ลดเงินช่วยเหลือ JobSeeker

Cassandra Francisco worries about her JobSeeker cut

คาสซาสดรา ฟรานซิสโก หนึ่งในคนออสเตรเลียหลายล้านคนที่ตกงานและอาศัยเงิน JobSeeker Source: SBS

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคนออสเตรเลียหลายล้านคนที่อาศัยเงิน JobSeeker หลังรัฐบาลปรับลดเงินช่วยเหลือ ในขณะที่รัฐเปลี่ยนแผนพุ่งเป้าไปที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจและเสียงคัดค้านแผนการณ์ใหม่นี้


รัฐบาลกลางลดเงินสวัสดิการจ๊อบซีคเกอร์ หลังเปลี่ยนเป้าหมายไปที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

นักวิจารณ์เผยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะกระทบคนออสเตรเลียที่กำลังเผชิญวิกฤตหลายล้านคน

คุณคาสซาสดรา ฟรานซิสโก ทำงานในอุตสาหกรรมการให้บริการ 

เธอย้ายมาที่เมลเบิร์นก่อนไวรัสโควิด 19 จะระบาด และตอนนี้เธอกำลังดิ้นรนหางาน

เธอคือหนึ่งในกว่า 1.5 ล้านคนออสเตรเลียที่ตกงานและอาศัยเงินจ๊อบซีคเกอร์เพื่อประทังชีวิต

คุณฟราสซิสโกกำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่มั่นคง เนื่องจากรัฐบาลกลางตัดงบประมาณของโครงการเงินสวัสดิการจ๊อบซีคเกอร์ซึ่งมีผลเมื่อวันศุกร์ที่ 25 กันยายน

“ฉันคิดว่าผลกระทบที่จะมีผลกับฉันมากที่สุดคือผลกระทบกับสุขภาพจิตของฉัน มันจะเป็นเรื่องที่เครียดมากๆ ทุกวันนี้ฉันอาศัยเงินสวัสดิการในการจ่ายค่าอาหารและใบเสร็จต่างๆ เช่น ใบเสร็จของสัตวแพทย์ ใบเสร็จค่าไฟที่สูงขึ้นแบบไม่ได้คาดคิด และใบเสร็จค่าสาธารณูปโภคอื่นๆ แต่หลังจากนี้ฉันต้องเจียดเอาเงินเก็บของฉันมาจ่ายกับสิ่งเหล่านี้ มันจะสร้างความเครียดให้ฉันมากๆ เพราะเห็นได้ชัดว่ามันเป็นทรัพยากรที่มีวันหมด ฉันไม่สามารถใช้มันได้ตลอดไป” 

เงินช่วยเหลือจากผลกระทบของจากไวรัสโคโรนา $550 ดอลลาร์ที่เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถูกตัดมากกว่าครึ่ง ลดลงอยู่ที่ $250 ดอลลาร์ต่อสองอาทิตย์ 

สภาสังคมสงเคราห์แห่งออสเตรเลียกระตุ้นให้รัฐบาลเพิ่มเงินสวัสดิการแบบถาวร

คุณคาสแซนดรา โกลดี้ ผู้บริหารระดับสูงของสภาสังคมสงเคราห์ชี้ว่า คนออสเตรเลียหลายคนพึ่งพาเงินจ๊อบซีคเกอร์ท่ามกลางวิกฤตคนตกงานจำนวนมากและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

“ฉันได้พูดคุยกับหลายคนที่ร้องไห้กับฉันเมื่อเช้านี้ มันเป็นเพราะตอนนี้ผู้คนกำลังวิตกว่าพวกเขาจะเสียบ้านไปหรือไม่ จะถูกขับไล่ออกจากบ้านหรือไม่ จะมีเงินซื้ออาหารให้ตัวเองและลูกของพวกเขาที่ต้องดูแลหรือไม่”

เงินจ๊อบซีคเกอร์ที่ช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาถูกกำหนดไว้ว่าจะถูกยกเลิกทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้

แต่รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง จอช ฟรายเดนเบิร์ก เปรยว่าเขากำลังพิจารณาขยายเวลาไปจนถึงปี 2021 

“สิ่งที่เราได้แถลงในฐานะรัฐบาลคือ เราจะตัดสินใจเรื่องการให้เงินช่วยเหลือจ๊อบซีคเกอร์กับประชาชนต่อไปหรือไม่ในช่วงปลายปีนี้ แต่เรามีแนวโน้มที่จะให้ความช่วยเหลือต่อไปตามที่มีการเรียกร้อง สิ่งที่เราให้ความสนใจตอนนี้คือการทำให้ประชาชนกลับไปทำงาน”

ตอนนี้รัฐบาลกลางกำลังหันมาสนใจเรื่องการกู้ยืม ซึ่งคุณฟรายเดนเบิร์กกล่าวว่าเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังประกาศการปรับปรุงกฎหมายการกู้ยืมครั้งใหญ่ในรอบสิบปี โดยจะทำให้กระบวนการขอกู้ยืมง่ายขึ้น และให้ผู้บริโภคสามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้ง่ายขึ้น

แต่ผู้แทนผู้บริโภคกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงที่รัฐบาลเสนอจะทำให้คนกู้ที่ขาดความมั่นคงสูญเงิน

คุณแคเรน ค็อกซ์ ฝ่ายประสานงานของศูนย์กฎหมายสิทธิทางการเงินกล่าวว่าคนที่อยู่ในสถานการณ์เข้าตาจนมักจะตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องการกู้ยืม

“เราต้องการรายได้ที่ดีกว่านี้เพื่อคนออสเตรเลีย เราต้องการงานที่มีมากกว่านี้เพื่อคนออสเตรเลีย เราต้องการความเห็นอกเห็นใจจากผู้ให้กู้ยืมกับหนี้ที่คนออสเตรเลียมีอยู่แล้ว สิ่งที่เราไม่ต้องการคือรัฐบาลบอกว่าทางแก้ปัญหาคือให้ไปกู้เพิ่ม” 

ทางฝ่ายค้านก็วิจารณ์นโยบายของรัฐที่เปลี่ยนไปและสนับสนุนแนวคิดการรับผิดชอบต่อการกู้ยืม 

โฆษกฝ่ายการคลังของพรรคแรงงาน จิม ชาลเมอร์ส กล่าวว่ารัฐบาลควรให้ความมั่นใจกับคนออสเตรเลียว่าจะสามารถจ่ายหนี้ที่พวกเขามีได้

“เราไม่อยากเห็นการปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคที่นับเป็นสิ่งสำคัญถูกลดลงโดยไม่มีเหตุผล เราไม่อยากเห็นสมดุลการเงินไปอยู่ในการควบคุมของธนาคารและผู้ให้กู้ยืมมากเกินไป น่าเสียดายที่รัฐบาลนี้มักจะมีนโยบายที่เข้าข้างธนาคารใหญ่ๆ ผู้ให้กู้ยืมที่ไม่น่าเชื่อถือ และผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ มากกว่าผลประโยชน์ของประชาชนคนออสเตรเลีย”

แต่กระแสอื่นก็กล่าวว่าการปกป้องผู้บริโภคนั้นรัดกุมมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะไม่กระทบกับคนที่มีรายได้น้อย

คุณแบรนเดน โคทส์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถานบันแกรททันกล่าวว่ากฎหมายการกู้ยืมนั้นถูกปรับปรุงตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2007

“คนที่มีรายได้สูงอาจขอกู้ยืมเพิ่มเติมจากที่เคยขอได้ก่อนหน้านี้เล็กน้อย แต่ในกลุ่มคนที่กู้ยืมส่วนมากมันนั้นมันอาจจะไม่สร้างความแตกต่างมากในเรื่องของจำนวนที่ขอกู้ยืมได้ เพราะฉะนั้นผลกระทบอาจจะไม่เป็นวงกว้างมากพอที่จะกระทบกับราคาบ้านหรือเศรษฐกิจโดยรวม”

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศลดเงินสนับสนุนจ๊อบคีพเปอร์ จาก $1,500 ดอลลาร์ต่อสองอาทิตย์ เหลือ $1,200 สำหรับคนที่ทำงานแบบฟูลไทม์ 


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand