การเลือกตั้งทั่วไประดับสหพันธรัฐของออสเตรเลียจะมีขึ้นอีกเมื่อไร?

NEWS: นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน แนะว่า จะไม่เกิดขึ้นจนกระทั้งปี ค.ศ. 2019 แต่เวลาหกเดือนนั้นก็ถือว่ายาวนานในทางการเมือง

Scott Morrison and Bill Shorten.

Scott Morrison and Bill Shorten. Source: AAP

ประเด็นสำคัญในบทความนี้

  • วันเสาร์ที่ ‘แย่น้อยที่สุด’
  • นายกฯ กล่าวว่าอย่างไร?
  • แต่ ‘หลายๆ สิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว’
  • เราเชื่อโพลหยั่งเสียงได้หรือไม่
  • การตรวจคนเข้าเมืองจะเป็นประเด็นหลัก
เมื่อสก็อตต์ มอร์ริสันเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากนายมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขากล่าวกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งว่าจะไม่เร่งรีบให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก่อนเวลา

อดีตรัฐมนตรีคลังคาดหวังว่า ทีมคณะรัฐมนตรีใหม่ของเขานั้นจะสามารถเรียกแรงสนับสนุนกลับคืนมาได้ หลังจากความระส่ำระสายเรื่องผู้นำเมื่อเดือนสิงหาคม ซึ่งส่งผลให้พรรคร่วมนั้น

พรรคแรงงานกล่าวว่า รัฐบาลนั้นสูญเสียการควบคุมคนในพรรคของตัวเอง และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่นายมอร์ริสันนั้นมีทางเลือกอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งเขาสามารถเลือกใช้ได้ หากเขาเห็นช่องทางที่เหมาะสมตามกลยุทธ์เขาก็สามารถที่จะสั่งให้มีการเลือกตั้งภายในปีนี้เลยก็ยังได้ หรือเขาก็อาจยืดช่วงระยะเวลาการหาเสียงออกไปเพื่อให้รัฐบาลของเขามีเวลาในการปรับทิศทาง
Scott Morrison and Bill Shorten.
Scott Morrison and Bill Shorten. Source: AAP

วันเสาร์ที่ ‘แย่น้อยที่สุด’

การเลือกตั้งสหพันธรัฐจะต้องมีขึ้นในระหว่างวันที่ 4 สิงหาคม 2018 และ 18 พฤษภาคม 2019 เนื่องจากเหตุผลต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ

วันเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาล่าสุดนั้น เป็นการยุบสภาฯ ทั้งสองสภาฯ พร้อมๆ กัน (double dissolution) โดยมีการเลือกตั้งตั้งทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร แต่ทว่าในคราวนี้ ประเทศออสเตรเลียก็จะกลับสู่รูปแบบปกติซึ่งก็คือการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภา แต่ทว่าเลือกวุฒิสภาเพียงครึ่งเดียว

ซึ่งในระหว่างวันที่ดังกล่าว รัฐบาลซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้นก็สามารถที่จะเลือกวันได้ ซึ่งนักวิเคราะห์การเลือกตั้งผู้อาศัยอยู่ในรัฐแทสมาเนียคุณเควิน บอนแฮม ได้เรียกว่าจะเป็นสุดสัปดาห์อันมี “วันเสาร์ที่แย่น้อยที่สุด”

เพราะมีวันเลือกตั้งระดับรัฐที่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยง โดยรัฐวิกตอเรียจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พฤศจิกายน ส่วนนิวเซาท์เวลส์ก็จะถึงกำหนดในเดือนมีนาคมปีหน้า ซึ่งการหาเสียงต่างๆ นั้นก็อาจเกิดขึ้นพร้อมๆ กันไปเลยก็ได้ แต่ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็ถือว่าแปลกประหลาด โดยวันเลือกตั้งนั้นจะไม่สามารถเป็นวันเดียวกันได้

ฉะนั้นหากถ่วงดุลกันแล้ว เดือนพฤษภาคมก็เป็นทางเลือกที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด

นายกฯ กล่าวว่าอย่างไร?

นายมอร์ริสันเผชิญหน้ากับคำถามเกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้งตั้งแต่วันแรกที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำพรรคลิเบอรัล โดยเขาได้เอาชนะอดีตเพื่อนร่วมงานในคณะรัฐมนตรี ปีเตอร์ ดัตตัน และจูลี บิช็อปไปได้ ในการเข้าแข่งขันแบบสามคน

ซึ่งเขาได้ดับข่าวลือที่ว่าอาจมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก่อนกำหนดเวลา

“เราตั้งใจที่จะทำการปกครอง(ประเทศ) และเราก็สามารถที่จะทำได้โดยมีทีมที่ใหม่และสด ดังนั้นผมไม่คิดว่าใครควรจะมาวางแผนการใดๆสำหรับการเลือกตั้งในช่วงเร็วๆ นี้” เขากล่าว

ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเขา นายมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ ได้ยืนกรานมาเป็นเวลานานแล้วว่า การเลือกตั้งนั้นจะเกิดขึ้นในปี 2019

โดยวงใน ณ กรุงแคนเบร์ราบางคนได้ทำนายว่าจะมีการเลือกตั้งก่อนกำหนด หากว่ารัฐบาลนั้นสามารถขโมยเสียงจากพรรคแรงงานได้หนึ่งหรือสองตำแหน่งจาก

แต่รัฐบาลกลับทำไม่สำเร็จ ซึ่งเหล่านักวิเคราะห์ผู้มีประสบการณ์ก็กล่าวว่า การเลือกตั้งก่อนกำหนดนั้น ก็ไม่ถึงกับว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยเสียทีเดียว

แต่ ‘หลายๆ สิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว’

ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย สวินเบิร์น และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ปีเตอร์ เบร็นท์ กล่าวว่า ผู้นำเกือบทั้งหมดนั้นจะบอกว่าพวกเขานั้นจะไม่สั่งให้มีการเลือกตั้งที่เร็วขึ้น... จนกระทั่งถึงเวลาที่พวกเขาทำลงไปจริงๆ นั่นเอง

“ใช้แล้ว พวกเขาทำเช่นนั้นเป็นประจำ แทบทุกคนเคยทำมาแล้ว พวกเขาบอกว่า ‘ฉันตั้งใจที่จะรับใช้ประชาชนจนครบวาระ’ ทว่าพวกที่จะเลือกตั้งเร็วก็จะเลือกตั้งเร็ว แล้วก็กล่าวว่า ‘สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว’”

นักกลยุทธ์ประจำพรรคร่วมก็จะคอยใจจดจ่ออยู่กับโพลสำรวจความคิดเห็น – และกับสิ่งที่จะบังเกิดขึ้นในการเลือกตั้งซ่อมเขตเลือกตั้งเวนท์เวิร์ธของนครซิดนีย์ ซึ่งนายเทิร์นบูลล์ได้สละตำแหน่งลง

ฝ่ายรัฐบาลนั้นน่าจะยังคงยึดครองเก้าอี้ได้อย่างปลอดภัย(ในเขตเลือกตั้งดังกล่าว) แต่ว่าจำนวนของเสียงที่ย้ายข้างไปยังพรรคแรงงานนั้นก็จะเป็นตัวทดสอบรัฐบาลของนายมอร์ริสัน

พรรคแรงงานได้อยู่เหนือพรรคร่วม ในการหยั่งเสียงโดยนิวส์โพลแบบเลือกสองพรรค (two-party preferred) ตั้งแต่กลางปี 2016 เป็นต้นมา

โดยเส้นแบ่งคะแนนเสียงนั้นอยู่ที่ประมาณ 51-49 เป็นเวลาหลายต่อหลายเดือน จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงผู้นำพรรคลิเบอรัล ซึ่งส่งผลให้พรรคแรงงานพุ่งนำไปข้างหน้า 56-44

เราจะเชื่อโพลหยั่งเสียงได้หรือไม่?

การณรงค์ของนายทรัมป์และเบร็กซิตนั้น พลิกความคาดหมายของเหล่านักทำโพล แต่ว่านิวส์โพลของคุณบอนแฮมนั้น ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเชื่อถือได้ในการเลือกตั้งครั้งไม่นานมานี้ที่ผ่านๆ มา – ซึ่งส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากระบบการบังคับให้ต้องไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประเทศออสเตรเลีย

“หากว่าพรรคร่วม นั้นกำลังหาหลักฐานว่าการทำการหยั่งเสียงระดับชาติที่ผ่านๆ มานั้นผิด การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านๆ มานั้นไม่ได้ให้หลักฐานดังกล่าวใดๆ (กับพวกเขา)”

การตรวจคนเข้าเมืองจะเป็นประเด็นหลัก

การเลือกตั้งซ่อมเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมายังชแสดงให้เห็นล่วงหน้า เกี่ยวกับประเด็นการโต้เถียงต่างๆ ที่น่าจะเป็นประเด็นหลักในช่วงของการหาเสียง โดยนโยบายด้านการตรวจคนเข้าเมืองนั้น

พรรคร่วมกำลังออกเตือนว่า รัฐบาลของพรรคแรงงานนั้น จะยอม “อ่อนข้อ” ต่อผู้ขอลี้ภัยทางทะเล และการลักลอบค้ามนุษย์ก็จะเร่งความพยายามขึ้นอีกครั้ง ส่วนด้านพรรคแรงงานได้สัญญาที่จะดำเนินนโยบายตามที่เป็นอยู่ในขณะนี้ต่อไปทั้งการหันเหเรือกลับและการประเมิน(ผู้ขอลี้ภัย)นอกประเทศ

แต่การแต่งตั้ง ก็อาจส่งผลให้รัฐบาลนั้นเปลี่ยนแปลงแนวทางออกไปได้

เพื่อเป็นการโต้ตอบ พรรคแรงงานได้อ้างว่า พรรคร่วมนั้นได้ลดการย้ายถิ่นฐานเข้าประเทศอย่างถาวรลง โดยในขณะเดียวก็ยินยอมให้มีการเพิ่มขึ้นของวีซ่าทำงานแบบชั่วคราว – แม้ว่าฝ่ายค้านนั้นก็มักจะนับนักเรียนและนักท่องเที่ยวที่ทำงานไปด้วยรวมอยู่ในสถิติ แม้ว่าจะมีการจำกัดสิทธิในการทำงานของพวกเขาเอาไว้อย่างเข้มงวดมาก

คุณบอนแฮมกล่าวว่า การเมืองในเรื่องของการตรวจคนเข้าเมืองนั้น จะมีบทบาทที่สำคัญ




Share
Published 29 August 2018 2:48pm
Updated 29 August 2018 8:22pm
By James Elton-Pym
Presented by Tanu Attajarusit
Source: SBS News, AAP


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand