ผลโหวตเลือกนายกฯ 'ประยุทธ์' นั่งเก้าอี้สมัย 2

NEWS: ผลการโหวตเลือกนายกฯ มีมติเอกฉันท์ 500 เสียง เลือก พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเก้าอี้นายกฯ ต่อเป็นสมัยที่ 2

Prayuth Chan-o-cha waves to media before leaving government house in Bangkok, Thailand, Wednesday, June 5, 2019

Prayuth Chan-o-cha waves to media before leaving government house in Bangkok, Thailand, Wednesday, June 5, 2019 Source: AP

รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่

You can read the full article in English 

เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้รับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยผลคะแนนโหวตในการประชุมสภาเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับคะแนน 500 เสียง ชนะ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจวัย 40 ปี ผู้เสนอเข้าชิงตำแหน่งนายก ที่ได้รับคะแนนสนับสนุน 244 เสียง

ชัยชนะของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น ได้รับการรับรองโดยกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาสรรหา 250 คน ซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงความผันผวนของคะแนนในการเลือกตั้งทั่วไปของพรรคการเมืองรองที่มีความเกี่ยวโยงกับทหาร ซึ่งเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ที่จบลงด้วยการตั้งพรรคร่วมรัฐบาลที่มีทหารร่วมสังกัดพรรค
Parliamentary members and senators attend the parliament to vote for Thailand's new prime minister
Parliamentary members and senators attend the parliament to vote for Thailand's new prime minister Source: Press Association
การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นการเติมเต็มเส้นทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จากหัวหน้าคณะรัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจจากนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนเลือกคนล่าสุด

ถึงกระนั้น ประเทศไทยยังคงแบ่งเป็นฝักฝ่าย จาก 13 ปีที่มีการรัฐประหาร การประท้วงบนท้องถนน และรัฐบาลจากการเลือกโดยประชาชนที่อยู่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ลึงลงไปในรากของความขัดแย้ง คือการต่อสู้ระหว่างกลุ่มอนุรักษ์นิยม และฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้าที่ได้รับการสนับสนุนโดยชนชั้นล่างและชนชั้นกลาง เช่นเดียวกับวัยรุ่นหนุ่มสาวที่เหนื่อยหน่ายกับการกดขี่

นักวิจารณ์ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวแทนที่แสดงถึงชนชั้นนำที่ขาดวิสัยทัศน์และคับแคบในการบริหารประเทศ จากความล้มเหลวในสมัยรัฐบาลทหาร ที่ไม่สามารถชุบสภาพเศรษฐกิจขึ้นมาใหม่ รวมถึงความเหลื่อมล้ำ และช่อโหว่ความแตกแยกทางการเมืองที่ไม่สามารถเยียวยาได้

หลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในการประชุมสภา นายธนาธรกล่าวว่า จะ “ทำงานอย่างหนัก” เพื่อเป็นสร้างแนวหน้าของประชาธิปไตยแบบก้าวหน้าของประเทศ

“ผู้นำเผด็จการไม่สามารถต้านทานกระแสลมของการเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอด” นายธนาธรกล่าวกับผู้สื่อข่าว

ด้วยข้อติติงที่รุนแรงที่นายธนาธรมีต่อระบบทหารและการเมืองแบบอนุรักษ์นิยม เขาได้รับการมองในฐานะภัยในระยะยาวต่อระบอบนี้ แต่ทว่า เส้นทางของเขาถูกสกัดกั้นจากคดีที่อยู่ในชั้นศาล ซึ่งนั่นอาจทำให้เขาถูกห้ามไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือต้องถูกจำคุก เขาอาจไม่สามารถเข้ามาในรัฐสภาได้เนื่องจากคดีที่มัดตัว
Leader of the Future Forward Party Thanathorn Juangroongruangkit
Leader of the Future Forward Party Thanathorn Juangroongruangkit Source: AP

ปัญหารออยู่ข้างหน้า?

นักวิเคราะห์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ผู้นำรัฐบาลทหารที่ไม่เคยชินกับการโต้แย้งและการสร้างความปรองดอง อาจมีงานใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า

ก่อนที่จะเปิดสมัยประชุมสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่แสดงความเห็นแย้งต่อการรัฐประหารเมื่อปี 2014 ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อประท้วงการตัดสินใจของพรรคที่ร่วมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ในขณะเดียวกัน ฝ่ายนิติบัญญัติที่มาจากพรรคเพื่อไทย เครื่องจักรทางการเมืองที่ผูกติดกับอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ได้ใช้โอกาสในจังหวะที่เกิดขึ้นยากในการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะการประชุมสภาดำเนินต่อไป และถ่ายทอดทางโทรทัศน์

“พล.อ.ประยุทธ์มีความคิดที่ล้าหลัง ซึ่งเป็นอันตรายต่อประเทศ” นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทยกล่าว

ในขณะที่ผู้สนันสนุนบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ นั้นสร้างความทรงตัวให้กับตัวเลขของผู้ที่จะพาประเทศไทย เบนออกจากความขัดแย้งทางการเมืองอันยาวนาน

“ผมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์” นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์กล่าว พร้อมระบุว่า “นายธนาธรนั้นไม่มีประสบการณ์บริหารประเทศ”

การเลือกตั้งทั่วไป เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น ได้รับการมองว่า เป็นทางเลือกระหว่างประชาธิปไตยแบบชักนำโดยรัฐบาลทหารภายใต้เสื้อผ้าพลเรือน และพรรคการเมืองที่มีความเชื่อมโยงกับนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ทว่า มีแรงเคลื่อนสำคัญที่สามจากพรรคเพื่อไทย ที่นำโดยนายธนาธร นักธุรกิจพันล้านในกิจการชิ้นส่วนยานยนต์

พรรคของเขาได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งทั่วไปเป็นจำนวน 81 ที่นั่ง ส่งผลให้เป็นพรรคใหญ่อันดับสามของไทย ที่เริ่มต้นจากศูนย์สู่การได้รับคะแนนเสียงนับล้าน โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เขาได้แสดงตัวอย่างชัดเจนว่า เป็นตัวเลือกที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเพื่อเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นางแคเรน บรูคส์ ผู้เชี่ยวชาญเอเชียจากสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Council of Foreign Relations) กล่าวว่า การยื่นหยัดเพื่อจะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ แต่มันเป็นผลดีสำหรับนายธนาธรในอนาคต และอาจเพิ่มสิ่งที่ฝั่งรัฐบาลทหารและผู้สนับสนุนต้องเสียหากคิดจะล้มล้างเขา

Share
Published 6 June 2019 11:42am
Updated 6 June 2019 12:36pm
By AFP-SBS
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AFP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand