นักศึกษาสอบตกอาจหมดสิทธิ์รับเงินช่วย-เงินกู้จากรัฐบาล

รัฐบาลสหพันธรัฐเสนอร่างนโยบาลระงับเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา หากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสอบตกครึ่งหนึ่งของรายวิชาในปีแรก

University Graduation

University students in Australia who fail classes could soon lose their HECS loans Source: Pixabay StockSnap

นักศึกษามหาวิทยาลัยที่สอบตกครึ่งหนึ่งของรายวิชาในปีแรก อาจสูญเสียการสนับสนุนค่าเล่าเรียนจากโครงการกู้เงินจากรัฐบาล ภายใต้ข้อเสนอด้านนโยบายใหม่ของรัฐบาลสหพันธรัฐ เพื่อจำกัดภาระหนี้สินทางการศึกษา

โดยร่างนโยบายดังกล่าว ได้มุ่งเป้าไปยังนักศึกษาที่ก่อหนี้สินด้วยการลงทะเบียนเรียนในรายวิชาต่าง ๆ เกินหน่วยกิตที่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งบางครั้งเป็นการลงทะเบียนเรียนในต่างสถาบัน 

บรรดามหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะต้องใช้ความพยายามให้มากขึ้น ในการประเมินความยั่งยืนทางวิชาการสำหรับหลักสูตรต่าง ๆ รวมถึงติดตามความคืบหน้าของผลการเรียนนักศึกษา

นายแดน เทียน (Dan Tehan) รัฐมนตรีด้านการศึกษาของออสเตรเลีย กล่าวว่า มีนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยร้อยละ 6 ที่สอบตกทุกรายวิชาในปีแรก 

“สิ่งที่เราไม่ต้องการ ก็คือการที่นักศึกษาลงทะเบียนในหลักสูตรต่าง ๆ  จากนั้นก็ไปลงทะเบียนเรียนวิชาที่พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อศึกษา หรือไม่มีทีท่าว่าจะเรียนจบ และพวกเขาก็สอบตก” นายเทียนกล่าวในวันนี้ (13 ส.ค.)
The government reportedly held $66.6 billion worth of HELP debt in 2018/19.
The government reportedly held $66.6 billion worth of HELP debt in 2018/19. Source: Getty
ภายใต้ร่างนโยบายดังกล่าวระบุว่า นักศึกษาที่สอบตกครึ่งหนึ่งของ 8 รายวิชาแรกในหลักสูตรที่ศึกษานั้น จะไม่สามารถเข้าถึงเงินช่วยเหลือการศึกษาจากรัฐบาล และโครงการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาระดับสูง (HELP Loan) แต่อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ให้บริการการศึกษา หากผลการเรียนของนักศึกษา ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

“สิ่งที่เราไม่อยากพบเห็น ก็คือการที่นักศึกษาลงทะเบียนในหลักสูตรต่าง ๆ แต่ไม่ได้ใบประกาศ เหลือไว้เพียงแต่ภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายคืนให้หมดจากหลักสูตรเหล่านั้น” นายเทียน รัฐมนตรีศึกษาธิการกล่าว 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีศึกษาธิการ ต้องการให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทำงานอย่างใกล้ชิดกับนักศึกษาเมื่อพวกเขาประสบกับปัญหา ด้วยการให้การสนับสนุน หรือแนะนำหลักสูตรอื่น ๆ

“สิ่งนี้เกี่ยวกับการช่วยให้นักศึกษา เพื่อให้เข้าใจว่ามีความช่วยเหลือสำหรับพวกเขา และการได้รับสิ่งเหล่านั้น ก็คือการไม่ก่อหนี้ด้วยรายวิชาที่เรียนไม่ผ่าน” นายเทียนกล่าว

ทั้งนี้ จะไม่มีการส่งต่ออัตราการจบการศึกษาต่ำ (Low completion rate) สำหรับนักศึกษาที่ต้องการจะเปลี่ยนหลักสูตร 

ในปีงบประมาณ 2018/19 รัฐบาลได้แบกรับภาระหนี้สินจากโครงการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาระดับสูง (HELP Loan) เป็นจำนวนเงิน $66,600 ล้านดอลลาร์ โดยมีมากกว่าร้อยละ 15 ของจำนวนหนี้สินดังกล่าวที่คาดว่าจะไม่ได้รับการชำระคืน 

นางทันยา พลิเบอเซ็ก (Tanya Plibersek)  โฆษกด้านการศึกษาของพรรคแรงงาน กล่าวว่า การประกาศดังกล่าว เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาอื่น ๆ ที่ระบบการศึกษากำลังเผชิญ

“ปัญหาที่แท้จริงในจุดนี้ก็คือ ในขณะที่ผู้คนนับหมื่นนับแสนคนต้องต่อคิวรับเงินช่วยเหลือคนว่างงาน รัฐบาลชุดนี้กลับปิดกั้นผู้คนจากการศึกษา ทั้งในสถาบันเทฟ (TAFEและในมหาวิทยาลัย หากเราปิดกั้นผู้คนจากการศึกษา นั่นก็คือการปิดกั้นพวกเขาไม่ให้มีงานทำ” นางพลิเบอเซ็กกล่าวกับผู้สื่อข่าว

ร่างนโยบายปฏิรูปมหาวิทยาลัย โดยรัฐบาลภายใต้การนำของ นายสกอตต์ มอร์ริซัน ได้รวมไปถึงแผนที่จะเพิ่มค่าเล่าเรียนในหลักสูตรด้านมนุษย์ศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรที่สามารถผลิตแรงงานที่มีความจำเป็นในตลาดมากกว่า เช่น คณิตศาสตร์ และครุศาสตร์

แต่นโยบายดังกล่าวได้สร้างข้อถกเถียงระหว่างพรรคลิเบอร์รัล และพรรคเนชันนัลส์ (Nationals) ซึ่งเป็นพรรคแนวร่วมกลุ่มเล็กในคณะรัฐบาลผลสม ซึ่งกังวลว่าร่างนโยบายดังกล่าว จะเติมเชื้อไฟของความไม่เท่าเทียมในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของออสเตรเลีย


ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น. 

ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จำเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น

ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น

รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้  ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080 

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้  

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 13 August 2020 6:17pm
Updated 13 August 2020 7:09pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand