ไทยรับปากจะเห็นใจผู้ลี้ภัยมากขึ้นหลังกรณีราฮาฟ

NEWS: สถานการณ์ของวัยรุ่นสาวชาวซาอุฯ ที่ถูกกักตัวที่สนามบินไทย และโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านทวิตเตอร์ ก่อนจะถูกส่งตัวให้สหประชาชาติดูแลนั้น ได้ทำให้ทางการไทยมีแนวทางปฏิบัติใหม่

กรณีของสาววัยรุ่นซาอุฯ ราฮาฟ โมฮัดเหม็ด อัล คูนุน ก่อให้เกิดแนวปฏิบัติใหม่สำหรับประเทศไทย ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย กล่าว (AAP)

กรณีของสาววัยรุ่นซาอุฯ ราฮาฟ โมฮัดเหม็ด อัล คูนุน ก่อให้เกิดแนวปฏิบัติใหม่สำหรับประเทศไทย ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย กล่าว Source: AAP

You can read the full story in English

หัวหน้าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทย ให้คำมั่นจะไม่บีบบังคับให้ผู้ลี้ภัยเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด “อย่างไม่สมัครใจ” อีก หลังกรณีของสาววัยรุ่นชาวซาอุดีอาระเบียดังกล่าว ที่ร้องขอที่ลี้ภัยได้สร้างกระแสความสนใจไปทั่วโลก เกี่ยวกับการที่ประเทศไทยไม่ตระหนักถึงการปกป้องผู้ขอลี้ภัย

ประเทศไทยไม่ได้เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ และไทยถูกตำหนิมานานแล้วเรื่องการควบคุมตัวผู้ลี้ภัยไว้ในสถานกักกัน หรือส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับสู่การปกครองที่กดขี่ข่มเหงในประเทศบ้านเกิดของพวกเขา ซึ่งที่นั่นพวกเขาเผชิญกับการถูกจำคุก หรือสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านั้น

กรณีที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งไม่ได้เป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลก แต่เรื่องนี้ได้เปลี่ยนไปในช่วงต้นเดือนนี้ เมื่อราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัลคูนุน สาววัย 18 ปีชาวซาอุดีอาระเบีย ได้เดินทางมาถึงกรุงเทพมหานคร และหลีกเลี่ยงการถูกส่งตัวกลับประเทศด้วยการไม่ยอมออกจากโรงแรมที่สนามบิน แล้วโพสต์ลงทวิตเตอร์บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับเธอให้ชาวโลกรู้

จากนั้น เธอก็ถูกส่งตัวให้องค์กรด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติดูแลภายในเวลาไม่กี่วัน และได้รับอนุญาตให้ไปตั้งรกรากที่ประเทศแคนาดา ภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์เธอได้รับการต้อนรับจากรัฐมนตรีต่างประเทศของแคนาดา คือนางคริสเตีย ฟรีแลนด์ หลังลงจากเครื่องบินที่เมืองโทรอนโต เมื่อวันเสาร์
Rahaf Mohammed Alqunun
ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัลคูนุน ได้รับการต้อนรับจากรัฐมนตรีต่างประเทศของแคนาดา คือนางคริสเตีย ฟรีแลนด์ (ขวา) หลังลงจากเครื่องบินที่นครโทรอนโต (AAP) Source: AAP
น.ส.คูนุน กล่าวว่า เธอถูกกดขี่ข่มเหงขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความอนุรักษ์นิยมอย่างมาก และเธอยังปฏิเสธที่จะพบกับครอบครัวของเธอที่ตามมาหาเธอที่ประเทศไทย หลังจากเธอหลบหนีออกมาจากซาอุฯ

กระบวนการที่รวดเร็วดุจสายฟ้าสำหรับกรณีของ น.ส.คูนุน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับประเทศไทย และยังเป็นกรณีที่ได้รับการดูแลเกือบจะตั้งแต่ต้นจนจบโดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ซึ่งมีท่าทางผู้จาตรงไปตรงมาและรู้จักเข้าหาสื่อ ให้คำมั่นว่ามีการปฏิรูปเกี่ยวกับเรื่องนี้

“บรรทัดฐานสากล”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับการปฏิบัติของไทยต่อผู้ลี้ภัย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล บอกกับผู้ฟังที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ในกรุงเทพฯ ว่า เขาจะใช้แนวทางปฏิบัติใหม่ และภายใต้การดูแลของเขานั้น “จะไม่มีใครถูกเนรเทศกลับประเทศ หากบุคคลนั้นไม่ต้องการกลับไป” พร้อมกับเสริมว่า ในฐานะผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย “ต่อจากนี้ไปเราจะปฏิบัติตามบรรทัดฐานสากล”

แต่ท่าทีดังกล่าวยังคงถูกมองอย่างเคลือบแคลงใจ เนื่องจากเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายฮาคีม อัล อะไรบี นักฟุตบอลผู้ลี้ภัยชาวบาห์เรน ยังคงถูกทางการไทยควบคุมตัวอยู่จนถึงบัดนี้ แม้ว่าเขาจะได้รับอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยและอาศัยอยู่ในออสเตรเลียอย่างถาวร แต่เขาก็ถูกทางการไทยกักตัวไว้ที่สนามบินในกรุงเทพมหานคร ขณะเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศไทย
Hakeem al-Araibi
Source: Getty Images
นายอัล อะไรบี เป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ซึ่งเขาถูกทางการบาห์เรนตามตัว จากข้อหาที่เกี่ยวกับการทำลายทรัพย์สินของสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ระหว่างเหตุการณ์อาหรับ สปริง ที่เกิดขึ้นในบาห์เรน แต่กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนยืนยันว่า เขากำลังลงแข่งขันฟุตบอลอยู่ขณะเกิดเหตุ และข้อกล่าวหาที่ว่าเหล่านั้นเป็นเท็จ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า กรณีของนายอัล อะไรบีนั้นแตกต่างออกไป เนื่องจากมีหมายจับนายอัล อะไรบี ที่ประเทศบาห์เรน ซึ่งเขากล่าวว่า นายอัล อะไรบี ควรจะไปโต้แย้งข้อกล่าวหาในศาล

ออสเตรเลียได้เรียกร้องให้ทางการไทยปล่อยตัวนายอัล อะไรบี ให้กลับมายังออสเตรเลีย ซึ่งเขาได้อาศัยอยู่ในนครเมลเบิร์น และเล่นฟุตบอลกึ่งอาชีพให้กับทีมฟุตบอลท้องถิ่นทีมหนึ่ง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีของ น.ส.คูนุน ไม่ควรถูกใช้เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับกรณีอื่นๆ หากเกิดขึ้นในประเทศไทย และยังปฏิเสธว่าทางการไทยไม่ได้ยอมจำนนกับความกดดัน ที่เกิดจากการที่เรื่องของ น.ส.คูนุน ถูกเผยแพร่ไปตามอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็วทั่วโลก และ น.ส.คูนุน ก็ยังมีคนหลายหมื่นคนติดตามเธอทางทวิตเตอร์จากเหตุการณ์นี้อีกด้วย

“แต่ละกรณีจะถูกพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ระบุ
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 



Share
Published 18 January 2019 1:03pm
Updated 18 January 2019 3:40pm
Presented by Parisuth Sodsai
Source: AFP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand