“ความแปรปรวนอากาศ”คืออะไรและเส้นทางการบินไหนมีสถิติตกหลุมอากาศบ่อยที่สุด

ไม่มีเส้นทางการบินไหนราบรื่นไปเสียทั้งหมด ชวนมาอ่านเส้นทางการบินและสายการบินที่มีสถิติตกหลุมอากาศบ่อยที่สุด

A plane coming in to land at an airport

เส้นทางการบินบางสายเผชิญกับการแปรปรวนอากาศบ่อยกว่าที่อื่น Source: AAP / ANP/VLN Nieuws/Sipa USA


จากเหตุการณ์เที่ยวบินของสายการบินของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ที่ออกเดินทางจากลอนดอนไปสิงคโปร์ เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรงและต้องลงจอดฉุกเฉินที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชายผู้หนึ่งหนึ่งเสียชีวิตด้วยสาเหตุที่คาดว่ามาจากโรคหัวใจ และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน

เราสำรวจรายชื่อเส้นทางการบินและสนามบินที่คุณมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับสภาวะความแปรปรวนอากาศมากที่สุด

เส้นทางการมีที่มีความแปรปรวนอากาศมากที่สุด

จากข้อมูลของการตรวจจับความแปรปรวนอากาศในอากาศปี 2023 พบว่า เส้นทางการบินระหว่างเมืองซานติอาโกในในชิลีและซานตาครูซในโบลิเวียมีสภาพอากาศแปรปรวนโดยเฉลี่ยสูงที่สุดในโลก

เครื่องมือการตรวจจับระดับความแปรปรวนอากาศดังกล่าวมีชื่อว่า Turbli ซึ่งใช้เก็บฐานข้อมูลของสภาวะความแปรปรวนอากาศ

เครื่องมือพยากรณ์นี้สร้างขึ้นโดยอ้างอิงจากการพยากรณ์อากาศในแต่ละวันของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งสหราชอาณาจักร (UK Met Office) และสำนักงานมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (US' National Oceanic and Atmospheric Agency)


มีการวิเคราะห์และจัดอันดับเส้นทางบินประมาณ 150,000 เส้นทางโดยใช้อัตราการกระจายของลมหมุนวน (EDR) ซึ่งเป็นการวัดความรุนแรงของสภาวะการตกหลุมอากาศ

โดยที่ EDR 0-20 ถือเป็นความแปรปรวนอากาศเพียงเล็กน้อย 20-40 คือภาวะปานกลาง 40 -80 หมายถึง ความแปรปรวนอากาศรุนแรง และ 80-100 คือระดับรุนแรงมาก

ซึ่งในปีที่แล้วเส้นทางระหว่างการบินระหว่างเมืองซันติอาโกและเมืองซานตาครูซมีค่า EDR เฉลี่ยอยู่ที่ 17.568
A table showing the 10 most turbulent flight routes in the world
Source: SBS
ในออสเตรเลียเส้นทางการบินระหว่างนครบริสเบนและนครซิดนีย์มีระดับความแปรปรวนอากาศในอากาศฉลี่ยสูงสุดในภูมิภาคโอเชียเนีย โดยมีค่า EDR อยู่ที่ 15.31

เส้นทางเข้าและออกจากนครบริสเบนอีกสามเส้นทางก็ติดอยู่ใน 10 อันดับแรก เช่นเดียวกับเส้นทางการบินจากนครเมลเบิร์นไปยังนครซิดนีย์

A table showing the 10 most turbulent flight routes in Oceania
Source: SBS

สนามบินที่เผชิญกับความแปรปรวนอากาศอากาศบ่อยที่สุด

มีการสำรวจจากสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก 500 แห่ง พบว่าสนามบินเมืองซานติอาโกเป็นสนามบินที่เผชิญกับความแปรปรวนอากาศบ่อยที่สุด

จากข้อมูลของ Turbli พบว่าเที่ยวบินเข้าและออกจากเมืองหลวงของชิลี ในปีที่แล้ว มีค่า EDR เฉลี่ยอยู่ที่ 17.137

ส่วนประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนสนามบินที่มีรายชื่อติดในการสำรวจครั้งนี้มากที่สุดใน 10 อันดับแรก โดยมีสนามบิน 5 แห่งอยู่ในกลุ่มที่เผชิญความแปรปรวนอากาศบ่อยที่สุดด้วย

A table showing the 10 most turbulent airports in the world
Source: SBS
สนามบินในนครเวลลิงตันติดอันดับที่สามที่เป็นสนามบินที่มีความแปรปรวนอากาศบ่อยที่สุดในภูมิภาคโอเชียเนีย

สนามบินแห่งเดียวในออสเตรเลียที่ไม่อยู่ใน 10 อันดับแรกคือสนามบินนครโฮบาร์ตและสนามบินกรุงแคนเบอร์รา
A table showing the 10 most turbulent airports in Oceania
Source: SBS

ความแปรปรวนอากาศในอากาศเกิดจากอะไร

รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ศาสตราจารย์ท็อดด์ เลน อธิบายว่า ความแปรปรวนอากาศ มักเกิดจากสาเหตุของระบบสภาพอากาศ 3 ประการหลักๆ คือ

ประการแรกคือพายุฝนฟ้าคะนอง

“พายุฝนฟ้าคะนองทำให้เกิดสภาวะปั่นป่วนทั้งภายในบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองและสามารถมีความแปรปรวนอากาศแม้ว่าอากาศแจ่มใสที่อยู่โดยรอบบริเวณที่พายุฝนฟ้าคะนอง”

อีกประการหนึ่งคือกระแสลมเหนือภูเขา

“เทือกเขาขนาดใหญ่จะก่อให้เกิดการรบกวนการไหลของอากาศอย่างมีนัยสำคัญ และนั่นอาจทำให้เกิดความแปรปรวนอากาศเหนือภูเขาได้”

“เทือกเขา เช่น เทือกเขาแอลป์ตอนใต้ของนิวซีแลนด์ เทือกเขาร็อกกี้ในสหรัฐอเมริกา และเทือกเขาหิมาลัย จะก่อให้เกิดความแปรปรวนอากาศบ่อยที่อาจส่งผลกระทบต่อเครื่องบิน”


ประการสุดท้ายคือกระแสลมความเร็วสูง (jet stream)

“กระแสลมความเร็วสูงเป็นบริเวณที่มีลมแรงมากในชั้นบรรยากาศชั้นบน ซึ่งเกิดขึ้นที่ระดับความสูงประมาณเดียวกับที่เครื่องบินบิน”

"เมื่อคุณเจอกับกระแสลมความเร็วสูง ก็จะเกิดสิ่งที่เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงความเร็วและหรือทิศทางของลมในระยะสั้นๆ(ฉับพลัน)”
หากมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วและหรือทิศทางของลมที่รุนแรง มันก็สามารถสร้างความแปรปรวนอากาศได้มาก
รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ศาสตราจารย์ท็อดด์ เลน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลต่อความถี่และความรุนแรงของความแปรปรวนอากาศหรือไม่?

ศาสตราจารย์เลน กล่าวว่าการศึกษาแสดงให้เห็นว่าในขณะที่สภาพอากาศยังคงเปลี่ยนแปลง กระแสน้ำจะแรงขึ้น ซึ่งหมายความว่าความแปรปรวนอากาศรุนแรงจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้น แต่อาจจะไม่ใช่ทุกที่

“การเพิ่มระดับความรุนแรงของกระแสลมความเร็วสูง เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นเฉพาะในภูมิภาคที่มีกระแสลมความเร็วสูง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในละติจูดกลาง นอกเขตอากาศร้อนชื้น”

 “มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาเกี่ยวกับเที่ยวบินจากอเมริกาเหนือไปยังยุโรปในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กับกระแสลมความเร็วสูง และผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าระดับความแปรปรวนอากาศอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดสูงขึ้นในเส้นทางบินเหล่านั้น

ในขณะที่มีการวิจัยไม่มากนักที่ศึกษาเรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลต่อความแปรปรวนอากาศที่เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนองมากขึ้นอย่างไร แต่จากการศึกษาเหล่านั้นพบว่ามีข้อสรุปบางประการ ศาสตราจารย์เลน ชี้ว่า

 “สิ่งที่เรารู้คือในโลกที่ร้อนขึ้น ซึ่งบรรยากาศสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มที่พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงจะเกิดมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่พายุเหล่านั้นจะก่อให้เกิดความแปรปรวนอากาศที่รุนแรงมากขึ้นในอนาคต”



คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 



บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่  



Share
Published 24 May 2024 10:08am
By Amy Hall
Presented by Chayada Powell
Source: SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand