เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพหลายพันคนถูกพักงานเพราะข้อบังคับฉีดวัคซีน

Health workers look on as NSW Premier Gladys Berejiklian addresses media during a press conference outside the Covid Vaccination hub at Macquarie Fields, south west of Sydney, Friday, September 24, 2021. (AAP Image/Dan Himbrechts) NO ARCHIVING

NSW Başbakanı Berejiklian ve sağlık görevlileri. Source: AAP

ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เจ้าหน้าที่ด้านบริการดูแลสุขภาพหลายพันคนเตรียมต้องถูกพักงานและลางานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ขณะข้อบังคับของรัฐให้เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพต้องฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ผลกระทบในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร และในรัฐอื่นๆ นั้นมีนโยบายเช่นเดียวกันหรือไม่


ฟังรายงาน
LISTEN TO
VACCINE HEALTHWORKERS image

เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพหลายพันคนถูกพักงานเพราะข้อบังคับฉีดวัคซีน

SBS Thai

30/09/202107:06
เป็นเวลากว่า 200 วันแล้วตั้งแต่โครงการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้ประชาชนในออสเตรเลียเริ่มขึ้นในวันที่ 22 กุมภาพันธ์

แต่ตอนนี้หมดเวลาสำหรับเจ้าหน้าที่ให้บริการดูแลสุขภาพกว่า 140,000 คนในนิวเซาท์เวลส์ ที่จะไปรับการฉีดวัคซีน

ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนเป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส ไม่เช่นนั้นจะต้องลางานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

ตามข้อมูลของสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ร้อยละ 94 ของแรงงานในภาคอุตสาหกรรมบริการดูแลสุขภาพในนิวเซาท์เวลส์ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส และร้อยละ 86 ได้รับวัคซีนแล้วสองโดส

ในพื้นที่เขตมหานครซิดนีย์และปริมณฑล เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพร้อยละ 94 ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส แต่ร้อยละ 90 ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว

ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคและพื้นที่ชนบทของนิวเซาท์เวลส์ เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพร้อยละ 92 ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส ขณะที่ร้อยละ 84 ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว

ในบรรดาเจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาลร้อยละ 95 ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดสและร้อยละ 87 ได้รับครบสองโดสแล้ว

นายแบร็ด ฮาซซาร์ด รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ คาดว่าจำนวนการฉีดวัคซีนทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นภายในกำหนดเส้นตาย

“ณ วันที่ 30 กันยายน เราคาดว่าเจ้าหน้าที่ร้อยละ 97.5 จะปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวเพื่อปกป้องผู้ป่วยและเพื่อนร่วมงานให้ปลอดภัย” นายฮาซซาร์ด กล่าว

ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 2.5 รวมไปถึง เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการยกเว้นอย่างแท้จริงให้ไม่ต้องฉีดวัคซีน แต่รัฐมนตรีสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า ผู้ที่ไม่มีข้อแก้ตัวที่สมเหตุสมผลจะถูกพักงาน

“แน่นอนว่า สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์จะดูว่ามีโอกาสอื่น ๆ สำหรับพวกเขาหรือไม่ แต่อย่างที่ผมกล่าวเมื่อวานนี้และได้พูดไปหลายครั้งแล้วว่า จะไม่มีตำแหน่งว่างสำหรับพวกเขาในสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ มันเข้าใจได้ไม่ยากว่า ถ้าคุณไม่ใส่ใจมากพอที่จะรับการฉีดวัคซีนและดูแลเพื่อนร่วมงานของคุณ หรือคุณไม่ใส่ใจมากพอที่จะดูแลผู้ป่วยของคุณ คุณก็ไม่ควรทำงานในระบบดูแลสุขภาพ” นายฮาซซาร์ด กล่าว
การสูญเสียเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะเกิดขึ้นในขณะที่โรงพยาบาลในนิวเซาท์เวลส์ต้องเผชิญกับความกดดันที่เพิ่มมากขึ้น จากสิ่งที่เรียกกันว่า "คลื่นที่ถาโถมเมื่อออกจากล็อกดาวน์" ซึ่งคาดว่าจะเห็นจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อการล็อกดาวน์สิ้นสุดลง

นาย แบร็ตต์ โฮล์มส์ (Brett Holmes) เลขาธิการของสมาคมพยาบาลและผดุงครรภ์แห่งนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า

“ผมได้รับคำแนะนำจากสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ว่า โดยรวมแล้วจะมีผลกระทบค่อนข้างน้อย แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อใดที่เราสูญเสียพยาบาลที่ทำงานไป ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อเพื่อนร่วมงานของพวกเขา ที่ยังคงทำงานกันอยู่ เรายังคงสนับสนุนให้พยาบาลเหล่านั้นทบทวนการตัดสินใจของพวกเขา และไปรับการฉีดวัคซีน เราต้องการพวกเขาที่ข้างเตียงผู้ป่วย เราต้องการพวกเขาในกำลังแรงงาน” นายโฮล์มส์ เลขาธิการ สมาคมพยาบาลและผดุงครรภ์แห่งนิวเซาท์เวลส์ กล่าว
เวลาที่มีจำกัดก็กำลังใกล้เข้ามาแล้วเช่นกันสำหรับในรัฐและมณฑลอื่นๆ ควีนส์แลนด์นั้นกำหนดให้เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพต้องฉีดวัคซีนต้านโควิดภายในวันที่ 30 กันยายนเช่นกัน

นาง อีเวตต์ ดาธ (Yvette D'ath) รัฐมนตรีสาธารณสุขควีนส์แลนด์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพที่ลังเลใจจำเป็นต้องยอมรับข้อกำหนดเหล่านี้ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นบรรทัดฐานไปในไม่ช้า

“ความจริงก็คือ นี่เป็นทิศทางที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ไม่ว่าคุณจะทำงานในวิกตอเรีย นิวเซาท์เวลส์ หรือรัฐอื่นๆ ก็กำลังทำเช่นเดียวกันนี้ ดังนั้นหากคุณต้องการทำงานในภาคการดูแลสุขภาพ คุณก็จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีน” นางดาธ รัฐมนตรีสาธารณสุขควีนส์แลนด์ กล่าว

รัฐวิกตอเรียได้กำหนดให้วันที่ 7 ตุลาคม เป็นเส้นตายสำหรับเจ้าหน้าที่ด้านการดูแลสุขภาพทุกคน ที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19

รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียใช้แนวทางการแบ่งเป็นระยะๆ โดยสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อเชื้อโควิดอันดับหนึ่ง เช่น หอผู้ป่วยโควิด จะถูกปิดไม่ให้เข้าพื้นที่ได้สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้รับวัคซีนตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ในขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสก่อนจึงจะสามารถเข้าไปยังสถานบริการสุขภาพทั้งหมดได้ภายในเดือนธันวาคม


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand