พลังงานออสฯ วิกฤตหนัก มีประกาศขาดแคลนก๊าซในบางรัฐแล้ว

ผู้ดำเนินการตลาดพลังงานออสฯ เตือนอาจมีความเสี่ยงในฤดูหนาวต่อแหล่งพลังงานก๊าซในบางรัฐ หากไม่มีการผลิตเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ใช้งานภายในประเทศ

A gas burner

The risk of supply gaps increased if excess gas production from northern states was exported rather than being used for domestic demand. Source: AAP / Joel Carrett

ประเด็นสำคัญ
  • บางรัฐอาจประสบปัญหาขาดแคลนก๊าซในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ และอาจขาดแคลนอย่างต่อเนื่องภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี
  • กลุ่มผู้ดำเนินการตลาดพลังงานออสเตรเลีย (AEMO) นำส่งการประเมินที่มีความรุนแรงดังกล่าว ซึ่งกำลังเรียกร้องให้ลงทุนในแหล่งพลังงานก๊าซอย่างเร่งด่วน
  • สภาสภาพภูมิอากาศ (Climate Council) วิพากษ์วิจารณ์การให้ความสำคัญกับการจัดหาก๊าซมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาด้านพลังงานของออสเตรเลีย
รัฐต่าง ๆ ทางตอนใต้ของออสเตรเลียอาจประสบปัญหาขาดแคลนก๊าซในช่วงพีคของฤดูหนาวนี้ และจะขาดแคลนอย่างต่อเนื่องภายในเวลาไม่กี่ปี

กลุ่มผู้ดำเนินการตลาดพลังงานออสเตรเลีย (AEMO) ได้นำส่งการประเมินที่มีความรุนแรงในการเผยแพร่ข้อมูลล่าสุดในวันนี้ (16 มี.ค.) เพื่อเรียกร้องให้มีการลงทุนอย่างเร่งด่วนเพื่อให้มีแหล่งพลังงานก๊าซในระยะปานกลาง

รายงานด้านพลังงานก๊าซปี 2023 คาดว่าการผลิตก๊าซจะเพียงพอกับความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ตอนกลางและทางตะวันออกของออสเตรเลีย แต่ระบุว่ายังมีความเสี่ยงในแหล่งพลังงานก๊าซทางตอนใต้ของประเทศระหว่างที่การผลิตก๊าซนั้นลดลง โดยเฉพาะในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งคาดการณ์ว่าการผลิตก๊าซจะลดลงเกือบครึ่งหนึ่งภายในปี 2027
กลุ่มผู้ดำเนินการตลาดพลังงานระบุว่า ความเสี่ยงต่อแหล่งพลังงานก๊าซจะเพิ่มขึ้น หากการผลิตก๊าซจากรัฐต่าง ๆ ทางตอนเหนือของประเทศถูกส่งออกมากเกินไป แทนที่จะนำมาใช้สำหรับความต้องการภายในประเทศ

นับตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป หากไม่มีคำมั่นในการขยายแหล่งพลังงานก๊าซภายในประเทศ หรือมีก๊าซไฮโดรเจนและก๊าซชีวภาพเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนก๊าซธรรมชาติ แหล่งก๊าซที่ได้มีการทำสัญญาไว้เพื่อส่งออกโดยผู้ผลิตก๊าซในรัฐควีนส์แลนด์อาจต้องถูกนำมาใช้ เพื่อเติมเต็มความต้องการภายในประเทศ

รัฐมนตรีพลังงานของออสเตรเลียได้ขยายอำนาจของกลุ่มผู้ดำเนินการตลาดพลังงาน เพื่อตอบโต้กับปัญหาแหล่งก๊าซขาดแคลนในพื้นที่ทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศ โดยอำนาจใหม่นี้จะมีผลตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวของปีนี้ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อรักษาตลาดพลังงานก๊าซและไฟฟ้า และปกป้องผู้ใช้ก๊าซภายในประเทศ

กลไกรักษาพลังงานก๊าซภายในประเทศและข้อตกลงระหว่างรัฐบาลและผู้ผลิตก๊าซ จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ในการสำรองแหล่งพลังงานไว้สำหรับใช้ภายในประเทศ
แดเนียล เวสเทอร์แมน (Daniel Westerman) ประธานบริหารของ AEMO กล่าวว่า ข้อตกลงที่มีอยู่จะช่วยในการจัดการแหล่งพลังงาน แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีการผลิตเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันการขาดแคลนในช่วงพีคของฤดูหนาวและในระยะยาว

“สิ่งที่เราต้องการจริง ๆ ก็คือการลงทุนในการจัดหาก๊าซให้มากขึ้น ซึ่งอาจมาจากก๊าซธรรมชาติแบบดั้งเดิม หรือการนำเข้า (ก๊าซ) ไปยังรัฐต่าง ๆ ทางตอนใต้ หรือใช้ก๊าซหมุนเวียนเมื่อมีให้ใช้งาน อย่างเช่น ก๊าซชีวภาพหรือไฮโดรเจน” คุณเวสเทอร์แมน กล่าวกับวิทยุเอบีซี

คุณเวสเทอร์แมนกล่าวอีกว่า แก๊สจะยังคงเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า และเพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำรองสำหรับแหล่งพลังงานหมุนเวียนเป็นระยะเมื่อโรงไฟฟ้าถ่านหินถูกปลดระวาง

อย่างไรก็ตาม สภาสภาพภูมิอากาศได้วิพากษ์วิจารณ์การให้ความสำคัญกับการจัดหาก๊าซให้มากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาด้านพลังงานของออสเตรเลีย

แอนดรูว์ สต๊อก (Andrew Stock) หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจากกลุ่มดังกล่าว กล่าวว่า การเปิดโครงการใหม่สำหรับจัดหาก๊าซนั้นไม่ใช่คำตอบ และออสเตรเลียควรเร่งลงทุนในแหล่งพลังงานหมุนเวียนและแหล่งกักเก็บพลังงานแทน

“ไม่มีการขาดแคลนไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ จุดกักเก็บก๊าซส่วนใหญ่ใกล้จะเต็มแล้ว ดังนั้นจึงต้องอาศัยความล้มเหลวอย่างมีนัยสำคัญของโรงไฟฟ้าถ่านหินในการทำให้เกิดการขาดแคลนก๊าซ” คุณสต๊อก กล่าว
มีการคาดการณ์ว่าโรงไฟฟ้าพลังก๊าซจะสนับสนุนการกำเนิดพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างน้อย 5 แห่งคาดว่าจะปิดลงในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 13 ของปริมาณไฟฟ้าในตลาด

ขณะที่ในระยะเวลา 12 เดือนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาในระบบ 2,000 เมกะวัตต์จากพลังงานลม และฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์กับแบตเตอร์รีกักเก็บ

คุณเวสเทอร์แมนกล่าวว่า สิ่งนี้จะช่วยลดช่องว่างการกำเนิดไฟฟ้าในช่วงฤดูหนาว ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินแคลไลด์ ซี (Callide Coal-fired power plant) ซึ่งมีปัญหารุมเร้า และจากการปลดระวางโรงไฟฟ้าลิดเดล (Liddell Power Station) ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ในเดือนเมษายนนี้

ยังมีความไม่แน่นอนว่าผู้บริโภคจะเปลี่ยนผ่านออกจากพลังงานก๊าซได้รวดเร็วเพียงใด ซึ่งได้มีการลดคาดการณ์การเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าลงมา เพื่อสะท้อนอัตราการเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าของบ้านเรือนและธุรกิจต่าง ๆ ที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

รายงานของ AEMO ได้แนะนำให้มีการจูงใจผ่านนโยบายที่แข็งแรง และการลงทุนในอุตสาหกรรม เพื่อให้ได้ระดับการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าตามที่รัฐบาลกำหนด


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 
 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

ออสเตรเลียเงินเฟ้อแตะ 7.8% สูงสุดในรอบกว่า 30 ปี


Share
Published 16 March 2023 1:23pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand