuth Chan-ocha gestures as he stands in a line to cast his vote at a polling station in Bangkok. Source: AAP

พระบรมราโชวาท

เมื่อวันเสาร์ ที่ 23 มีนาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระห่อมให้เลขาธิการพระราชวังอัญเชิญพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานไว้ในปี 1969 (พ.ศ. 2512) ความตอนหนึ่งว่า

"ขอให้ทราบถึงสิ่งสำคัญในการปกครองไว้ว่าในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้"

การของตัวเลขที่มากกว่า

พรรคของอดีตสมาชิกรัฐบาล คสช. ซึ่งเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหากชนะเลือกตั้งนั้น อยู่ภายใต้ความกดดันอย่างสูงที่จะต้องหลีกเลี่ยงความอับอายขายหน้าในการเลือกตั้งวันนี้ ซึ่งจะว่าไปแล้วเหมือนเป็นการลงประชามติของประชาชนว่าให้ความนิยมกับรัฐบาลทหารเพียงไร

คณะ คสช. ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของนางสาวย่ิงลักษณ์ ชินวัตร ในปี 2014 (พ.ศ.2557) โดยเป็นรัฐประหารครั้งที่ 12 ภายในระยะเวลาราว 100 ปี

กองทัพและพันธมิตรของกองทัพ ซึ่งเป็นชนชั้นสูงในกรุงเทพมหานคร เกลียดชังตระกูลชินวัตร โดยกล่าวหาว่าบ่อนทำลายการเมืองและสังคมไทย ด้วยเงิน การเล่นพวกพ้อง และการฉ้อราษฎร์บังหลวง

ขณะที่ตระกูลชินวัตร กล่าวว่า พวกเขาแค่ตระหนักดีเรื่องความมุ่งหวังทางเศรษฐกิจและประชาธิปไตยของคนไทยส่วนใหญ่

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กฎการเลือกตั้งใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อจำกัดจำนวนที่นั่งของพรรคใหญ่ต่างๆ โดยเฉพาะจำนวนที่นั่งที่พรรคเพื่อไทย ภายใต้ตระกูลชินวัตร สามารถได้ชัยชนะจากการเลือกตั้ง

คาดกันว่าพรรคเพื่อไทยจะกวาดที่นั่งได้ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกเช่นเคย โดยพรรคเพื่อไทยหวังจะได้จัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วม ที่ต่อต้านการปกครองโดยทหาร
Thai Future Forward Party co-founder and leader Thanathorn Juangroongruangkit (C) casts his ballot at a polling station during the general election in Bangkok.
Thai Future Forward Party co-founder and leader Thanathorn Juangroongruangkit (C) casts his ballot at a polling station during the general election in Bangkok. Source: AAP
แต่ระบบการเลือกตั้งใหม่ที่มีวุฒิสภา 250 คนจากการเลือกแต่งตั้งของ คสช. หมายความว่า พลเอกประยุทธ์และพรรคของอดีตสมาชิกรัฐบาล คสช. คือพรรคพลังประชารัฐ เป็นต่อทุกพรรค

ด้วยเสียงจากวุฒิสมาชิกในเมือง พรรคพลังประชารัฐต้องการเพียง 126 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร ที่จะได้เสียงข้างมากในรัฐสภา

แต่พรรคเพื่อไทยนั้น ต้องการ 376 เสียงในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจะได้เสียงข้างมากในรัฐสภา ซึ่งเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่มีเหตุการณ์ซับซ้อนที่ทำให้เกิดการเสมอกัน ไปทั่วทุกส่วนที่สนับสนุนประชาธิปไตย

"มีแนวโน้มว่าจะเกิดภาวะติดตาย (ภาวะทางตันทางการเมือง)" นภิสา ไวฑูรเกียรติ นักรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร บอกกับ เอเอฟพี

มีคนไทยกลุ่มมิลเลนเนียล 7 ล้านคนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเป็นครั้งแรก ซึ่งพวกเขาจำนวนมากชื่นชอบนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เศรษฐีพันล้าน นักการเมืองรุ่นใหม่ ที่มีจุดยืนต่อต้านการปกครองภายใต้ทหาร และเอาชนะใจประชาชนคนอายุน้อย ที่กลายเป็นแฟนพรรคอนาคตใหม่มากมาย จากโพสต์ในโซเชียลมีดีต่างๆ ของนายธนาธร
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 24 March 2019 5:55pm
By AFP-SBS
Presented by SBS Thai
Source: AFP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand