วีซ่าออสเตรเลีย: มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในปี 2019?

NEWS: จำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นยังคงเป็นประเด็นที่จะมีการอภิปรายการในแวดวงการเมืองของออสเตรเลีย โดยนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ชี้ว่าอาจมีการลดจำนวนลง และเปิดโอกาสมากขึ้นให้ผู้อพยพย้ายถิ่นไปอาศัยอยู่ในส่วนภูมิภาคของออสเตรเลีย

Getty Images

Source: Getty Images

You can read the full article in English

ประเด็นเรื่องการรับผู้อพยพย้ายถิ่นฐานเป็นประเด็นหลักอย่างหนึ่งที่ถูกอภิปรายกันอย่างกว้างขวางในปี 2018 ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นการโต้เถียงกันถึงจำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นประจำปีของออสเตรเลีย และคำตอบว่าจะจัดการอย่างไรกับจำนวนประชากรที่พุ่งสูงขึ้นจนประชากรล้นเมืองในเมลเบิร์นและซิดนีย์

จึงเกิดข้อเสนอให้ส่งผู้อพยพย้ายถิ่นไปทำงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคและพื้นที่ชนบทของออสเตรเลียเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะให้สถานะผู้อยู่อาศัยถาวร ขณะที่พื้นที่ส่วนภูมิภาคหลายแห่งในออสเตรเลียกำลังต้องการผู้อพยพย้ายถิ่นมากขึ้นไปอยู่ที่นั่น

ผู้อพยพที่มีทักษะภาษาอังกฤษจำกัดยังมีทางเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร

รัฐบาลสหพันธรัฐยังได้ลงนามในข้อตกลงพิเศษสองฉบับ ที่เรียกว่า ข้อตกลงการอพยพย้ายถิ่นในพื้นที่ที่กำหนดไว้ (Designated Area Migration Agreements) กับนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี และเกรท เซาท์เทิร์น โคสต์ ของรัฐวิกตอเรีย โดยยื่นหนทางการที่จะเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรให้สำหรับผู้อพยพย้ายถิ่นกึ่งมีทักษะการทำงาน ที่มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษจำกัด

นายเดวิด โคลแมน รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลีย กล่าวว่า อาจมีการลงนามในข้อตกลงลักษณะเดียวกันกับพื้นที่อื่นๆ มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในพื้นที่ต่างๆ เหล่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เขากล่าวว่า เป็นวาระสำคัญอันดับแรกๆ ของเขาหลังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีเมื่อปีที่แล้ว

รัฐบาลกำลังพยายามปรับปรุงโครงการรับผู้อพยพย้ายถิ่นของเรา ให้สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ต่างๆ เฉพาะแห่ง นายโคลแมน กล่าว พร้อมเสริมว่า “เรากำลังพิจารณาดูอย่างละเอียดถึงวิธีที่จะอุดช่องว่างการขาดแคลนคนทำงานในพื้นที่ส่วนภูมิภาคต่างๆ”

ข้อตกลงการอพยพย้ายถิ่นในพื้นที่ที่กำหนดไว้ (Designated Area Migration Agreements) จะมีข้อกำหนดที่น้อยลงในเรื่องทักษะการทำงาน ภาษาอังกฤษ และรายได้ และอนุญาตให้ผู้อพยพย้ายถิ่นกึ่งมีทักษะการทำงาน สามารถขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรของออสเตรเลียได้ หลังมีเสียงเรียกร้องอย่างหนักขอให้มีวีซ่าแยกต่างหากสำหรับลูกจ้างด้านการเกษตร เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานลูกจ้างทำงานในฟาร์ม

จะมีวีซ่าใหม่สำหรับพ่อแม่

จะมีวีซ่าสปอนเซอร์พ่อแม่เพื่อมาอยู่ในออสเตรเลียเป็นการชั่วคราว โดยวีซ่านี้จะอนุญาตให้พ่อแม่ของผู้อพยพย้ายถิ่นมาอาศัยอยู่ในออสเตรเลียได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี ซึ่งวีซ่านี้จะเริ่มมีออกมาในช่วงต้นปี 2019 นี้ วีซ่าดังกล่าวที่รัฐบาลได้ให้สัญญาไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2016 ในการเลือกตั้งสหพันธรัฐครั้งที่แล้ว แต่วีซ่าตัวนี้ก็ล่าช้าออกไป เนื่องจากร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่สามารถผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาได้ จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
parent visa waiting lists
SBS Source: SBS
ภายใต้วีซ่าใหม่นี้ พ่อแม่ของผู้อพยพย้ายถิ่นจะสามารถเลือกได้ระหว่างวีซ่า 3 ปีค่าวีซ่า 5,000 ดอลลาร์ หรือวีซ่า 5 ปี ค่าวีซ่า 10,000 ดอลลาร์ และจะสามารถขอต่อวีซ่าได้อีกหนึ่งครั้ง โดยมีการจำกัดจำนวนการออกวีซ่าประเภทนี้ให้อยู่ที่ไม่เกิน 15,000 วีซ่าต่อปี

บุตรที่สปอนเซอร์พ่อแม่จะต้องพยายามทำให้แน่ใจว่าพ่อแม่ของตนมีประกันสุขภาพ และจะต้องไม่ก่อให้เกิดหนี้สินจากการใช้บริการด้านสุขภาพของพ่อแม่ขณะอยู่ในออสเตรเลีย บุตรที่สปอนเซอร์พ่อแม่มาจะต้องเป็นผู้รับประกันทางการเงินของพ่อแม่ และถูกบังคับตามกฎหมายให้เป็นผู้ชำระหนี้สินคืนแก่ประชาชนผู้เสียภาษีหากเกิดเหตุที่พ่อแม่ต้องใช้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน

คู่ครองที่เป็นผู้อพยพย้ายถิ่น 1 คู่ สามารถสปอนเซอร์พ่อแม่มาอยู่ในออสเตรเลียด้วยวีซ่านี้ เพียงพ่อแม่  2 คนเท่านั้น

กรอบปฏิบัติใหม่สำหรับการสปอนเซอร์วีซ่าคู่ครองและครอบครัว

รัฐบาลสหพันธรัฐอนุมัติการแก้ไขกฎหมายด้านการอพยพย้ายถิ่น (ความรุนแรงในครอบครัวและมาตรการอื่นๆ) ในปี 2016 พร้อมการแปรญัตติของรัฐบาล ซึ่งต่อมาได้ผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรในวันเดียวกันคือในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2018 ช่วยปูทางไปสู่กรอบปฏิบัติใหม่เกี่ยวกับการสปอนเซอร์วีซ่าคู่ครอง

ภายใต้กรอบปฏิบัติใหม่นี้ กระบวนการสมัครจะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือขั้นตอนแรกเป็นการประเมินผู้เป็นสปอนเซอร์ และเมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว จึงจะสามารถยื่นขอวีซ่าคู่ครองได้

กระบวนการดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กและคู่ครองที่เป็นคู่แต่งงาน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของสปอนเซอร์ที่ใช้ความรุนแรงในครอบครัว
Partner visa
Partner visas take longer to process. (Pixabay) Source: Pixabay
นางแมกกี แทฟฟี หัวหน้าทนายความของ เอเอชดับเบิลยูซี อิมมิเกรชัน ลอว์ กล่าวว่า กระบวนการ 2 ขั้นตอนนี้จะทำให้การสมัครวีซ่าคู่ครองใช้เวลานานขึ้นกว่าที่ผู้สมัครจะได้รับวีซ่า

“ขณะที่พระราชบัญญัติใหม่ระบุว่าการสมัครขอวีซ่าคู่ครองไม่สามารถทำได้ ก่อนการขอเป็นสปอนเซอร์วีซ่าคู่ครองจะได้รับการอนุมัติ แต่เราต้องรอดูกันต่อไปว่า กฎหมายใหม่นี้จะอนุญาตให้ยื่นสมัครขอวีซ่าคู่ครองพร้อมกับการสมัครขอเป็นสปอนเซอร์ได้หรือไม่” นางแทฟฟี บอกกับ เอสบีเอส ปัญจาบี

หากไม่ได้ เราคาดว่าจะต้องใช้เวลารอคอยราว 12 สัปดาห์กว่าที่การขอเป็นสปอนเซอร์วีซ่าคู่ครองจะได้รับการอนุมัติ ก่อนที่จะสมัครขอวีซ่าคู่ครองได้

นางแทฟฟี กล่าวว่า ภายใต้กฎหมายใหม่นี้ นอกจากจะมีการตรวจสอบผู้เป็นสปอนเซอร์วีซ่าคู่ครองเพิ่มเข้ามาแล้ว ยังหมายความว่าจะมีการแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวกันระหว่างภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขอวีซ่าครอบครัวด้วย

วีซ่าธุรกิจที่ไม่ต้องแสดงหลักฐานการลงทุน

วีซ่าพิเศษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย โดยวีซ่านี้เริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่คาดว่าจะเดินหน้าเต็มกำลังในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สมัครขอวีซ่านี้กันมากขึ้น

วีซ่าดังกล่าว ที่เปิดตัวออกมาในเดือนมีนาคมปีที่แล้วก่อนการเลือกตั้งรัฐเซาท์ออสเตรเลียนั้น จะเป็นวีซ่าที่ผู้สมัครไม่ต้องแสดงหลักฐานการลงทุน ดังเช่นที่ต้องทำสำหรับการขอวีซ่าธุรกิจและนวัตกรรมส่วนใหญ่

วีซ่า ซับคลาส 408 (Temporary Activity) จะอนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าประเภทนี้สามารถอยู่อาศัยในออสเตรเลียเป็นเวลา 3 พร้อมกับครอบครัว

รัฐบาลของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย จะให้สิทธิพิเศษนี้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านกลาโหมและอวกาศ ด้านความมั่นคงไซเบอร์ ด้านดิจิตอล บลอกเชน (blockchain) ด้านอาหาร ไวน์ ด้านเทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีสุขภาพและการแพทย์ ด้านโรโบติกส์ ด้านสื่อมวลชน และด้านภาพยนตร์ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครที่มีแผนธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ก็สามารถสมัครขอวีซ่านี้ได้

โครงการวีซ่าพิเศษนี้จะดำเนินไปเป็นเวลา 3 ปี จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2021

ลดโควตาประจำปีการรับผู้อพยพมาเป็นประชากรถาวร

จำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นมาเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในออสเตรเลียถูกลดลงให้เหลือไม่เกิน 190,000 คนต่อปี  ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันนี้มานับตั้งแต่ปี 2011 อย่างไรก็ตาม จำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นที่เกิดขึ้นจริงในปีที่แล้วลดลง เหลือราว 162,000 คนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 โดยมาจากจำนวนวีซ่าครอบครัวและวีซ่าผู้มีทักษะการทำงานที่ลดลง
Small towns in regional Australia can be remote but they are also welcoming
รัฐบาลออสเตรเลียย้ำจะลดจำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นประจำปี และจะส่งเสริมให้ผู้อพยพไปอยู้ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคมากขึ้น (Getty images) Source: Getty Images
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ย้ำอีกครั้งว่าเขาสนับสนุนการจำกัดจำนวนการรับผู้อพยพประจำปีให้เหลือไม่เกิน 160,000 หมื่นคนต่อปี สำหรับการเลือกตั้งสหพันธรัฐที่มีกำหนดจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีนี้นั้น ทำให้น่าจับตาดูว่ารัฐบาลจะมีนโยบายเรื่องนี้ไปในทิศทางดังกล่าวหรือไม่

นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่าเขาต้องการให้รัฐและมณฑลต่างๆ ของออสเตรเลียได้มีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจเกี่ยวกับจำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นที่แต่ละรัฐและมณฑลต้องการในพื้นที่ที่ขาดแคลนแรงงาน

นางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขอให้รัฐบาลสหพันธรัฐลดการรับผู้อพยพย้ายถิ่นของรัฐนิวเซาท์เวลส์ให้เหลือครึ่งหนึ่ง ขณะที่โควตากับการรับผู้อพยพย้ายถิ่นที่มณฑล เอซีที เป็นสปอนเซอร์ให้ผู้สมัครวีซ่า 190 ให้เพิ่มขึ้นจากเดิม 800 คนเป็น 1,400 คน

การให้สัญชาติออสเตรเลีย

รัฐบาลสหพันธรัฐพยายามผ่านร่างแก้ไขกฎหมายสัญชาติออสเตรเลียให้ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ซึ่งจะทำให้ผู้เป็นผู้อยู่อาศัยถาวรของออสเตรเลียต้องรอคอย 4 ปี และจะต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษ จึงจะสมัครขอสัญชาติออสเตรเลียได้ การเปลี่ยนแปลงที่ว่าซึ่งถูกประกาศออกมาในเดือนเมษายน 2018 นี้มีผลบังคับใช้ย้อนหลัง

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถูกขัดขวาง จากพรรคแรงงาน พรรคกรีนส์ และวุฒิสมาชิกอิสระและที่สังกัดพรรคเล็กต่างๆ ซึ่งทำให้รัฐบาลประสบความยากลำบากในการผ่านร่างกฎหมายนี้วุฒิสภา เมื่อร่างกฎหมายนี้ถูกเสนอสู่วุฒิสภาครั้งแรก ก็ถูกตัดออกจากประกาศวาระการประชุมโดยพรรคกรีนส์เป็นผู้ดำเนินการ

กระทรวงการตรวจตนเข้าเมืองเพิกถอนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเริ่มกระบวนการพิจารณาผู้สมัครขอสัญชาติตามกฎหมายที่ใช้ปัจจุบัน และรัฐบาลก็กล่าวว่าจะพยายามผ่านข้อเสนอเปลี่ยนแปลงกฎหมายนี้ให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2018 แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวที่มีการแก้ไข ก็ไม่ได้รับการเสนอเข้าสู่รัฐสภา และในเดือนสิงหาคม 2018 รัฐบาลได้รวมร่างกฎหมายฉบับนี้ในรายการร่างกฎหมายที่ให้มีการอภิปรายกันในการประชุมรัฐสภาในฤดูใบไม้ผลิ แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้ก็ไม่เคยถูกเสนอเข้าสู่การอภิปรายในรัฐสภาอีก

หากรัฐบาลต้องการให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา รัฐบาลจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเล็กและวุฒิสมาชิกอิสระ ซึ่งวุฒิสมาชิกเหล่านี้บางคนได้แสดงความเห็นอย่างชัดเจน ว่าต่อต้านประเด็นสำรัญบางประเด็นของร่างกฎหมายฉบับนี้
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 7 January 2019 1:59pm
By Shamsher Kainth
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS Punjabi


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand