ชาวมุสลิมในออสเตรเลียร่วมกับนานาชาติคว่ำบาตรพิธีฮัจญ์

NEWS: มีเสียงเรียกร้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้ชาวมุสลิมทั่วโลกคว่ำบาตรพิธีแสวงบุญประจำปี ณ นครมักกะฮ์ เนื่องจากการมีส่วนร่วมของซาอุดิอาระเบียในสงครามกลางเมืองที่ประเทศเยเมน

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

You can read the full version of this story on SBS News .

ในเดือนหน้า คาดว่าชาวมุสลิมจำนวนกว่าสองล้านคนจากทั่วโลกจะเดินทางไปยังนครมักกะฮ์และนครมะดีนะฮ์ ในช่วงพิธีแสวงบุญฮัจญ์ประจำปี

แต่ก็มีชาวมุสลิมจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงผู้ซึ่งอยู่อาศัยในประเทศออสเตรเลีย ที่หันหลังให้กับสิ่งซึ่งเรียกว่าเป็นหนึ่งในเสาหลักของศาสนาอิสลาม และเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรพิธีดังกล่าว

นายฟาราซ ระห์มาน ผู้ผลิตภาพยนตร์จากนครซิดนีย์กล่าวว่า การไปพิธีฮัจญ์ในขณะนี้นั้นถือว่าเป็นความไม่รับผิดชอบในแง่ศีลธรรม

“การไปพิธีฮัจญ์ก็จะเป็นการให้การสนับสนุนทางการเงินกับรัฐบาลซาอุดิฯ ซึ่งขณะนี้กำลังก่อวินาศกรรมอย่างใหญ่หลวงในประเทศเยเมนต่อชาวมุสลิมด้วยกันเอง ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่พิธีฮัจญ์เป็นตัวแทน” นายระห์มานวัย 31 ปี กล่าวกับเอสบีเอสนิวส์
Faraaz Rahman
Sydney man Faraaz Rahman won't be going to the Hajj this year. Source: SBS News
หลายคนมองว่า สำหรับผู้ซึ่งไม่มีความพิการและมีเงินเพียงพอที่จะไปได้ การไปร่วมพิธีฮัจญ์อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิตถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำตามหลักศาสนา

ทว่าเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แกรนด์มัฟติแห่งนิกายซุนนีย์ผู้เป็นที่รู้จักกันดีจากประเทศลิเบีย ซาดิค อัล-การาวานี ได้เรียกร้องชาวมุสลิมทั่วโลกให้คว่ำบาตรการแสวงบุญพิธีฮัจญ์ เนื่องจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยซาอุดิอาระเบีย เขาเป็นหนึ่งในเหล่าผู้นำซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของชาวมุสลิมนิกายซุนนีย์ ที่ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตร โดยนอกจากเขาแล้วก็ยังมีคนอื่นๆ อีก

แฮชแทกบอยคอตฮัจญ์ #BoycottHajj ทางโซเชียลมีเดีย ได้ขึ้นเป็นที่นิยมติดเทรนด์ของทวิตเตอร์ในหลายประเทศที่มีชาวมุสลิมเป็นประชากรส่วนใหญ่

“ก่อนหน้านี้ก็อาจมีแค่กลุ่มชายขอบย่อยๆ ตรงนั้นทีตรงนี้ที โดยไม่มีกระแสผลักดัน... แต่ว่าในตอนนี้เหล่าผู้นำที่โด่งดังก็เรียกร้องในเรื่องดังกล่าว[การคว่ำบาตร]” ผมหวังว่ามันจะนำไปสู่การที่เจ้าหน้าที่ทางศาสนาต่างๆ นั้นเห็นพ้องและเรียกร้องในลักษณะเดียวกัน” นายระห์มานกล่าว
Image of a tweet from Twitter
(Source: Twitter) Source: Twitter
Image of a tweet from Twitter
(Source: Twitter) Source: Twitter
ชาวมุสลิมจากนครเมลเบิร์นผู้ไม่ประสงค์จะออกนามอีกคนหนึ่งกล่าวว่า แม้การเรียกร้องให้คว่ำบาตรพิธีฮัจญ์นั้นจะดูสุดโต่ง แต่มันก็เป็นเรื่องจำเป็น

“ผมเชื่อว่าไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออีกแล้วสำหรับชาวมุสลิมทั่วโลก นอกเสียจากจะคว่ำบาตรซาอุดิอาระเบีย เพื่อส่งสารว่าความบ้าคลั่ง[ในเยเมน]นั้นควรจะยุติลง” เขากล่าว

“หากมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่เศรษฐกิจของซาอุดิฯ และเงินนั้นถูกใช้เพื่อกระทำให้เกิดความทุกข์ยากอย่างต่อเนื่องกับประชาชนชาวเยเมนแล้วล่ะก็ ผู้ซึ่งมีพันธะผูกพันด้านศีลธรรม (และ)ศาสนา จำเป็นจะต้องยืนหยัดขึ้น” เขากล่าว

“ทั่วทั้งโลกมีความรับผิดชอบที่จะต้องยืนหยัดขึ้น โดยเฉพาะชาวมุสลิม” เขากล่าวเสริม

การตอบโต้จากทั่วโลก

ซาอุดิอาระเบียเป็นผู้นำกองกำลังกลุ่มประเทศพันธมิตรซึ่งเข้าร่วมกับสงครามกลางเมืองในประเทศเยเมน โดยสหประชาชาติได้อธิบายถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมในเยเมนว่าเลวร้ายที่สุดในโลก

ห้ากอ้างอิงจากสหประชาชาติ มีชาวเยเมนจำนวน 3.2 ล้านคน รวมถึงเด็กๆ ด้วยจำนวนสองล้านคน ที่ต้องการการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วนเนื่องจากมีภาวะขาดอาหารเฉียบพลันจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว
TOPSHOT - Muslim worshippers perform the evening (Isha) prayers at the Kaaba, Islam's holiest shrine, at the Grand Mosque in Saudi Arabia's holy city of Mecca on August 25, 2017, a week prior to the start of the annual Hajj pilgrimage in the holy city
ชาวมุสลิมผู้มาสักการะที่มัสยิด Grand Mosque ในนครมักกะฮ์อันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อปี ค.ศ. 2017 (Image source: AFP) Source: BANDAR ALDANDANI/AFP/Getty Images
อานิ ซอนเนอเวลด์ เป็นประธานขององค์กรชาวมุสลิมเพื่อค่านิยมหัวก้าวหน้า (Muslims for Progressive Values)ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาโดยมีสมาชิกประมาณ 10,000 คน เธอกล่าวว่าทางองค์กรนั้นสนับสนุนให้ชาวมุสลิมร่วมคว่ำบาตร

“สำหรับชาวมุสลิมนั้น การไปร่วมพิธีฮัจญ์ เป็นการชำระล้างจิตใจและเชื่อมโยงสู่พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง (แต่)หากทำเช่นนั้นพวกเขาก็จะทำการสนับสนุนรัฐบาลซึ่งทำแต่การกดขี่และก่อให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพงที่เยเมน มันยากมากที่จะทำใจได้” เธอกล่าว

มุมมองที่แตกต่าง

รองประธานสภาอิสลามแห่งรัฐวิกตอเรีย (The Islamic Council of Victoria) นายอเดล ซาลมาน กล่าวว่าเขาเข้าใจว่าทำไมชาวมุสลิมจำนวนมากจึงเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตร แต่โดยส่วนตัวแล้วเขาไม่สนับสนุนในเรื่องนี้

“มันสามารถเข้าใจได้ไม่ยากว่าผู้คนนั้นมีความรู้สึกที่รุนแรง และก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าผู้คนต้องการให้ซาอุดิอาระเบียมีความรับผิดชอบต่อความทุกข์ยากและอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศนั้น[เยเมน]” เขากล่าว

“การทำพิธีฮัจญ์ ก็ชัดเจนว่าคุณจำเป็นจะต้องไปเยือนซาอุดิอาระเบีย (เพื่อที่)จะไปยังสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็ชัดเจนว่านั่นหมายความว่าคุณจะไปใช้จ่ายเงินในซาอุดิอาระเบีย”

“แต่ชาวมุสลิมเกือบทั้งหมดก็มองว่ามันเป็นการทำตามหน้าที่ทางศาสนาให้ครบถ้วน และพวกเขาก็สามารถแยกแยะประเด็นต่างๆ ออกจากเรื่องการเมืองของรัฐบาลซาอุดิฯ ได้”
Image of a tweet from Twitter
(Source: Twitter) Source: Twitter
บริษัททัวร์ไปพิธีฮัจญ์สองรายในประเทศออสเตรเลียได้รับการติดต่อโดยเอสบีเอส แต่ไม่ต้องการเผยชื่อ กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้เห็นจำนวนการสำรองที่นั่งลดลงในปีนี้แต่อย่างใด

คุณระห์มานกล่าวว่า เขาไม่ได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะไม่ไปร่วมพิธีฮัจญ์อีกในอนาคต ถ้าหากสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปในเยเมนและซาอุดิอาระเบีย แต่มันไม่เหมาะสมที่จะไปในตอนนี้

“มีเรื่องของจริยธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องเกี่ยวกับเสาหลักต่างๆ ของศาสนาอิสลาม พิธีฮัจญ์นั้นมีขึ้นเพื่อบ่มเพาะภราดรภาพและการแบ่งปันความเป็นมนุษย์ให้กันและกัน” เขากล่าว

“ในตอนนี้ รัฐบาลซาอุดิฯ กำลังมีส่วนร่วมกับโศกนาตกรรมที่มนุษย์ก่อขึ้นในเยเมน เมื่อคุณพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ คุณก็จำเป็นต้องถามว่า แล้วพิธีฮัจญ์นั้นมีข้อผู้มัดทางจริยธรรมด้วยหรือไม่”

Share
Published 29 July 2019 5:11pm
By Jarni Blakkarly
Presented by Tanu Attajarusit
Source: SBS News


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand