ออสเตรเลียเจอเหตุจารกรรมข้อมูลเกือบ 13 ล้านคนจาก MediSecure

Close-up adult hand typing on laptop - GettyImages

"นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย" นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีซีกล่าว Source: Getty / Bill Hinton

การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดที่ออสเตรเลียจาก MediSecure ผู้ให้บริการจ่ายยา โดยขโมยข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลด้านสุขภาพชาวออสซี 13 ล้านคน เกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมด


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

การจารกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ครั้งนี้นับเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย โดยข้อมูลของประชากรออสเตรเลียเกือบ 13 ล้านคนถูกขโมยจากเมดิซิเคียว (MediSecure)

นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีซีเข้าใจถึงสิ่งที่หลายคนกังวล

“ผมเข้าใจว่าประชาชนออสเตรเลียหลายคนกังวลเรื่องการถูกละเมิดข้อมูลที่กระทบประชากรเกือบครึ่งหนึ่งในครั้งนี้ นี่เป็นเหตุการณ์ไซเบอร์ที่สำคัญมาก นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย”
เมดิซิเคียวเป็นบริษัทที่ให้บริการจัดส่งใบสั่งยาทั้งทางกระดาษและอิเล็กโทรนิกส์ให้แก่ร้านขายยา

แฮคเกอร์ขโมยข้อมูลในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม 2019 – พฤศจิกายน 2023 ไปได้ นับเป็นข้อมูลของประชากรออสเตรเลียจำนวน 12.9 ล้านคน

เมดิซิเคียวกล่าวว่าได้รับแจ้งเตือนถึงการละเมิดในเดือนเมษายน และประกาศเตือนแก่สาธารณชนในเดือนพฤษภาคม มีการรายการว่าข้อมูลบางส่วนนำไปขายบนเว็บไซต์ของแฮคเกอร์ของรัสเซีย

ผู้ประสานงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ มิเชล แมคกินส์ (Michelle McGuiness) เตือนว่าให้สรุปว่าคุณได้รับผลกระทบและอย่าเข้าไปหาข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นทางออนไลน์

“ไม่ควรมีใครเข้าไปในเว็บมืดและหาข้อมูลนี้ มันจะเพิ่มแรงจูงใจให้อาชญากรขายข้อมูล และเป็นความผิดทางอาญาโทษฐานการมีส่วนร่วมกับข้อมูลที่ถูกขโมยด้วย”

ข้อมูลที่ถูกขโมย ได้แก่ หมายเลขเมดิแคร์ (Medicare) ข้อมูลยา ขนาดยา และเหตุผลในการสั่งยา

ชื่อ วันเกิด ที่อยู่ ข้อมูลสำหรับติดต่อก็ถูกขโมยเช่นกัน คุณแมคกินส์ย้ำให้ระวังการติดต่อจากบุคคลหรือองค์กรในช่วงนี้

“หากคุณได้รับการติดต่อจากใครก็ตามในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ อีเมล หรือทางโทรศัพท์ ฉันแนะนำให้ปฏิเสธไป หากคุณคิดว่าไม่ใช่สแกมเมอร์ ให้หาข้อมูล เบอร์โทรศัพท์ อีเมลเพื่อยืนยันตัวตนคนนั้นหรือองค์กรนั้น”
Hacker stealing passwords and identity, computer crime
แฮคเกอร์ขโมยข้อมูลในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม 2019 – พฤศจิกายน 2023 ไปได้ Source: Moment RF / boonchai wedmakawand/Getty Images
อย่างไรก็ตาม เมดิซิเคียวถูกควบคุมการปฏิบัติงานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถระบุได้ว่ามีใครได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้

กรมตำรวจแห่งรัฐบาลสหพันธรัฐกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวน

คุณแมคกินส์กล่าวว่ามีหลายวิธีป้องกัน

“หนึ่ง ใช้การยืนยันตัวตนโดยใช้หลายปัจจัย (multi factor authentication) สอง อัปเดตซอฟต์แวร์ของคุณทุกครั้งที่มีการปล่อยตัวอัปเดตของซอฟต์แวร์ใหม่ ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และสาม อัปเดตพาสเวิร์ดและอย่าใช้ซ้ำกันหลายบัญชี”

นายกรัฐมนตรีอัลบานีซีให้คำมั่นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางไซเบอร์
เราต้องระมัดระวังเสมอ ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่กระทบกับทุกคน ทุกบริษัท และที่สำคัญที่สุดลูกค้าของพวกเขา และเราทั้งประเทศด้วย
"นั่นเป็นเหตุผลที่เราเพิ่มงบประมาณให้ ออสเตรเลียน ไซนอลส์ ไดเรคทอเรท (Australian Signals Directorate) นั่นเป็นเหตุผลที่เรามีหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ทำงานกับธุรกิจต่างๆ ในเรื่องนี้”

หาข้อมูลวิธีปกป้องข้อมูลทางออนไลน์ของคุณได้ที่ homeaffairs.gov.au และ cyber.gov.au


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand