NSW ผ่านร่างกฎหมาย ‘ตายอย่างสงบ’ หลังการเรียกร้องนับสิบปี

รัฐนิวเซาท์เวลส์ เป็นรัฐสุดท้ายในออสเตรเลียที่ผ่านร่างกฎหมายอนุญาตให้ผู้มีความเจ็บป่วยระยะสุดท้ายเลือกจบชีวิตได้อย่างสงบ

Members of Parliament in the Legislative Council at the NSW Parliament House

Members of Parliament in the Legislative Council at the NSW Parliament House Source: AAP

หลังการรณรงค์มาเป็นเวลาหลายสิบปี รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายสามารถเลือกจบชีวิตตนเองได้โดยสมัครใจ ซึ่งหมายความว่า ผู้ป่วยระยะสุดท้ายในรัฐนิวเซาท์เวลส์จะสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือในการจบชีวิตตนเองอย่างสงบได้ภายในเวลา 18 เดือน

ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี (19 พ.ค.) ท่ามกลางเสียงปรบมืออันกึกก้อง หลังผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยการแปรญัตติและการอภิปรายมาราธอนเป็นเวลา 12 ชั่วโมง

ร่างกฎหมายดังกล่าวได้มีการเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปีที่ผ่านมา โดย อเล็กซ์ กรีนวิช (Alex Greenwich) รัฐมนตรีพรรคอิสระของซิดนีย์ โดยพรรคร่วมรัฐบาลและสมาชิกจากพรรคแรงงานได้อนุญาตให้ลงคะแนนเสียงในประเด็นดังกล่าว

“ผมต้องขอขอบคุณท่านมุขมนตรี และผู้นำของพรรคฝ่ายค้านที่อนุญาตให้มีการออกเสียงในเรื่องนี้ได้” นายกรีนวิช สมาชิกรัฐสภาจากพรรคอิสระ กล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดี

“สิ่งนั้นรวมผู้คนจากทั้งสองฝ่าย เพื่อพูดคุยในบทสนทนาที่หนักแน่นและยากลำบากร่วมกัน”

“วันนี้รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ผ่านเกณฑ์ความจริงใจและความเห็นอกเห็นใจ ความจริงใจที่ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จากไปอย่างสงบ และความเห็นอกเห็นใจที่ว่าประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีอาการป่วยในระยะสุดท้ายขั้นสูง มีทางเลือกให้กับช่วงสุดท้ายของชีวิตเช่นเดียวกับผู้คนในรัฐอื่นๆ”

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความเจ็บป่วยระยะสุดท้ายและมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน สามารถจบชีวิตตนเองต้วยความสมัครใจโดยได้รับความช่วยเหลือ บนพื้นฐานการอนุมัติจากแพทย์อิสระจำนวน 2 คน

เพนนี แฮคเก็ตต์ (Penny Hackett) ประธานองค์กรเพื่อการตายอย่างมีศักดิ์ศรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ (Dying with Dignity NSW) กล่าวว่า มันเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของผู้คนที่เรียกร้องมายาวนานนับสิบปี เพื่อหยุดยั้งไม่ให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องทนทุกข์ทรมานอย่างยาวนาน

“ในตอนนี้ เราจะเป็นรัฐสุดท้ายของประเทศที่บรรลุการปฏิรูปกฎหมายที่ควรทำมานานแล้ว” คุณแฮคเก็ตต์ กล่าว

“ร่างกฎหมายนี้ จะมอบความหวังและการบรรเทาทุกข์กับหลายคนที่ป่วยระยะสุดท้าย ที่เพียงแค่ต้องการการควบคุมบางอย่างกลับคืนมาในช่วงสุดท้ายของชีวิต”

“สิ่งที่ทุกคนต้องการก็คือ หากพวกเขารู้ว่าตนเองมีความเจ็บป่วยระยะสุดท้ายที่จะสร้างความทุกข์ทรมานอันยาวนานในช่วงสุดท้ายของชีวิต พวกเขาจะมีทางเลือกในการตายอย่างสงบ”

สตีฟ ออฟเนอร์ (Steve Offner) จาก โก เจนเทิล ออสเตรเลีย (Go Gentle Australia) กล่าวกับสำนักข่าวเอเอพีว่า “ที่นี่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เป็นเวลานานถึง 50 ปี ในการต่อสู้เพื่อให้กฎหมายนี้มีการเปลี่ยนแปลง”

“สำหรับหลายคนในชุมชน นี่คือความโล่งใจอย่างเหลือเชื่อ”

“การได้เห็นร่างกฎหมายนี้ผ่านในท้ายที่สุด มันคือช่วงเวลาของการเฉลิมฉลอง แต่มันก็เป็นช่วงเวลาหวานอมขมกลืนสำหรับใครหลายคน ที่กฎหมายนี้มาช้าเกินไปสำหรับพวกเขาเหล่านั้น” นายออฟเนอร์ กล่าว


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

อัตราว่างงานออสฯ ยังเหมือนเดิมที่ 3.9% ต่ำสุดในรอบเกือบ 50 ปี


Share
Published 19 May 2022 7:14pm
Updated 19 May 2022 7:18pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand