รัฐบาลออสฯ เพิ่มเพดานรับผู้อพยพสูงสุด 195,000 คน ทุ่มงบ 36 ล้านสะสางวีซ่าคั่งค้าง

เรื่องนโยบายการรับผู้ย้ายถิ่นฐานเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานจะเป็นวาระหลักของวันที่สองและวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับงานและทักษะ (Jobs and Skills Summit) หลังจากที่รัฐบาลประกาศว่าจะเพิ่มเพดานการรับผู้ย้ายถิ่นฐานเป็น 195,000 คนต่อปี

Prime Minister Anthony Albanese standing at the Jobs and Skills Summit.

นายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบานีซี ที่การประชุมสุดยอดที่อาคารรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์ราในวันศุกร์วันนี้ (2 ก.ย.) Source: AAP / Lucas Coch

ประเด็นสำคัญในบทความ
  • รัฐบาลออสเตรเลียจะเพิ่มจำนวนสูงสุดในการรับผู้ย้ายถิ่นฐานให้เป็น 195,000 คนต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดิม 35,000 คน
  • นาย แอนดรูว์ ไจล์ส รัฐมนตรีด้านการย้ายถิ่นฐาน กล่าวว่า รัฐบาลจะให้งบ36.1 ล้านดอลลาร์เพื่อสะสางวีซ่าที่คั่งค้างในระบบ
นางแคลร์ โอนีล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย กล่าวว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะเพิ่มจำนวนสูงสุดในการรับผู้ย้ายถิ่นฐานให้เป็น 195,000 คนต่อปี เพิ่มขึ้น 35,000 คนจากก่อนหน้านี้ที่จำกัดอยู่ไม่เกิน 160,000 คน

การประกาศของนางโอนีลตรงกับความเห็นของนายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบานีซี ที่กล่าวเมื่อเช้าวันศุกร์ว่า มี "ฉันทามติ" เกี่ยวกับความจำเป็นที่จะต้องมีการรับผู้ย้ายถิ่นฐานถาวรมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

"ฉันต้องการเน้นย้ำว่าหนึ่งในวาระสำคัญลำดับต้นๆ ของพรรคแรงงาน คือการเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นไปที่ผู้ย้ายถิ่นฐานระยะสั้น ไปยังการย้ายถิ่นฐานถาวร การได้เป็นพลเมือง และการร่วมกันสร้างชาติ" นางโอนีลกล่าวในวันที่สองของการประชุมสุดยอดเรื่องงานและทักษะ
Home Affairs Minister Clare O'Neil at a press conference.
นางแคลร์ โอนีล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย Source: AAP / MICK TSIKAS
"หมายความว่าอย่างไร? นั่นหมายถึงการมีพยาบาลเพิ่มอีกหลายพันคนที่เข้ามาตั้งรกรากในประเทศในปีนี้ การมีวิศวกรอีกหลายพันคน"

นาย แอนดรูว์ ไจล์ส รัฐมนตรีด้านการย้ายถิ่นฐาน กล่าวว่า รัฐบาลจะให้งบประมาณ 36.1 ล้านดอลลาร์เพื่อสะสางการพิจารณาวีซ่าที่คั่งค้างอยู่ในระบบ

“เราจะลงทุน 36.1 ล้านดอลลาร์สำหรับการดำเนินการพิจารณาวีซ่า เพื่อเพิ่มจำนวนพนักงานอีก 500 คนภายในช่วง 9 เดือนข้างหน้า” นายไจล์ส กล่าว

"นอกเหนือจากการสะสางวีซ่าที่คั่งค้างแล้ว นี่จะช่วยในการทำให้โครงการรับผู้ย้ายถิ่นฐานถาวรบรรลุความสำเร็จ"

นายอัลบานีซีบอกกับรายการ News Breakfast ของเอบีซี ว่า ภาคแรงงานของออสเตรเลียนั้นมีความ "เปราะบาง" เกินไป เนื่องจากพึ่งพาการรับผู้ย้ายถิ่นฐานชั่วคราว ซึ่งเขากล่าวว่าเรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19

“มีฉันทามติว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่ม (การรับผู้อพยพ) และยังมีความเห็นพ้องว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับระบบการรับผู้ย้ายถิ่นฐานของเรา ที่เราต้องก้าวไปสู่การรับผู้ย้ายถิ่นฐานถาวรมากขึ้น แทนการพึ่งพาแรงงานชั่วคราว” นายอัลบานีซี กล่าว

“สิ่งเหล่านั้นทำให้เรามีความเปราะบางมากขึ้น ดังนั้นเมื่อพรมแดนระหว่างประเทศปิด ทันใดนั้นก็เกิดการพึ่งพาแรงงานชั่วคราวมากเกินไป ซึ่งหมายความว่าเราจึงไม่สามารถเติมเต็มทักษะที่จำเป็นในประเทศนี้ได้”
บทบาทของการรับผู้ย้ายถิ่นและการฝึกอบรมทักษะที่ขาดแคลน และวิกฤตการขาดแคลนแรงงานจะเป็นวาระสำคัญในการอภิปรายกันในการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับงานและทักษะครั้งนี้

โดยผู้แทนฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกว่า 140 คนได้มาร่วมประชุมกันในวันที่สอง ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอดที่อาคารรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์ราในวันศุกร์วันนี้ (2 ก.ย.)

นายอัลบานีซีจะมีการประกาศอื่นๆ เพิ่มเติมในช่วงบ่ายวันศุกร์ หลังจากที่ประกาศไปในวันแรกของการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ว่าจะเพิ่มการให้ทุนเรียนในสถาบันเทฟ (TAFE) โดยปลอดค่าเล่าเรียน เพิ่มเติมอีก180,000 ทุนภายในปี 2023 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการด้านการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มผู้มีทักษะในด้านที่ขาดแคลน
นายอัลบานีซีกล่าวว่า ประเด็นหลักที่ผู้เข้าประชุมจะไปขบคิดต่อจากการประชุมสุดยอดในครั้งนี้จำเป็นเรื่องความมั่นคงของงาน

“มีคนมากขึ้นกว่าเดิมที่ทำงานที่ไม่มั่นคง ผู้คนกำลังทำงานสองงานเพียงเพื่อจะให้มีเงินพอใช้ ค่าจ้างตามไม่ทันค่าครองชีพ” นายอัลบานีซี กล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้เข้าร่วมการประชุม

"ผู้คนไม่มีความมั่นคงอย่างที่จำเป็นต้องมี เหมือนที่ได้รับจากงานประจำหรือการมีรายได้มั่นคง เพื่อชำระค่าผ่อนบ้านหรือวางแผนที่มั่นคงสำหรับครอบครัว”

"ผมต้องการให้ผู้คนมีความมั่นคง"

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หนึ่งในความสำเร็จของการเจรจาก่อนการประชุมสุดยอดและจากการประชุมเองนั้น คือการได้รับความเห็นพ้องเกี่ยวกับการลดการพึ่งพาการรับผู้ย้ายถิ่นชั่วคราว

“มีผู้คนที่นี่ถือวีซ่าชั่วคราวปีแล้วปีเล่า และต่อวีซ่าไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ให้ความแน่นอนแก่พวกเขา ที่จะสามารถซื้อบ้าน ส่งลูกๆ ไปโรงเรียน และมีความมั่นคงเหล่านั้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว

"เราต้องทำให้ดีกว่านี้"


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 


Share
Published 2 September 2022 12:51pm
By SBS/AAP
Presented by Parisuth Sodsai
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand