NSW พบเด็กเป็นโรคคอตีบครั้งแรกในรอบศตวรรษ

เด็กเล็ก 6 ขวบจากทางเหนือของนิวเซาท์เวลส์ป่วยโรคคอตีบรายที่ 2 ในรอบศตวรรษ หลังเคสแรกเป็นญาติในครอบครัว สธ.เตือนอาการรุนแรงถึงชีวิตในผู้ป่วย 5-10% แนะรีบพาบุตรหลานไปฉีดวัคซีน

Anyone who is not fully immunised is at risk of diphtheria.

Anyone who is not fully immunised is at risk of diphtheria. Source: AAP / Wang yadong/AP

รัฐนิวเซาท์เวลส์ยืนยันการติดเชื้อรายที่ 2 ของโรคคอตีบในรอบ 100 ปี ซึ่งได้ส่งผลต่อเด็กด้วย

เด็กวัย 6 ขวบจากพื้นที่ตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวของผู้ติดเชื้อรายแรกซึ่งเป็นเด็กเล็กที่ยังคงรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียูในขณะนี้

เด็กซึ่งเพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อรายที่ 2 ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน และกำลังได้รับการดูแลอยู่ในหน่วยงานสุขภาพท้องถิ่นแห่งหนึ่งซึ่งรับเด็กคนดังกล่าวเข้ารักษาเพื่อป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า

โรคคอตีบเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่แพร่กระจายได้และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต มีผลต่อลำคอและต่อมทอลซิลในรูปแบบที่รุนแรงที่สุด ส่งผลให้เกิดเนื้อเยื่อสีขาวอมเทาบริเวณอวัยวะดังกล่าว ทำให้การกลืนและการหายใจลำบาก

การติดเชื้อดังกล่าวยังทำให้เกิดอาการคอบวมอีกด้วย ข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ระบุว่า สารพิษที่สร้างโดยเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวจะทำให้เกิดการอักเสบที่กล้ามเนื้อหัวใจและเส้นประสาท ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตสำหรับผู้ติดเชื้อร้อยละ 5-10

ผู้สัมผัสใกล้ชิดอีกรายหนึ่งของเด็กเล็กทั้งสองรายได้รับการรักษาเพื่อป้องกันโรคหลังสัมผัสเชื้อแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งการรักษาดังกล่าวนั้นรวมถึงการให้ยาปฏิชีวนะ และการสร้างภูมิคุ้มกัน

พอล โดกลัส (Paul Douglas) ผู้อำนวยการสาธารณสุขพื้นที่นอร์ทโคสต์ (North Coast Public Health) กล่าวว่า การติดเชื้อของเด็กทั้ง 2 รายไม่มีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องไปยังชุมชนวงกว้าง  แต่ครอบครัวต่าง ๆ ควรตื่นตัวและทบทวนสถานะการฉีดวัคซีนของบุตรหลาน

“โรคคอตีบเกิดขึ้นได้ยากมากในออสเตรเลีย เนื่องจากโครงการสร้างภูมิคุ้มกันในวัยเด็กที่ยาวนานของเรา อย่างไรก็ตามโรคติดต่อนี้ส่งผลร้ายแรงมากและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต” นายโดกลัส กล่าว

“วัคซีนป้องกันโรคคอตีบไม่มีค่าใช้จ่ายและมีให้พร้อมจากแพทย์จีพีของคุณสำหรับทุก ๆ คนที่อายุตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไป”

หน่วยงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ปรับปรุงเกี่ยวกับโรคคอตีบ โดยให้คำแนะนำว่า ตามปกติการติดเชื้อจะแพร่กระจายจากละอองฝอยในระบบทางเดินหายใจหลังจากที่ผู้ติดเชื้อไอหรือจาม

ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยคอตีบรายอื่น ๆ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ในช่วงศตวรรษนี้ แต่ก็ได้มีรายงานการติดเชื้อในกรณีที่ไม่รุนแรงมากอยู่ในบางโอกาส ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อทางผิวหนัง

ข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า โรคคอตีบเป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิตของเด็กจนกระทั่งช่วงปี 1940 แต่ในปัจจุบันพบได้บ่อยในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ โดยเชื้อจะแพร่กระจายผ่านการไอหรือจาม และอาจแพร่กระจายได้โดยการสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อน


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

วิกฤตผักขาดแคลนทำอาหารฟาสต์ฟู้ดในออสฯ รสชาติเปลี่ยนไป




Share
Published 4 July 2022 8:04pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand