Analysis

คุณคิดว่ากาแฟแก้วละ 5.50 ดอลลาร์แพงไปไหม? มีการคาดการณ์ว่าราคากาแฟอาจจะแพงขึ้นอีกเร็วๆนี้

ราคากาแฟของออสเตรเลียถือว่าถูก หากพิจารณาตามมาตรฐานสากล แต่สถานการณ์นี้อาจทำให้วัฒนธรรมร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกของเราตกอยู่ในความเสี่ยงได้

A barista working at a cafe wearing a flannel shirt

ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาราคากาแฟในออสเตรเลียสวนกระแสกับราคาสินค้าอุปโภคบริโภค Source: AAP / James Gourley

ประเด็นสำคัญ
  • แม้ออสเตรเลียจะเผชิญกับวิกฤติค่าครองชีพ แต่ราคากาแฟของออสเตรเลียต่อแก้วถือว่าค่อนข้างต่ำ
  • ในนครลอนดอนกาแฟแฟลตไวท์แก้วเล็กราคาประมาณ 6.96 ดอลลาร์หรือในสิงคโปร์แก้วละ 8.42 ดอลลาร์ และในนครเอเธนส์ 9.95 ดอลลาร์
  • หากเราไม่ให้คุณค่ากับกาแฟในออสเตรเลียอย่างเหมาะสม วัฒนธรรมร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติของออสเตรเลียอาจตกอยู่ในความเสี่ยง

แม้ออสเตรเลียจะอยู่ในช่วงวิกฤตค่าครองชีพที่ยืดเยื้อ แต่ดูเหมือนว่ายังมีความหรูหราอย่างหนึ่งที่ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ยังยอมจ่าย นั่นก็คือกาแฟที่พวกเขาดื่มในแต่ละวัน

ยอดขายกาแฟส่วนใหญ่ยังคงที่ แม้ว่าจะมีแรงกดดันทางการเงินที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ตาม

แม้ว่าพวกเราหลายคนจะรู้สึกอารมณ์เสียเมื่อราคากาแฟเริ่มแพงขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แต่ราคากาแฟธรรมดายังยืนราคาอยู่ที่ 4 - 5.50 ดอลลาร์

แต่ราคากาแฟอาจต้องเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า เพราะหากพิจารณาตามมาตรฐานสากลแล้วราคากาแฟของออสเตรเลียถือว่าราคาถูก

แต่ช่วงนี้ไม่มีใครอยากจ่ายเงินเพิ่มสำหรับข้าวของที่จำเป็น ซึ่งมันอาจทำให้ ร้านกาแฟอิสระของเราประสบปัญหา

แต่หากไม่ให้คุณค่ากับกาแฟอย่างเหมาะสม ออสเตรเลียอาจเสี่ยงที่จะสูญเสียวัฒนธรรมกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ที่วงการกาแฟออสเตรเลียได้สั่งสมประสบการณ์และทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างมาเพื่อยกระดับกาแฟเลิศรสที่เราชื่นชอบ

กาแฟในออสเตรเลียค่อนข้างถูกจริงหรือ

จากการสำรวจราคากาแฟตามเมืองใหญ่ๆ ในออสเตรเลียเมื่อเร็วๆ นี้พบว่ากาแฟแฟลตไวท์แก้วเล็กแบบสั่งกลับบ้านราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 4.78 ดอลลาร์

เมื่อเทียบกับในเมืองใหญ่ๆ ในต่างประเทศบางแห่ง คุณต้องจ่ายค่ากาแฟเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า แม้ว่าจะปรับราคาตามความเท่าเทียมกันของกำลังซื้อในท้องถิ่นแล้วก็ตาม

เช่นในนครลอนดอน กาแฟแฟลตไวท์แก้วเล็กแบบสั่งกลับบ้านราคาประมาณ 6.96 ดอลลาร์ ในสิงคโปร์ราคา 8.42 ดอลลาร์ ขณะที่นครเอเธนส์ราคากาแฟพุ่งไปถึงแก้วละ $9.95ดอลลาร์

 


ธุรกิจร้านกาแฟเริ่มมีอุปสรรคมากขึ้น


ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา ราคากาแฟตามไม่ทันกับต้นทุนการผลิต ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 หลังจากหักเงินเดือนพนักงาน ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค และค่าเช่าแล้ว ร้านกาแฟหลายแห่งได้รับผลกำไรประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์

แต่ข้อมูลล่าสุดจาก IBISWorld แสดงให้เห็นว่าแม้ว่ากำไรสุทธิของร้านกาแฟในออสเตรเลียฟื้นตัวจากปี 2520 ที่ร้อยละ 7.6 แต่ยังคงต่ำกว่าอัตรากำไรทางธุรกิจโดยเฉลี่ยของออสเตรเลียที่ร้อยละ 13.3 อยู่มาก

สำหรับเจ้าของร้านกาแฟอิสระมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 300,000 ดอลลาร์ ซึ่งภายหลังจากชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วจะมีกำไรสุทธิต่อปีเพียง 22,800 ดอลลาร์

 

กาแฟหนึ่งแก้วมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

เมื่อดูต้นทุนของปัจจัยการผลิตของกาแฟหนึ่งแก้ว เช่น นม ถั่ว ถ้วย และฝาปิด อาจดูว่ามีกำไร แต่หากพิจารณาปัจจัยทั้งหมดยังจะมีกำไรหรือไม่


A takeaway coffee cup showing the price inputs, with wages and operation costs making up over 65% of the cost of a coffee
Source: The Conversation

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ค่าเช่า ค่าไฟ และเงินเดือนพนักงาน ล้วนกลายเป็นปัจจัยหลักของรายจ่ายสำหรับเจ้าของร้านกาแฟ และความกดดันหลายประการเหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

1.ราคาเมล็ดกาแฟดิบ

ราคาเมล็ดกาแฟขึ้นอยู่กับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ราคาเฉลี่ยของกาแฟสด (ไม่คั่ว) สูงขึ้น

เมล็ดกาแฟคุณภาพสูงเช่นอาราบิก้าที่ใช้ในร้านกาแฟมีชื่อ เป็นเมล็ดกาแฟดิบที่มีราคาแพงกว่าพันธุ์อื่นๆ แม้จะราคาจะลดลงหลังช่วงโควิด แต่โดยรวมราคาก็ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ในปี 2018 เมล็ดกาแฟอาราบิกา ขายในราคา 2.93 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.49 ดอลลาร์ออสเตรเลีย) ต่อกิโลกรัม ซึ่งคาดว่าในปี 2025 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.38 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือ6.72 ดอลลาร์ออสเตรเลีย)

ส่วนเมล็ดกาแฟโรบัสต้ามีราคาถูกกว่าและเป็นเมล็ดกาแฟชนิดที่มักใช้ทำกาแฟสำเร็จรูป แต่ภัยแล้งที่รุนแรงในเวียดนามทำให้ราคากาแฟโรบัสต้าแพงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และสร้างแรงกดดันต่อต้นทุนกาแฟในวงกว้างมากขึ้น

2. ราคานม

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ราคานมสดเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 และยังไม่มีทีท่าลดลงคสิ่งนี้ทำให้เกิดแรงกดดันด้านต้นทุนอย่างต่อเนื่องในการทำเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมเช่น: คาปูชิโน่และแฟลตไวท์

3. ค่าจ้างและสาธารณูปโภค


ในปีที่ผ่านมา อัตราค่าจ้างของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ทางหนึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพนักงานร้านกาแฟ แต่สถานการณ์นี้ทำให้สำหรับผู้ประกอบการในภาคส่วนที่มีอัตรากำไรต่ำประสบความยากลำบากมากขึ้น

ส่วนราคาไฟฟ้ายังคงสูงขึ้นต่อเนื่องหลังจากภาวะอัตราเงินเฟ้อแต่มีการคาดการณ์ว่าค่าไฟอาจถูกลงในช่วงกลางปี

กาแฟชนิดพิเศษเทียบกับชนิดธรรมดา: เหตุใดความคาดหวังด้านราคาจึงสร้างความแตกต่างในอุตสาหกรรมนี้

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ราคากาแฟในออสเตรเลียต่ำคือความคาดหวังของผู้บริโภค

สำหรับหลายๆ คน กาแฟถือเป็นสิ่งพื้นฐานในชีวิตประจำวัน และเป็นสัญลักษณ์แห่งความรืนรมย์ของชีวิต กาแฟไม่เหมือนกับไวน์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ตรงที่มันไม่ถือว่าเป็นของฟุ่มเฟือยหรือเป็นสิ่งพิเศษ

ซี่งคนทั่วไปคาดหวังที่จะจ่ายแพงขึ้นเพียงเล็กน้อย หรือในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำก็ลดการบริโภคลง เราดูเหมือนจะยึดราคาที่เราคุ้นเคย

 
small-flat-white-prices-in-capital-cities-.png
Based on a survey of 5-10 inner city specialty cafes in each capital city, conducted 26 March 2024 Source: Supplied / The Conversation

ด้วยเหตุนี้เจ้าของร้านกาแฟจึงรู้สึกลำบากใจที่ต้องขึ้นราคา เพราะการที่พูดคุยกับลูกค้าเกือบทุกวัน พวกเขาตระหนักดีว่าอัตราเงินเฟ้อสามารถทำให้ผู้คนเดือดร้อนมากเพียงใด

แต่ในออสเตรเลีย บริษัทกาแฟจำนวนมากก็หลงใหลในการทำกาแฟมาตรฐานระดับโลกโดยใช้เพียง "กาแฟชนิดพิเศษ" เท่านั้น

ซึ่งเมล็ดกาแฟชนิดพิเศษได้รับการจัดอันดับอย่างต่ำที่ 80 คะแนน ซึ่งมีราคาสูงกว่าเกรดกาแฟทั่วไปมาก

แต่กระบวนการผลิตของกาแฟเหล่าดีส่งผลดีกับสำหรับเกษตรกรมากกว่า และส่วนใหญ่เป็นกระบวนการผลิตที่ส่งเสริมแนวทางปฏิบัติในการเติบโตที่ยั่งยืน

แม้ว่าอุตสาหกรรมกาแฟจะไม่เหมือนกับอุตสาหกรรมไวน์ แต่ก็มีความคล้ายคลึงกัน เมล็ดกาแฟคุณภาพสูงจากแหล่งเดียวมักได้มาจากฟาร์มแห่งเดียวและมีราคาที่สูงกว่ากาแฟเกรดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยที่เมล็ดกาแฟที่มีราคาถูกกว่ามักจะนำเมล็ดกาแฟต่างชนิดมาผสมกัน

การเปิดร้านกาแฟแบบพิเศษยังหมายถึงการคั่วเมล็ดกาแฟของคุณเอง ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในด้านความเชี่ยวชาญและอุปกรณ์

นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของการทำสิ่งที่ถูกต้องต่อผู้จัดจำหน่ายและลูกค้าของคุณ แต่ร้านกาแฟแบบพิเศษต้องเผชิญกับต้นทุนการดำเนินงานที่สูงกว่ามาก

และเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ใช้เมล็ดกาแฟไป ลูกค้ามักไม่ค่อยเต็มใจที่จะจ่ายราคาส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น

 

เมื่อเจ้าของร้านกาแฟขึ้นราคากาแฟ เรามักจะรีบกล่าวหาพวกเขาว่าเห็นแก่ตัวหรือแสวงหาผลประโยชน์ แต่พวกเขามักจะพยายามเอาตัวรอดเท่านั้น

แต่เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพของกาแฟและชื่อเสียงระดับโลกของออสเตรเลีย จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะต้องจ่ายแพงอีกเล็กน้อยสำหรับกาแฟแต่ละแก้ว

ถ้าเราเป็นเช่นนั้นเราควรจ่ายให้กับคนที่สร้างสิ่งที่สำคัญที่สุดของเรา นั่นก็คือ

“ความมีน้ำใจและความอยากรู้อยากเห็นว่าทำไมกาแฟจึงแพง”

* ผู้เขียนบทความ
เอมมา เฟลตัน เป็นผู้ช่วยนักวิจัยอาวุโสที่มหาวิทยาลัยเซาท์ออสเตรเลีย เธอไม่ได้ทำงาน ให้คำปรึกษา หรือรับเงินทุนจากบริษัทหรือองค์กรใดๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ และใช้บทความนี้ในการแต่งตั้งทางวิชาการเท่านั้น


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 






บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 



Share
Published 5 April 2024 12:01pm
By Emma*
Presented by Chayada Powell
Source: The Conversation


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand