วาระ 'จอฟ้าแห่งความตาย' ความโกลาหลจากเหตุ Microsoft ขัดข้องที่ออสเตรเลีย

Microsoft announces Windows 11

เหตุขัดข้องครั้งประวัติศาสตร์ที่กระทบคอมพิวเตอร์ราว 8.5 ล้านเครื่องทั่วโลก Source: AP / AP/Mark Lennihan

เมื่อระบบ Microsoft ขัดข้องทั่วโลก ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกๆ ที่ต้องเจอกับความโกลาหล สิ่งนี้มีผลกระทบอย่างไร ฟังคนไทยเล่านาทีติดอยู่ที่สนามบิน 6 ชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อธิบายสาเหตุของเรื่องนี้ พร้อมคำเตือนเรื่องสแกมเมอร์ที่กำลังฉวยโอกาสช่วงนี้เช่นกัน


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. (เวลาของเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย) ในวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม เกิดเหตุขัดข้องทางไอทีครั้งใหญ่ทั่วโลก เมื่อระบบไมโครซอฟท์ (Microsoft) ระบบที่บริษัทส่วนใหญ่ใช้ในการทำงานแสดงหน้าจอเป็นสีฟ้า พร้อมข้อความระบุว่าระบบขัดข้อง หรือที่เรียกกันว่า ‘จอฟ้าแห่งความตาย (blue screen of death)’

เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบกับหลายบริษัท รวมถึงธนาคาร สายการบิน และสื่อต่างๆ เป็นวงกว้าง นับเป็นเหตุระบบขัดข้องครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ความโกลาหลในออสเตรเลีย

ที่ออสเตรเลีย มีรายงานเหตุขัดข้องที่บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น Telstra สำนักข่าวอย่าง ABC และ SBS ธนาคาร NAB, ANZ , และ Bendigo Bank รวมถึงผู้ที่กำลังจับจ่ายใช้สอยที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต

“ระบบล่มทีไรก็จะมีเรื่องให้ปวดหัวทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีคนที่ต้องเดินทางหรือกำลังจับจ่าย ถ้าพวกเขากำลังหิว กำลังจะเดินทาง พวกเขาก็ต้องติดอยู่ในที่ตรงนั้น และต้องทนหิว”

ระบบขัดข้องนี้กระทบสนามบินต่างๆ ที่ออสเตรเลียเช่นกัน กระทบระบบของสายการบินทั้ง Qantas, Virgin และ Jetstar
Airport strike
หน้าจอแสดงไฟลท์ยกเลิก Source: AAP / AAP Image/Mick Tsikas
คุณนานากำลังจะเดินทาง เธอเล่าเหตุการณ์ที่สนามบินบริสเบนขณะที่เธอกำลังจะเช็คอิน ตอนเวลาประมาณ 15.00 น. แต่ระบบการเช็คอินไม่ทำงาน จนกระทั่งมีการประกาศว่าระบบขัดข้อง คุณนานาจึงเช็ค X (ทวิตเตอร์) และทราบถึงเหตุขัดข้องของ Microsoft
นั่งรอตั้งแต่บ่าย 3 ที่แอร์พอร์ต ที่บริสเบน พอประมาณสัก 5 โมง ไฟล์ทเริ่มขึ้นว่าแคนเซิล แต่คนก็มาเรื่อยๆ สนามบินก็แน่นขึ้นเรื่อยๆ
คุณนานา คนไทยที่ต้องติดอยู่ที่สนามบินเกือบ 6 ชั่วโมงกล่าว
จนเวลาประมาณ 20.30 น. เคาน์เตอร์สายการบินเริ่มปิดให้บริการ สุดท้ายคุณนานาตัดสินใจยกเลิกไฟล์ทและซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่ แล้วหาที่พักระหว่างรอขึ้นเครื่องได้อีกครั้ง ซึ่งทางสายการบินดำเนินการคืนเงินให้เธอในภายหลัง พร้อมเงินช่วยเหลือค่าที่พักและอาหาร

โดยคุณนานาบอกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอต้องเผื่อใจกับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ในการเดินทาง

และข้อมูลการบินทั่วโลกจากซิเรียม (Cirium) ระบุว่าเหตุขัดข้องนี้ส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินอย่างน้อย 5,000 เที่ยวบินทั่วโลก

สาเหตุของระบบขัดข้อง

สาเหตุของระบบขัดข้องครั้งนี้เกิดจากความผิดพลาดในระหว่างที่มีการอัปเดตซอฟท์แวร์ของ Microsoft โดยคราวด์สไตรค์ (CrowdStrike) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย และการขัดข้องในครั้งนี้กระทบคอมพิวเตอร์นับล้านเครื่องทั่วโลก
MICROSOFT AI TOUR PANEL DISCUSSION SYDNEY
จอคอมพิวเตอร์ที่มีโลโก้ไมโครซอฟท์ Source: AAP / BIANCA DE MARCHI/AAPIMAGE
คุณเอทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ออสเตรเลียอธิบายถึงสาเหตุของวาระจอฟ้าทั่วโลกครั้งนี้
CrowdStrike เค้า push update แล้วในตัวอัปเดตเนี่ยมีปัญหากับ Windows ก็เลยจอฟ้ากันหมดเลย
คุณเอ คนไทยที่ทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในออสเตรเลียกล่าว
โดย CrowdStrike เป็นบริษัทที่ผลิตระบบรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งคอมพิวเตอร์ตามบริษัทหรือธุรกิจต่างๆ มักใช้

อย่างไรก็ตาม เหตุขัดข้องครั้งนี้ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์

จอร์ช เคิร์ตซ์ (George Kurtz) ผู้บริหารระดับสูงของ CrowdStrike แถลงขอโทษออกสื่อในรายการ ยูเอส ทูเดย์ โชว์ ที่สหรัฐอเมริกา

“เราเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผลกระทบที่เราได้สร้างต่อลูกค้า ต่อผู้ที่กำลังเดินทาง ต่อผู้ใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ รวมถึงบริษัทของเราด้วย ระบบทำการอัปเดต และในการอัปเดตนั้นมีบัก (bug) อยู่ ทำให้ระบบปฏิบัติการของ Microsoft มีปัญหา เราทราบถึงปัญหาและแก้ไขอย่างรวดเร็ว ระบบกลับมาทำงานได้อีกครั้งด้วยการรีบูต ระบบต่างๆ เริ่มกลับมาทำงานแล้ว และเรากำลังทำงานร่วมกับลูกค้าแต่ละรายเพื่อให้แน่ใจว่าเราช่วยให้ระบบของพวกเขากลับมาทำงานได้อีกครั้ง”

สำหรับบางแห่งที่ยังไม่สามารถกู้คอมพิวเตอร์กลับมาได้ คุณเออธิบายว่ามีหลายปัจจัยที่เป็นตัวแปร เช่น คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าระบบได้ หรือปัญหาอื่น
Intel circuit board
แผงวงจรคอมพิวเตอร์ Source: AAP
ด้านผู้ใช้ระบบ Microsoft แบบรายบุคคลที่กังวล คุณเอกล่าวว่าเหตุขัดข้องระดับโลกครั้งนี้เป็นสิ่งเตือนใจในการตรวจสอบระบบที่จะนำมาใช้อัปเดตต่างๆ ก่อนนำมาใช้จริง หรือการแบ็คอัปข้อมูลก่อนทำการอัปเดต

เตือนสแกมเมอร์ฉวยโอกาสนี้

ขณะที่ระบบคอมพิวเตอร์หลายแห่งกลับมาใช้งานได้ตามปกติ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย แคลร์ โอนีล (Claire O’Neil) เตือนให้ระวังนักต้มตุ๋นที่ฉวยโอกาสจากความโกลาหลและความกังวลนี้

“มีการรายงานเหตุฟิชชิ่งหลายรายในขณะนี้ สิ่งที่เราได้ยินคือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้เสียหายรายบุคคลที่ได้รับอีเมลจากผู้ที่แอบอ้างว่ามาจาก CrowdStrike หรือจาก Microsoft ติดต่อขอรายละเอียดบัญชีธนาคารเพื่อรีบูตระบบ โดยต้องจ่ายเงิน หรือใส่รายละเอียดส่วนตัวของคุณเพื่อให้ระบบสามารถกลับมาออนไลน์ได้อีกครั้ง ดิฉันขอให้ชาวออสเตรเลียทุกคนใช้ความระมัดระวังมากๆ ในช่วงเวลานี้ สแกมเมอร์พยายามจะใช้เหตุการณ์นี้เพื่อหลอกเอาเงินจากคุณหรือหลอกเอาข้อมูลจากคุณ”

*หมายเหตุ: ฟิชชิ่ง (phishing) คือการแอบอ้างว่ามาจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว
คุณเอแนะนำให้ตรวจสอบลิงค์หรือเอกสารที่แนบมาในอีเมลก่อนทุกครั้ง รวมถึงข้อความที่ส่งมาทาง SMS ด้วย

“เวลามีคนส่งอีเมลอะไรมา มันเกี่ยวกับเราจริงๆ หรือเปล่า พยายามอย่าดาวน์โหลดหรือคลิก attachment ที่เราไม่รู้ เพราะจะทำให้แฮคเกอร์จะสามารถเข้าคอมพิวเตอร์เราได้ เพราะแฮคเกอร์มีเทคนิคในการเข้ามาในคอมพิวเตอร์เราอยู่แล้ว เขาจะดึงข้อมูลเราไป”

คำแนะนำหนทางแก้ไขก่อนจะสาย

ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปค่าเสียหายจากเหตุขัดข้องในครั้งนี้ ศาสตราจารย์ริชาร์ด บัคแลนด์ (Richard Buckland) ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (University of New South Wales) เตือนว่าเรื่องนี้เป็นสัญญาณเตือนภัยสำหรับทั้งฝ่ายธุรกิจเอกชนและรัฐบาล ถึงผลกระทบที่อาจกลายเป็นหายนะ หากเป็นการโจมตีทางไซเบอร์

“เรา (ออสเตรเลีย) เป็นกลุ่มแรกๆ ที่เผชิญกับเหตุขัดข้องครั้งนี้ เราไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น สิ่งที่น่ากังวลคือมันแสดงให้เห็นว่าระบบของเรามีช่องโหว่ เรามีระบบอีกมากมายที่ไม่ได้ตั้งค่าการสำรองข้อมูลไว้ เราวางใจว่าทุกอย่างจะทำงานได้ จากนี้ต่อไปในอนาคต สิ่งนี้จะเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เราจะเจอข้อผิดพลาดที่จะกระทบกับระบบ"
หวังว่าสิ่งที่เราจะเปลี่ยนได้คือผลกระทบต่างๆ เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น เราควรจะมีแผนสำรองไว้
ศาสตราจารย์บัคแลนด์กล่าว
เหตุขัดข้องครั้งประวัติศาสตร์นี้ Microsoft ประเมินว่ามีคอมพิวเตอร์ราว 8.5 ล้านเครื่องทั่วโลกที่ไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงที่เกิดเหตุ เทียบเป็นประมาณ 1% ของผู้ใช้ระบบวินโดวส์ทั่วโลก

เหตุการณ์นี้ส่งผลให้หุ้นของ Microsoft และ CrowdStrike ร่วงลงอย่างฉับพลัน ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยหุ้นของ CrowdStrike Holdings ประสบการขาดทุนมากที่สุด ลดลงประมาณ 12% เป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินการแย่ที่สุดในกลุ่ม S&P 500 และส่งให้หุ้นของกลุ่ม S&P 500 ลดลง 0.7%

หุ้นของ Microsoft ลดลงประมาณ 1% ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังคงรั้งตำแหน่งบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก
กด ▶ ฟังพอดคาสต์เรื่องนี้ฉบับเต็ม
Thai_Interview_MS Outage_220724 image

วาระ 'จอฟ้าแห่งความตาย' ความโกลาหลจากเหตุ Microsoft ขัดข้องที่ออสเตรเลีย

SBS Thai

22/07/202417:27
ค้นหาข้อมูลหรือติดต่อสอบถามเกี่ยวกับสแกมเมอร์เพิ่มเติมได้ที่ cyber.gov.au หรือโทร 1300 292 371

หรือที่ Scamwatch.gov.au


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 
 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand