ออสฯ จะเลิกจ่ายเงินช่วยธุรกิจช่วงโควิด หากฉีดวัคซีนปชช.ครบโดส 80%

รมต.คลังรัฐบาลออสฯ ลั่นเตรียมดึงปลั๊กโครงการเงินสนับสนุนภาคธุรกิจช่วงโควิด เมื่อยอด ปชช.ฉีดวัคซีนครบโดสถึงเป้า 80% เล็ง 3 รัฐและมณฑล NSW-VIC-ACT

Treasurer Josh Frydenberg addresses the media during a press conference.

Treasurer Josh Frydenberg addresses the media during a press conference. Source: AAP

ประเด็นสำคัญ

  • รัฐมนตรีคลังของออสเตรเลียประกาศว่า หากรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และมณฑลนครหลวงออสเตรเลีย มีประชาชนได้รับวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว 80% จะยกเลิกโครงการเงินสนับสนุนสำหรับภาคธุรกิจช่วงโควิดทั้งหมด โดยจะเริ่มทยอยปรับลด ตั้งแต่มีประชาชนฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 70%
  • รัฐมนตรีคลัง NSW-VIC ประสานเสียง มีมาตรการช่วยเหลือธุรกิจภายในรัฐเอง แม้ยอดฉีดวัคซีนบรรลุเป้าพอที่รัฐบาลจะสิ้นสุดโครงการ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด
  • โฆษกเศรษฐกิจจากฝ่ายค้านชี้ รัฐบาลตัดสินใจโดยพละการ ไม่คิดถึงผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ยอมรับว่าอย่างไรโครงการก็ต้องสิ้นสุดลง แต่ก็ควรมีมาตรการสนับสนุนธุรกิจบางประเภทโดยเฉพาะ

30 ก.ย.รัฐบาลสหพันธรัฐจะยกเลิกมาตรการสนับสนุนทางการเงินสำหรับภาคธุรกิจ ใน 3 รัฐและมณฑลของออสเตรเลีย ซึ่งยังคงอยู่ในมาตรการล็อกดาวน์ในตอนนี้ ได้แก่ รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และมณฑลนครหลวงออสเตรเลีย เมื่อประชาชนในรัฐและมณฑลเหล่านั้น ได้รับวัคซีนครบโดสเป็นจำนวนร้อยละ 80

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้น หลังมีการประกาศเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) ว่าเครือจักรภพจะหยุดจ่ายเงินในโครงการเงินช่วยเหลือภัยพิบัติโควิด-19 สำหรับประชาชนที่สูญเสียชั่วโมงงานในมาตรการล็อกดาวน์ (COVID-19 Disaster Payment)
นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย กล่าวว่า การยกเลิกมาตรการเงินช่วยเหลือสำหรับภาคธุรกิจนั้น ขึ้นอยู่กับทั้ง 3 รัฐและมณฑลว่า จะบรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบโดสได้ร้อยละ 80 ได้เมื่อใด

“เราไม่อาจกำจัดไวรัสให้หมดไปได้ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างปลอดภัยตามแนวทางโควิดเซฟ (COVID-safe)” นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าว

“ระบบเศรษฐกิจของเราฟื้นตัวอย่างแข็งแรงตั้งแต่ต้น เมื่อข้อจำกัดต่าง ๆ ได้ผ่อนคลายลง และเมื่อมาตรการล็อกดาวน์สิ้นสุดลง เราก็อยู่ในจุดที่ดีในการดำเนินการเช่นนั้น”

โครงการเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะเริ่มปรับลดอัตราจ่าย เมื่อรัฐและมณฑลใดก็ตาม มีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสร้อยละ 70 ก่อนที่จะสิ้นสุดลง เมื่อมีจำนวนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสถึงร้อยละ 80

รัฐบาลสหพันธรัฐคาดว่า จะมีประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และมณฑลนครหลวงออสเตรเลีย ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสร้อยละ 80 ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ และในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ สำหรับรัฐวิกตอเรีย และหากรัฐหรือมณฑลใดจำเป็นต้องประกาศมาตรการจำกัดการแพร่ระบาด หลังมีประชาชนฉีดวัคซีนครบโดสตามเป้าแล้ว นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าวว่า จะเป็นความรับผิดชอบของรัฐและมณฑลนั้น ๆ สำหรับการสนับสนุนทางการเงินให้กับภาคธุรกิจ

“นั่นจะขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐในการตัดสินใจว่า จะมีโครงการที่มุ่งสนับสนุนธุรกิจในเขตปกครองของตนเองเพิ่มเติม อันเนื่องจากข้อจำกัดด้านสาธารณสุขที่พวกเขาเลือกประกาศใช้หรือไม่” นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าว

นายโดมินิก เพอร์รอตเตด (Dominic Perrottet) รัฐมนตรีคลังของรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์จะยังคงให้การสนับสนุนกับภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่องหากจำเป็น

“การปรับลดโครงการดังกล่าว จะทำให้แน่ใจว่าเรายังคงสนับสนุนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เราเปลี่ยนผ่านจากการตอบสนองสู่การฟื้นฟู ด้วยการให้การสนับสนุนที่พวกเขาต้องการมากที่สุด ขณะที่เรากำลังมุ่งเน้นเพื่อเปิดเมืองอีกครั้ง” นายเพอร์รอตเตต กล่าว

ส่วนที่รัฐวิกตอเรีย นายทิม พาลาส (Tim Pallas) รัฐมนตรีคลังรัฐวิกตอเรีย กล่าวอีกว่า ธุรกิจต่าง ๆ ต้องการความช่วยเหลือตลอดการเปลี่ยนผ่านนี้

“ธุรกิจทุกรูปแบบได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นอย่างมาก และเราจะยังคงสนับสนุนพวกเขา ระหว่างที่เราก้าวสู่เป้าหมายการฉีดวัคซีนที่เราต้องการ เพื่อให้เราเปิดเมืองได้อีกครั้งอย่างยั่งยืน” นายพาลาส กล่าว

ในออสเตรเลีย (ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.2021) มีชาวออสเตรเลียอายุตั้งแต่ 16 ปีขั้นไป ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้วร้อยละ 53.42 และได้รับวัคซีนโควิดโดสแรกแล้วประมาณร้อยละ 77

นางเคที แกลลาเกอร์ (Katy Gallagher) โฆษกด้านการเงินจากพรรคแรงงาน กล่าวว่า แม้เงินสนับสนุนภาคธุรกิจจะต้องสิ้นสุดลงในจุดหนึ่ง แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องมีการสนับสนุนอย่างตรงจุดมากขึ้นสำหรับบางอุตสาหกรรม

“เรามีความเป็นห่วง เพราะรัฐบาลทำอะไรตามอำเภอใจ และตัดเงินสนับสนุนอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ” นางแกลลาเกอร์ กล่าวกับโทรทัศนสกายนิวส์ ในวันนี้ (30 ก.ย.)

“แม้ว่าเราจะเลยเป้าหมาย (มีประชาชนฉีดวัคซีนครบโดส) เลย 80% ไปแล้ว มันจะยังมีการล็อกดาวน์อีก และธุรกิจบางแห่งก็ยังกลับมาเปิดไม่ได้เต็ม 100% ไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง”

ทั้งนี้ โครงการสนับสนุนภาคธุรกิจในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อัดฉีดงบประมาณมูลค่า $13,000 ล้านดอลลาร์เข้าสู่บรรดาธุรกิจที่กำลังดิ้นรนจากมาตรการล็อกดาวน์ โดยคาดว่า งบประมาณที่ได้รับการอัดฉีดเข้าสู่โครงการนี้จะเพิ่มขึ้นก่อนสิ้นสุดโครงการเป็นมูลค่าถึง $20,000 ล้านดอลลาร์


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

ชาวออสเตรเลียจะตรวจเชื้อโควิดเองที่บ้านได้ตั้งแต่ พ.ย.


Share
Published 30 September 2021 2:34pm
Updated 30 September 2021 2:48pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand