สิ่งที่ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนทิ้งแล็ปท็อปเครื่องเก่า

การกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ระมัดระวังอาจเป็นอันตรายต่อข้อมูลของคุณ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำสิ่งที่คุณควรทำก่อนทื้ง

A person using a laptop computer.

คาดขยะอิเล็กทรอนิกส์จะเกิน 70 ล้านตันภายในปี 2030 Source: AAP / Lukas Coch

ประเด็นสำคัญ
  • มีความกังวลว่าการไม่ลบข้อมูลให้ดีก่อนทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจเสี่ยงถูกขโมยข้อมูล
  • พบข้อมูลส่วนบุคคลบนมือถือมือสองที่ซื้อจากร้านค้าปลีกในรัฐ ACT
  • ผู้เชี่ยวชาญแนะผู้บริโภคควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ากำจัดอุปกรณ์อย่างถูกต้อง
ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของออสเตรเลียกำลังถูกคุกคามจากการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยประมาท ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

โทรศัพท์มือถือเก่าและอุปกรณ์อื่นๆ จากที่ทำงานในออสเตรเลียถูกกำจัดทิ้งทุกๆ ปี เป็นจำนวนหลายพันตัน บางส่วนถูกส่งไปต่างประเทศ บางส่วนถูกส่งไปรีไซเคิลหรือขายต่อ บริษัทที่ปรึกษาพีดับบลิวซี (PwC) ระบุ

อย่างไรก็ตาม ขยะอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกกำจัดอย่างเหมาะสม ข้อมูลมากมายยังทิ้งไว้กับเครื่อง ทำให้อาชญากรสามารถหารายได้ด้วยการนำไปขายบนเว็บมืด

เหตุใดอุปกรณ์ราคาถูกเหล่านี้ถึงมีค่า เมื่ออยู่ในมือคนผิด

บริษัท PwC ได้ซื้อแท็บเล็ต (Tablet) และโทรศัพท์มือถือในราคาต่ำกว่า 50 ดอลลาร์จากร้านค้าขายปลีกมือสองยอดนิยมในรัฐเอซีที (ACT) เพื่อจุดประสงค์ในการรายงาน

แท็บเล็ตยังคงมีสติ๊กเกอร์ของบริษัทหนึ่งติดอยู่และยังมีบันทึกการเข้าฐานข้อมูลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนได้กว่า 20 ล้านรายการ

และยังสามารถกู้คือข้อมูลส่วนบุคคลได้กว่า 60 รายการจากโทรศัพท์มือถือ ด้วยการใช้วิธีวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน

ข้อมูลดังกล่าวได้แก่เอกสารส่วนตัวและรูปถ่าย ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองนี้อาจมีมูลค่ามหาศาลในตลาดมืด บริษัท PwC กล่าว
ฟังพอดคาสต์ที่เกี่ยวข้อง
thai_ee4518e0-36f8-47af-9f1d-c8ce2ec34c69.mp3 image

คุณรีไซเคิลถูกต้องหรือไม่?

SBS Thai

18/07/202206:51
บริษัท PwC ผลักดันพระราชบัญญัติความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ (Security of Critical Infrastructure Act) หรือการแก้ไขคำแนะนำในการกำหนดให้องค์กรต้องกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย

ซึ่งจะทำให้องค์กรต่างๆ ต้องเสียค่าปรับอย่างน้อย 50 ล้านดอลลาร์สำหรับการละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างร้ายแรงหรือทำซ้ำ ภายใต้บทลงโทษใหม่ที่นำมาใช้เมื่อปีที่แล้ว

“ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในอุปกรณ์เหล่านี้และส่วนประกอบของมันอาจมีข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการขององค์กรและทรัพย์สินทางปัญญา เช่นเดียวกับข้อมูลส่วนบุคคล” คุณร็อบ ดิ ปิเอโตร (Rob Di Pietro) ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และความน่าเชื่อถือทางดิจิทัลของ PwC กล่าว
หากข้อมูลไปตกอยู่ในเงื้อมมือของคนร้าย ผลลัพธ์อาจเป็นหายนะ
สิ่งนี้มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าหน่วยงานด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของออสเตรเลีย เช่น หน่วยงานดูแลสุขภาพ ขนส่ง พลังงานและการป้องกันต้องกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย นายดิ ปิเอโตรกล่าว

คุณฌอน ดูกา (Sean Duca) หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยระดับภูมิภาคของบริษัทพาโล อัลโต เน็ตเวิร์ก (Palo Alto Networks) มีความกังวลเช่นกัน โดยกล่าวว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อเป็นภัยอันตรายที่คุกคามองค์กรต่างๆ

“อาจมีบางสิ่ง เศษเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้ร้ายอาจสาวไปสู่สิ่งอื่นได้ ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ร้ายสามารถเข้าถึงองค์กรได้ง่ายขึ้น” คุณดูกากล่าวกับสำนักข่าวเอเอพี (AAP)

“แน่นอนว่าพวกเขาอาจต้องพยายามทำบางอย่าง อาจต้องคุ้ยขยะในถังขยะเลยก็ได้ แต่ท้ายที่สุด พวกเขามีเวลาและความพยายามที่จะทำและหาบางสิ่งในนั้น”
laptop, mobile-Silver iphone on laptop-pexels-joseph-redfield.jpg
มือถือวางบนแล็ปท็อป Credit: Pexels/Joseph Redfield
จากการรายงานของ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์ก ออสเตรเลียยังคงเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

รายงานระบุว่า การโจมตีระบบโรงเรียน เช่น ไวซ์ โซไซตี (Vice Society) แสดงให้เห็นว่าอาชญากรไซเบอร์เต็มใจที่จะยอมลดศักดิ์ศรีเพื่อให้ได้เงิน

การโจมกรรมข้อมูลเป็นวิธีการขู่กรรโชกที่นิยมใช้โดยกลุ่มเรียกค่าไถ่ออนไลน์ และการจ่ายค่าไถ่มีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ (521,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย) ในปี 2022 ต่ำกว่าค่าไถ่ที่เรียกซึ่งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 650,000 ดอลลาร์สหรัฐ

แล้วผู้บริโภคควรทำอย่างไร?

คุณวิลเลียม โหย่ว (William Yeoh) รองศาสตราจารย์ภาควิชาระบบข้อมูลและการวิเคราะห์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยดีคิน (Deakin University) กล่าวว่า เช่นเดียวกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้บริโภคควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้กำจัดอุปกรณ์ของตนอย่างถูกต้อง

ศจ.โหย่วกล่าวว่าหากไม่ทำเช่นนั้น จะมีความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกกู้ได้ หากยังเก็บไว้ในอุปกรณ์ ซึ่งยังคงเป็นไปได้ แม้ว่าจะรีเซ็ตอุปกรณ์แล้วก็ตาม

“ผู้คนสามารถซื้อซอฟต์แวร์ (software) กู้คืนฮาร์ด ไดร์ฟ (hard drive) ได้ และมันมีราคาถูกมาก” ศจ.โหย่วกล่าว

“ดังนั้นการลบซอฟแวร์หรือลบไฟล์จากถังขยะรีไซเคิล (recycle bin) ในแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์ของคุณยังไม่เพียงพอ”

วิธีเดียวที่จะทำให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกล้างออกจากอุปกรณ์แล้วคือการทำลายฮาร์ด ไดร์ฟ
ทุบฮาร์ดไดร์ฟด้วยค้อนหรือขันตะปูเข้าไป
ศจ.โหย่วอธิบาย
เมื่อคุณจะกำจัดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ศจ.โหย่วแนะนำให้ถอดฮาร์ดไดร์ฟออก ทำลายมัน และนำไปใส่ไว้ในถังขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เหมาะสมพร้อมกับส่วนประกอบอื่นๆ

รองศจ.โหย่วกล่าวว่า หลีกเลี่ยงการทิ้งอุปกรณ์ทั้งหมดกับบริการรับรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เว้นแต่จะระบุว่าข้อมูลจะถูกทำลายอย่างปลอดภัย

ศจ.โหย่วยังเสริมว่า หลายๆ ธุรกิจมีถังขยะเฉพาะเพื่อทิ้งเอกสารเพื่อนำไปทำลายอย่างปลอดภัย และควรมีระบบที่คล้ายกันนี้สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกจะเกิน 70 ล้านตันภายในปี 2030


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 
 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 23 March 2023 5:04pm
Presented by Chollada Kromyindee
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand