VIC สั่งปิดโรงแรมกันโควิดลาม ไม่เพิ่มโควตารับผู้กลับจาก ตปท.

มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียยืนยันไม่เพิ่มโควตารับผู้เดินทางกลับจาก ตปท. หลังพบเคสโควิดในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เป็นรายที่ 3 จนท.สั่งปิด-ย้ายแขกไปกักตัวต่อโรงแรมอื่น

Victorian Premier Daniel Andrews

Victorian Premier Daniel Andrews Source: AAP

ประเด็นสำคัญ

  • เจ้าหน้าที่รัฐวิกตอเรียสั่งปิดโรงแรมกักโรค ฮอลิเดย์ อินน์ (Holiday Inn) ในสนามบินเมลเบิร์น หลังพบเจ้าหน้าที่ในโรงแรมมีผลการตรวจหาเป็นบวกอีกรายวันนี้ ซึ่งเป็นการติดเชื้อรายที่ 3 ของโรงแรมดังกล่าว
  • มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียเผยสถานการณ์น่ากังวลมาก ย้ำไม่เพิ่มโควตารับผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ
  • ปธ.เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเชื่อ เครื่องพ่นละอองยาที่ใช้ในโรงแรมกักโรคอาจเป็นต้นตอการกระจายเชื้อ

10 ก.พ. เจ้าหน้าที่รัฐวิกตอเรียอพยพผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศที่กำลังกักกันโรคในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ (Holiday Inn) ที่สนามบินนานาชาติเมลเบิร์น หลังการแพร่กระจายชองเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในโรงแรมดังกล่าวขยายวง ทำให้มีผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดในโรงแรมดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 3 รายแล้ว

โดยผู้ติดเชื้อ 2 รายก่อนหน้านี้ ได้รับการยืนยันการติดเชื้อเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 ก.พ.) โดยคนหนึ่งเป็นหญิงที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีผลการตรวจหาเป็นบวกหลังจากเสร็จสิ้นการกักตัวระยะเวลา 14 วัน และอีกรายหนึ่งเป็นพนักงานอาหารและเครื่องดื่ม 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ก.พ.) พบเจ้าหน้าที่ภายในโรงแรมดังกล่าวรายหนึ่ง มีผลการตรวจหาไวรัสโคโรนาเป็นบวก และพบอีกว่า เป็นไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์จากประเทศอังกฤษที่มีความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อสูง

ด้านชุดเจ้าหน้าที่กักกันโรคโควิด-19 รัฐวิกตอเรีย (COVID-19 Quarantine Victoria) ยืนยันว่า โรงแรมดังกล่าวกำลังจะปิดลงชั่วคราวในวันนี้ (10 ก.พ.)

“เพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้าในระดับสูง โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ จะปิดลงจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพื่อทำความสะอาดและทำลายเชื้อ ขณะที่การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด และการสืบสวนนั้นกำลังดำเนินต่อไป” โฆษกหญิงกล่าว

ที่โรงแรมดังกล่าว พนักงานโรงแรมราว 135 คน ได้รับแจ้งไม่ให้ไปทำงานเมื่อช่วงดึกเมื่อคืนวานนี้ (9 ก.พ.) รวมถึงให้ไปรับการตรวจหาเชื้อและกักตนเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ทำให้จนถึงขณะนี้ มีพนักงานโรงแรมดังกล่าวอยู่ระหว่างกักตัวเฝ้าระวังอาการไวรัสโคโรนาเป็นจำนวน 220 คน

ขณะที่ผู้เข้าพักในโรงแรม 48 คน ได้รับการระบุให้เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดหลัก และจะได้รับการส่งไปรับการกักตัวต่อไปอีกระยะหนึ่ง ที่โรงแรมพูลแมน เมลเบิร์น (Pullman Melbourne)
มีพนักงานโรงแรมกักกันโรคทั่วรัฐวิกตอเรียมากกว่า 950 คน กำลังกักตนเองเพื่อเฝ้าระวังอาการ หลังพบการติดเชื้อจากการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ครั้งล่าสุดที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ (Holiday Inn) โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท (Grand Hyatt) และโรงแรมพาร์ค รอยัล (Park Royal Hotel) ซึ่งทั้ง 3 แห่งเป็นโรงแรมกักกันโรค

“เราเข้าใจว่านี่เป็นข่าวที่น่าลำบากใจที่จะได้ทราบ และเราจะทำทุกอย่างที่เราทำได้ เพื่อทำให้แน่ใจว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้เข้าพักในโรงแรมเหล่านี้จะได้รับการสนับสนุนในช่วงเวลาของการกักโรค” โฆษกหญิงกล่าว

“การย้ายตัวผู้เข้าพักในโรงแรม จะดำเนินการเป็นขั้นตอนและพร้อมเพรียง และจะมีการจัดการอย่างระมัดระวังในส่วนของมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ”
สำหรับหญิงผู้ติดเชื้อรายล่าสุดนั้น เธอได้รับการตรวจหาไวรัสโควิด-19 และได้ผลออกมาเป็นลบหลายครั้งระหว่างที่เข้ารับการกักตัวในโรงแรมกักโรคซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ก.พ.) จนกระทั่งได้รับการตรวจหาอีกครั้งในวันจันทร์ และมีผลการตรวจหาเชื้อเป็นบวก โดยหญิงคนดังกล่าวไม่เคยออกจากบ้านไปไหน นอกจากไปรับการตรวจหาเชื้อ และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดหลักกับเธอเพียงคนเดียว

ส่วนพนักงานอาหารและเครื่องดื่มซึ่งทำงานอยู่บนชั้นเดียวกับห้องที่หญิงคนดังกล่าวเข้ารับการกักตัวนั้น ได้รับการระบุให้เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่โรงแรมกักโรครายล่าสุดที่ติดเชื้อในวันนี้ 

ศาสตราจารย์เบรตต์ ซัตทัน (Brett Sutton) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ทั้ง 3 กรณีในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ นั้น มีความเป็นไปได้ว่า มีความเกี่ยวโยงกับเครื่องพ่นละอองยา (nebuliser) ที่ผู้เข้ารับการกักตัวใช้งานระหว่างเข้ารับการกักตัวในโรงแรม

“หากหายใจเอาละอองเข้าไป โดยเฉพาะถ้าใช้เป็นการพ่นละอองยา และมีใครสักคนที่ติดเชื้อ เครื่องพ่นยาจะดักจับไวรัสเอาไว้ ละอองจากเครื่องพ่นจะแขวนลอยอยู่ในอากาศ พร้อมกับอนุภาคของไวรัสที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ” ศาสตราจารย์ซัตทันกล่าว

เสี่ยงเกินไป ไม่เพิ่มโควตารับผู้เดินทางกลับจาก ตปท.

นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้ยืนยันถึงแนวทางของรัฐบาลรัฐวิกตอเรียที่จะไม่เพิ่มอัตรารับผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศในระบบโรงแรมกักกันโรค จาก 1,120 เป็น 1,310 คน ตามที่ได้มีการวางแผนไว้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่าน (8 ก.พ) เนื่องจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา ภายในโรงแรมกักโรค ฮอลิเดย์ อินน์

“ชาวรัฐวิกตอเรียได้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างมาก และผมจะไม่ทำให้เกิดความเสี่ยง  จนกว่าเราจะทราบและเข้าใจอย่างแน่ชัด ถึงธรรมชาติของความท้าทายที่ไวรัสซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นมีต่อเรา” นายแอนดรูส์ กล่าว

ในส่วนของการติดเชื้อทั้ง 3 รายนั้น นายแอนดรูส์ กล่าวว่า ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้รับการตรวจหาเชื้อแล้ว ขณะที่ได้มีการปรับปรุงรายชื่อสถานที่ซึ่งผู้ติดเชื้อได้เดินทางไป (exposure site) บน

นอกจากนี้ นายแอนดรูส กล่าวอีกว่า การขยายวงของการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์นั้นได้สร้างความกังวลเป็นอย่างมาก

“ไวรัสชนิดกลายพันธุ์นี้กำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงความยากลำบากในการควบคุม และนั่นเป็นความท้าทายอย่างแท้จริง เราต้องเพิ่มความพยายามของเราเป็นอีกเท่าตัว ในการทำอะไรให้มากขึ้น เพื่อตอบโต้กับความท้าทายนี้” นายแอนดรูส์ กล่าว

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

พบชาวออสฯ ไปตรวจมะเร็งน้อยลงช่วงโควิดระบาด


Share
Published 10 February 2021 12:56pm
Updated 10 February 2021 2:21pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand