‘ไม่มีเงินซื้อข้าว’ รัฐวิกตอเรียกังวลคนอดอยากเพิ่มเหตุพิษเศรษฐกิจ

FRESH FOOD STOCK

องค์กรเพื่อการกุศลด้านการบรรเทาทุกข์ด้านอาหารรายงานว่ามีคนเพิ่มมากขึ้นที่ต้องการความช่วยเหลือเนื่องจากพิษค่าครองชีพ Credit: AAPIMAGE

รัฐวิกตอเรียกำลังเผชิญกับวิกฤตความไม่มั่นคงด้านอาหารที่หนักมากขึ้น สถานการณ์นี้เป็นผลพวงมาจากแรงกดดันด้านค่าครองชีพที่สูงขึ้น รัฐบาลของรัฐวิกตอเรียจะมีมาตรการแก้ไขอย่างไร


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

ในขณะที่รัฐวิกตอเรียเผชิญกับวิกฤตความไม่มั่นคงทางอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการบริการบรรเทาทุกข์ด้านอาหารมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ตามไปด้วย

คุณ เมดาลิน กริฟฟิธ จากองค์กร Foodbank Victoria เล่าว่าเธอยังจำไม่ลืมถึงกรณีหนึ่งที่เพิ่งเกอดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

"อาทิตย์ที่แล้ว คุณแม่ยังสาวคนหนึ่งมาหาเราพร้อมกับลูกของเธอที่อยู่บนรถ"

หญิงคนนี้บอกว่าลูกของเธอไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะพวกเขาไม่มีข้าวกลางวันไปทานที่โรงเรียน พวกเขาอาย และนี่เป็นเพียงหนึ่งเรื่องราวจากหลายๆ เรื่องที่เราได้ยินมา"
คุณ เมดาลิน กริฟฟิธ จากองค์กร Foodbank Victoria

คุณ กริฟฟิธ จะกล่าวรายงานกับคณะกรรมการทบทวนประเด็นกฎหมายและสังคมของรัฐบาลวิคตอเรีย ซึ่งการประชุมดังกล่าวได้เริ่มขึ้นในวันอังคาร 20 ส.ค. ที่ผ่านมา และจะมีการทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหารของรัฐวิกตอเรีย

คุณ กริฟฟิธ กล่าวต่อไปว่าธนาคารอาหาร เห็นปรากฎการณ์ทางสังคมที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เช่นคนบางกลุ่มที่ไม่เคยต้องใช้บริการเพื่อบรรเทาทุกข์ด้านอาหารมาก่อน

"ความไม่มั่นคงทางอาหารถือเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาทางสังคมด้วย เช่น วิกฤตค่าครองชีพที่รุนแรง ปัจจุบันนี้ค่าอาหาร เป็นค่าใช้จ่ายที่แพงมาก อย่างที่เราทุกคนรู้ดี และสิ่งที่เราไม่เคยเห็นคือ คนที่มีงานทำที่เมื่อก่อนไม่เคยต้องมาใช้บริการนี้ และก็มีอีกหลายๆ คนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการการบรรเทาทุกข์ด้านอาหารได้ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะค่าครองชีพที่สูงเกินไปสำหรับคนธรรมดา"

Healthy Food and Diet
องค์กรเพื่อการบรรเทาทุกข์ด้านอาหารเปิดเผยว่าไม่เคยเห็นปรากฎการณ์ที่คนต้องการความช่วยเหลือด้านอาหารมากเช่นนี้มาก่อน Source: AAP
 ส่วน คุณ คริสทีน โครลีย์ เป็นผู้จัดการของ Oz Harvest ในนครเมลเบิร์น

กล่าวว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ชุมชนมีความต้องการในการบรรเทาทุกข์ด้านอาหารเพิ่มขึ้น และจนปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณว่าความต้องการดังกล่าวจะลดลง คุณ โครลีย์ เปิดเผยว่า

"ความไม่มั่นคงด้านอาหารเป็นปัญหาที่อยู่กับเราไปตลอด จากการสำรวจความต้องการของชุมชนประจำปี  พบว่าองค์กรการกุศลในรัฐวิกตอเรียที่เราให้ความสนับสนุนร้อยละ 87  รายงานว่ามีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้นในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา และในขณะที่เรากำลังพยายามดำเนินการให้ดีที่สุด ที่จะส่งมอบอาหารให้ได้มากที่สุด แต่เรายังพบว่าองค์กรการกุศลต่างๆ อีกร้อยละ  74 ยังมีความต้องการอาหารมากขึ้น"

เราเห็นผู้คนใหม่ๆ เข้ามาขอความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศลของเราทุกวัน หนึ่งในสามของคนเหล่านี้ มองหาการช่วยเหลือด้านอาหารเป็นครั้งแรกในชีวิต
คุณ คริสทีน โครลีย์ ผู้จัดการขององค์กร Oz Harvest
น่าตกใจที่ร้อยละ 54 ของผู้ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือด้านอาหาร เป็นคนที่มีงานทำและมีอยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถซื้ออาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของครอบครัว เพราะแรงกดดันด้านค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น


ผู้สนับสนุนในประเด็นดังกล่าว เปิดเผยว่า สถานการร์ปัจจุบัน เลวร้ายมากขึ้น โดยร้อยละ 94 ของผู้ได้รับผลกระทบกำลังลดค่าใช้จ่ายด้านอาหารเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย

คณะกรรมการประเด็นกฎหมายและสังคมของสภานิติบัญญัติแห่งรัฐวิกตอเรียกำลังมีการไต่สวนถึงปัจจัยขับเคลื่อนและวิธีแก้ปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร รวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ความยากจนและความยากลำบากของประชาชน

โดยจะพิจารณาทางเลือกต่างๆ เพื่อลดต้นทุนอาหาร และปรับปรุงการเข้าถึงอาหารที่มีราคาไม่แพง มีคุณค่าทางโภชนาการ และเหมาะสมกับวัฒนธรรม

แต่จากข้อมูลของ คุณ เรเชล แครี จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ชี้ว่ามีสาเหตุหลายประการของการขาดแคลนอาหารอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลของรัฐวิกตอเรีย

"ระบบอาหารของเรากำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ น้ำท่วม ความแห้งแล้ง โรคระบาด เช่น โควิด19 และยังรวมถึงภาวะหยุดชะงักด้วยเหตุการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ เช่น การที่รัสเซียบุกยูเครน เมื่อภาวะเหล่านี้ ผนวกกับปัจจัยกดดันด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การขาดแคลนน้ำ ส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์"


และแน่นอนว่ามันมีส่วนทำให้ความไม่มั่นคงทางอาหารเพิ่มมากขึ้นในรัฐวิกตอเรีย โดยที่สัดส่วนของ ชาววิกตอเรียที่ขาดแคลนอาหารและไม่มีกำลังซื้ออาหารให้เพียงพอต่อความต้องการเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8 ในปี 2022 และจะเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ในสองปีข้างหน้า

 คุณ โครลีย์ จาก Oz Harvest เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการในเรื่องนี้ทันที

"มีผู้คนมากขึ้นที่กำลังหิวโหย เราเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาปัจจัยที่มีส่วนสนับสนุนทั้งหมดที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหาร และพิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้ในการจัดการกับปัญหานี้ โดยต้องเข้าใจความต้องการของชุมชน และความท้าทายที่องค์กรให้ความช่วยเหลือเหล่านี้กำลังเผชิญอยู่"

"จากมุมมองของ OzHarvest และในนามขององค์กรการกุศลเล็กๆ หลายแห่ง ที่เป็นแนวหน้าด้านการบรรเทาทุกข์ด้านอาหาร  เราไม่เคยเห็นสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน  เราจะซึ้งใจมากถ้ามีการจัดการแก้ปัญหานี้ในเร็ววัน"

 คณะกรรมการคณะกรรมการประเด็นกฎหมายและสังคมของสภานิติบัญญัติแห่งรัฐวิกตอเรียจะรับฟังความคิดเห็นจากสภาท้องถิ่น บริการให้คำปรึกษาทางการเงินที่ไม่แสวงหากำไร และบุคคลต่างๆ ที่แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับความไม่มั่นคงด้านอาหารด้วย

ด้านตัวแทนของกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่อย่าง Coles และ Woolworths จะให้การเป็นพยานในการไต่สวนดังกล่าวด้วย

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 



Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand