จะปกป้องตัวเองได้แค่ไหนตามกฎหมายเมื่อมีผู้บุกรุกบ้าน

เรื่องราวของชายในนครเมลเบิร์นที่เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย หลังพยายามช่วยเหลือเพื่อนบ้านหลังใกล้เคียงจากเหตุบุกรุก เรื่องราวของเขาทำให้เกิดคำถามว่าจะป้องกันตัวอย่างไรให้อยู่ในกรอบกฎหมายเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามาในที่อยู่อาศัย

Russell Harrison

Russell Harrison was charged with murder after he intervened in a home invasion happening next door. Source: SBS

รัสเซล แฮร์ริสัน (Russell Harrison) รู้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เมื่อเขาและลูก ๆ ได้ยินเสียงร้องชวนขนลุกมาจากบ้านข้าง ๆ ในพื้นที่นอกตัวเมืองเมลเบิร์น ด้วยความกังวล เขามุ่งหน้าไปที่บ้านหลังนั้นทันทีเพื่อดูว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้าง
ผมมองผ่านประตูเข้าไป เปิดประตู และก็มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังกดตัวเพื่อนบ้านของผมอยู่กับกำแพงโดยที่มือของเขากำลังบีบคอเธออยู่ คุณแฮร์ริสัน กล่าวกับรายการอินไซท์
คุณแฮร์ริสันเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกกองกำลังพิเศษของสหรัฐ ฯ 5 ปีก่อนที่จะย้ายมายังออสเตรเลีย การฝึกของเขาได้เริ่มขึ้น ณ เวลานั้น เขาเข้าจับตัวผู้บุกรุกคนนั้นภายในบ้านทันที

"เราล้มลงตรงกำแพงในห้องนั่งเล่นซึ่งทำให้ปูนที่ฉาบไว้แตก จากนั้นเขาก็ขึ้นมาอยู่บนตัวผม และใช้มือบีบที่คอผม" คุณแฮร์ริสันเล่าเหตุการณ์

การกระทำของผู้บุกรุกปลุกการตอบสนองอัตโนมัติของคุณแฮร์ริสันขณะที่เขากำลังพยายามควบคุมสถานการณ์

"สิ่งแรกสุดที่ผมทำคือใช้นิ้วโป้งจิ้มเข้าไปที่ตาของเขา ผลก็คือเขาปล่อยมือซึ่งทำให้ผมได้เปรียบ" คุณแฮร์ริสันเล่ากับรายการอินไซท์
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของทุกคนตรงนั้น คุณแฮร์ริสันจับผู้บุกรุกล็อกคอจากด้านหลัง (หรือที่รู้จักในท่า sleeper hold) เพื่อพยายามที่จะปรามเขา แต่ชายคนนั้นได้หยุดหายใจ

“ผมเดาว่าเราดิ้นรนกันไปมาประมาณ 2-3 นาที จนกระทั่งเขายอมจำนนในท่าล็อกคอ และเมื่อถึงตอนนั้นผมก็ได้ยินเสียงตำรวจจากหน้าประตู” คุณแฮร์ริสันเล่า

คุณแฮร์ริสันจัดให้ผู้บุกรุกอยู่ในท่าพักฟื้นก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ฉุกเฉินจะเริ่มทำซีพีอาร์ (CPR) จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวคุณแฮร์ริสันออกไปนอกบ้าน พร้อมกับแจ้งว่า ผู้บุกรุกบ้านหลังดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า อดัม สลอมซเวสกี (Adam Slomczewski) ได้เสียชีวิตแล้ว

คุณพ่อลูก 3 วัย 49 ปีถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจในเวลาต่อมา ตอนแรกเขาคิดว่าน่าจะเป็นการลงบันทึกประจำวัน แต่ก็ต้องประหลาดใจกับสิ่งที่ตำรวจบอกกับเขา
ตอนพวกเขามาเก็บลายนิ้วมือผม และเมื่อลงบันทึกข้อหา พวกเขาระบุว่าเป็นข้อหาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และผมก็บอกว่า นั่นไม่ใช่การฆาตกรรม มันเป็นการป้องกันตัว คุณแฮร์ริสันเล่า
ต้องใช้เวลาถึง 7 เดือนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถอนคดี และอีก 1 ปีกว่าที่ชื่อของเขาจะพ้นข้อกล่าวหาโดยเจ้าหน้าที่ชันสูตร
เจ้าหน้าที่ชันสูตรระบุว่า เป็นเพราะยาที่เขาใช้ในตอนนั้นทำให้เกิดหัวใจวาย แต่ก็ประกอบกับการกดทับบริเวณคอระหว่างต่อสู้กับผม คุณแฮร์ริสันกล่าว
เอียน ดอบินสัน (Ian Dobinson) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ ได้ศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายการบุกรุกบ้านในออสเตรเลีย และพบว่ารัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียมีกฎหมายที่ชัดเจนและแข็งแรงที่สุดสำหรับเจ้าของบ้านซึ่งใช้กำลังกับผู้บุกรุก

“มีการอนุญาตสำหรับ ... การใช้กำลังที่ไม่สมส่วนและเกินสมควร” คุณดอบินสัน กล่าวกับรายการอินไซท์
สถานการณ์บุกรุกบ้านไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นไปด้วยเหตุผลเลย มันมีเรื่องของความกลัวสุดขีด อารมณ์ที่พุ่งพล่าน เราต้องพิจารณาทั้งหมดนี้ ดังนั้น ถ้ามีใครสักคนถูกฆ่าและถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ดูแล้วเกินสมควร ในสถานการณ์บุกรุกบ้าน พวกเขายังคงมีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัวอย่างเต็มที่
ส่วนกฎหมายในรัฐอื่น ๆ มีความคลุมเครือมากกว่า การวิจัยของคุณดอบินสันพบว่าไม่มีรัฐอื่นใดนอกจากเซาท์ออสเตรเลีย ที่มีการระบุเรื่อง ‘การบุกรุกบ้าน’ เอาไว้ในกฎหมายการป้องกันตัว

“ตัวอย่างเช่น ในรัฐควีนส์แลนด์ มีการพูดถึงการป้องกันที่อยู่อาศัย แต่ก็ไม่มีการพูดถึงการบุกรุกบ้าน” คุณดอบินสันกล่าว

แต่ก็ไม่ใช่ว่าเจ้าของบ้านทุกคนจะใช้กำลังเมื่อเผชิญหน้ากับผู้บุกรุก คุณเจมส์ ฟรันโกส (James Frangos) อยู่ที่บ้านกับครอบครัวและหลาน ๆ ในเมืองบัลลารัต (Ballarat) รัฐวิกตอเรีย ขณะที่ผู้บุกรุกพร้อมอาวุธ 4 คนบุกเข้ามาในบ้านเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.2010

“ผมอยู่ข้างบน และพอลงมาข้างล่าง ผมถูกกระแทกจากข้างหลังและได้ยินเสียงตะโกน ผมถูกกระแทกมาจากที่ไกล ๆ แล้วเมื่อผมลุกขึ้นมา ก็พบว่ามีคนอยู่ตรงนั้น ทุกคนใส่เสื้อผ้าเหมือนชุดทหาร ในผ้าโพกหน้าสีดำ และถือแท่งเหล็ก” คุณฟรันโกสเล่า

ณ จุดหนึ่งของเหตุการณ์ คุณฟรันโกสถูกชายคนหนึ่งในกลุ่มนำตัวขึ้นไปข้างบนบ้าน และเห็นว่ามีมีดวางอยู่บนโต๊ะ แต่ก็ตัดสินใจว่าจะไม่ใช้มัน

“ผมครุ่นคิดว่าจะใช้มัน จะคว้ามันขึ้นมาและก็ใช้มัน แต่ผมไม่สามารถทำให้ตัวเองทำได้” คุณฟรันโกเล่า
ผมเพียงรู้สึกว่า ถ้าทำอย่างนั้นก็จะมีเลือด และจะเกิดอะไรขึ้นอีกใครจะรู้ แล้วคุณก็ต้องลงไปข้างล่างเพื่อเจอหน้าคนในครอบครัว ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากการกระทำของผม
ต่อมา ผู้บุกรุก 3 คนถูกศาลตัดสินจำคุกในข้อหาบุกรุกบ้านของ คุณเจมส์ ฟรันโกส โดยโทษที่พวกเขาได้รับมีตั้งแต่ 3 ปี จนถึง 7 ปีกับอีก 6 เดือน


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 28 April 2022 5:23pm
Updated 28 April 2022 6:07pm
By Jodie Noyce
Presented by Tinrawat Banyat
Source: Insight


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand