การเปลี่ยนแปลงสำคัญด้านวีซ่าออสฯ ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2020

NEWS: อัพเดทการเปลี่ยนแปลงสำคัญของวีซ่าออสเตรเลียชนิดต่าง ๆ ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2020 สรุปรายละเอียดวีซ่าชนิดใหม่ ค่าธรรมเนียม และการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสำหรับวีซ่าชนิดต่าง ๆ ในปีนี้ที่ผู้ย้ายถิ่นควรทราบ

การเปลี่ยนแปลงด้านวีซ่าที่คุณควรทราบในปี 2020 Source: SBS

เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปนโยบายและข้อกำหนดต่าง ๆ ด้านวีซ่าออสเตรเลียในหลายหมวดหมู่ โดยการเปลี่ยนแปลงบางอย่างถือว่าเป็น “การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด” ครั้งหนึ่งในระบบการอพยพย้ายถิ่นของออสเตรเลียในรอบหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งต่างมีผลบังคับใช้แล้วในปี 2020 ทั้งสิ้น ต่อไปนี้คือการเปลี่ยนแปลงด้านวีซ่าสำคัญ ๆ ที่คุณควรทราบ

ตามข้อกำหนดของวีซ่าส่วนภูมิภาคแบบใหม่ทั้งสองชนิดนี้ ผู้ย้ายถิ่นจะต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของออสเตรเลียอย่างน้อย 3 ปี จึงจะสามารถยื่นขอรับสถานะประชากรถาวร (PR) ได้ Source: SBS

วีซ่าแรงงานทักษะส่วนภูมิภาคแบบใหม่ 2 ประเภท

เมื่อปีที่ผ่านมา ออสเตรเลียได้เปิดตัววีซ่าใหม่สำหรับพื้นที่ส่วนภูมิภาค โดยรัฐบาลสหพันธรัฐได้ระบุว่า จะเป็นการช่วยให้มีแรงงานมีทักษะมากขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว โดยวีซ่าใหม่ 2 ชนิดที่ได้มีการเปิดตัวนั้น คือ วีซ่าแรงงานทักษะส่วนภูมิภาคแบบรัฐหรือมณฑลของออสเตรเลียเป็นสปอนเซอร์ (Skilled Work Regional Visa – Subclass 491) และวีซ่าแรงงานมีทักษะส่วนภูมิภาคแบบมีนายจ้างเป็นสปอนเซอร์ (Skilled Employer-Sponsored Regional Visa – Subclass 494) ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ปีที่ผ่านมา

วีซ่าส่วนภูมิภาคใหม่นี้มาแทนทีวีซ่า Subclass 489 และ Subclass 187 โดยจะมีการจัดสรรตำแหน่งสำหรับผู้ผ่านคุณสมบัติเพื่อรับวีซ่าส่วนภูมิภาคใหม่ทั้งสองประเภทไว้ 25,000 ตำแหน่ง ภายในเพดานรับผู้อพยพรายปีที่ 160,000 คน รายละเอียดวีซ่าส่วนภูมิภาคแบบใหม่ในรัฐต่าง ๆ ทุกรัฐและมณฑล ในขณะนี้ได้มีการประกาศคุณสมบัติสำหรับผู้ที่ต้องการยื่นเสนอชื่อเข้ามาเข้ารับการคัดเลือกแล้ว โดยได้มอบสิทธิ์ประโยชน์สำหรับนักศึกษาจบใหม่ และผู้อพยพที่ทำงานอยู่แล้วในพื้นที่ส่วนภูมิภาคได้รับวีซ่าดังกล่าว ข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดรับการยื่นเสนอชื่อเพื่อสมัครในแต่ละรัฐหรือมณฑล

NSW announced that they will commence the 491visa program from Feb 2021 Source: Getty Images

รายละเอียดเกี่ยวกับวีซ่าแรงงานทักษะส่วนภูมิภาคแบบรัฐและมณฑล

ในขณะที่ทุกรัฐได้ประกาศคุณสมบัติของผู้สมัครวีซ่าประเภทนี้ และจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษา หรือผู้ย้ายถิ่นที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคนั้นอยู่แล้วสมัครในวีซ่าประเภทนี้ โดยแต่ละรัฐจะมีกำหนดวันที่เปิดรับสมัครวีซ่าแตกต่างกันไป ดังนี้

รัฐวิกตอเรีย (VIC)
จะเปิดทำการสมัครในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2019 และเป็นการสมัครโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

รัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW)
เปิดทำการสมัครวีซ่าแรงงานทักษะรวมทุกประเภทตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 เป็นต้นไป

รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (WA)
จะมีการส่งคำเชิญในการสมัครวีซ่า Subclass 489 ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2019

รัฐแทสเมเนีย (TAS)
เปิดทำการสมัครวีซ่าแรงงานทักษะรวมทุกประเภท วีซ่าแรงงานทักษะส่วนภูมิภาคแบบรัฐหรือมณฑลของออสเตรเลียเป็นสปอนเซอร์ ( Subclass 491) ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2019 และมีค่าใช้จ่ายในการสมัครวีซ่าเป็นจำนวน 220 ดอลลาร์ (ไม่สามารถเรียกคืนได้)

รัฐควีนส์แลนด์ (QLD)
เปิดทำการสมัครวีซ่าประเภทวีซ่าแรงงานทักษะส่วนภูมิภาคแบบรัฐหรือมณฑลของออสเตรเลียเป็นสปอนเซอร์ ( Subclass 491) และ วีซ่าทักษะแรงงาน (Subclass 190) ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2019

รัฐเซาท์ออสเตรเลีย (SA)
เปิดทำการสมัครวีซ่าประเภทวีซ่าแรงงานทักษะส่วนภูมิภาคแบบรัฐหรือมณฑลของออสเตรเลียเป็นสปอนเซอร์ (Subclass 491) และ วีซ่าทักษะแรงงาน (Subclass 190) ในอาทิตย์แรกของเดือนธันวาคม 2019

เขตนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (NT)
เปิดทำการสมัครวีซ่าประเภทวีซ่าแรงงานทักษะส่วนภูมิภาคแบบรัฐหรือมณฑลของออสเตรเลียเป็นสปอนเซอร์ (Subclass 491) และ วีซ่าทักษะแรงงาน (Subclass 190) อีกครั้งในวันที่ 9 ธันวาคม 2019 และจะมีการเสียค่าสมัครด้วย

เขตนครหลวงออสเตรเลีย (ACT)
เปิดทำการสมัครวีซ่าแรงงานทักษะตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2019 และผู้สมัครที่ได้รับการตอบรับจะสามารถกรอกแบบฟอร์ม the Home Affairs Skill Select EOI ตั้งแต่วันที่ระบุเป็นต้นไป (16 พ.ย.2019) ส่วนผู้สมัครในวีซ่าแรงงานทักษะส่วนภูมิภาคแบบรัฐหรือมณฑลของออสเตรเลียเป็นสปอนเซอร์ (Subclass 491) ในส่วนของนครแคนเบอร์รา จะสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2020 เป็นต้นไป

Source: Getty Images

การเปลี่ยนแปลงรายชื่อแรงงานทักษะ

คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อแรงงานทักษะของออสเตรเลีย (Australia’s Skilled Occupation List หรือ SOL) ในเดือนมีนาคม 2020 โดยที่แผนกการจ้างงาน ทักษะ และธุรกิจขนาดย่อม ได้ตั้งธงการเปลี่ยนแปลงทักษะแรงงานในสาขาอาชีพต่าง ๆ ถึง 38 อาชีพด้วยกัน

วีซ่าสำหรับผู้ย้ายถิ่นที่ทำงานฟาร์ม

ล่าสุด ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป ภาคการเกษตรของออสเตรเลียสามารถเป็นสปอนเซอร์ให้กับคนงานจากต่างประเทศได้แล้ว ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2020 วีซ่าประเภทนี้ รัฐบาลมีการผ่อนปรนเกี่ยวกับข้อกำหนดที่ผู้สมัครจะต้องมีระดับภาษาอังกฤษตามที่กำหนดไว้ และจะมีการกำหนดเงินเดือนขั้นต่ำที่สปอนเซอร์ต้องจ่ายให้กับลูกจ้างด้วย

มีการกำหนดอายุคนงานจากต่างประเทศที่สามารถมาทำงานฟาร์มได้จนถึงอายุ 50 ปี และต้องผ่านการวัดระดับภาษาอังกฤษไอเอล (IELTS) ระดับ 5 และรายชื่อสาขาอาชีพที่ผ่านการรับรองแล้ว ได้แก่ คนขับรถตู้ คนขับรถยก เจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องจักรกล ช่างกลึง ช่างเชื่อม คนงานโรงเพาะชำกล้าไม้ วิศวกรเครื่องกล เจ้าหน้าที่ทางการเกษตร

Representational image of a farmworker with a tractor. Source: Getty Images

การเปลี่ยนแปลงของวีซ่านักเรียน (Subclass 500)

ออสเตรเลียจะทำการพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครวีซ่านักเรียนเป็นรายบุคคลในด้านต่าง ๆ เช่น คุณสมบัติทางการศึกษา สถานะทางการเงิน และทักษะภาษาอังกฤษ

กระบวนการพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครวีซ่าของออสเตรเลีย จะแบ่งตามระดับความเสี่ยงของการตรวจคนเข้าเมือง ตั้งแต่ระดับความเสี่ยงต่ำ คือ ระดับ 1 ไปจนระดับความเสี่ยงสูงสุด คือ ระดับ 5 ซึ่งเรียกว่า Assessment Levels (ALs) โดยข้อกำหนดในวีซ่าประเภทต่าง ๆ นั้น มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เนื่องจากเหตุผลของกฎหมายว่าด้วยการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีการเพ่งเล็งความเสี่ยงของนักเรียนจากบางประเทศที่ดูเหมือนว่าจะเข้าศึกษากับโรงเรียนหรือสถานศึกษาบางแห่งในออสเตรเลีย

และล่าสุด มีการเพิ่มมูลค่าของหลักฐานด้านการเงิน และเปลี่ยนแปลงระดับการพิจารณาให้วีซ่าแก่ผู้สมัครวีซ่านักเรียนที่มาจากประเทศอินเดีย ปากีสถาน และเนปาล เป็นต้น

ปัจจุบัน กระทรวงมหาดไทยได้ตั้งข้อกำหนดสำหรับผู้สมัครวีซ่านักเรียนเบื้องต้นไว้ว่า ผู้สมัครจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมการเดินทาง ค่าใช้จ่ายในเรื่องที่อยู่อาศัยและการดำรงชีวิตราว $21,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือผู้สมัครต้องแนบหลักฐานทางการเงิน ซึ่งเป็นรายได้ในระยะ 12 เดือนของคู่สมรส หรือพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นจำนวนเงินอย่างน้อย $62,222 ดอลลาร์ในการสมัครวีซ่า

Source: AAP

การเปลี่ยนแปลงการเปลี่ยนแปลงของวีซ่าผู้ติดตามนักเรียน (Subclass 590)

ในปีนี้ผู้ขอสมัครวีซ่าวีซ่าผู้ติดตามหลัก (subclass 590) ต้องแสดงหลักฐานทางการเงินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่นค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายในเรื่องที่อยู่อาศัยและการดำรงชีวิต เป็นจำนวนเงิน $21,014 ดอลลาร์ หากต้องการอาศัยในออสเตรเลียเป็นระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป และต้องแสดงหลักฐานทางการเงินสำหรับผู้สมัครวีซ่าผู้ติดตามรองคนอื่น ๆ เป็นเงินราว $7,362 ดอลลาร์ หรือเป็นจำนวนเงิน $3,152 ดอลลาร์สำหรับเด็ก

และสำหรับผู้ติดตามที่เป็นเด็กในวัยเรียน จะต้องมีการแสดงหลักฐานทางการเงินเพิ่มเติมสำหรับค่าเล่าเรียนเป็นจำนวนเงิน $8,296 ดอลลาร์ สำหรับการอาศัยในออสเตรเลียตั้งแต่ระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป ส่วนวีซ่าผู้ติดตามที่เป็นคู่สมรสหรือคู่หมั้น จะต้องแสดงหลักฐานทางการเงินของตนเป็นจำนวนเงินอย่างน้อย $72,592 ดอลลาร์

Source: Getty Images

การเปลี่ยนแปลงของวีซ่าพ่อแม่ผู้ปกครอง

วีซ่าพ่อแม่ผู้ปกครองแบบใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อปีที่แล้วทำให้มีพ่อแม่ของผู้อาศัยอาศัยถาวรหรือพลเมืองของออสเตรเลียออสเตรเลียสามารถเดินทางมาเยี่ยมลูกได้ถึง 15,000 คนต่อปี สำหรับวีซ่าพ่อแม่ของผู้ที่เป็นผู้อยู่อาศัยถาวรหรือพลเมืองของออสเตรเลียสามารถย้ายมาอยู่อาศัยกับลูกที่ออสเตรเลียได้ (Contributory Parent Visa) ซึ่งในปี 2020 ภายในเพดานรับรายปีที่จำนวน 6,096 คน ซึ่งลดลงจากปี 2018/19 ซึ่งมีเพดานรับรายปีที่จำนวน 7,175 คน

การเปลี่ยนแปลงของวีซ่าคู่ครอง

วีซ่าคู่ครองนี้จะอนุญาตให้คู่หมั้นหรือคู่สมรสของพลเมืองออสเตรเลียหรือผู้อยู่อาศัยถาวรสามารถอยู่อาศัยในออสเตรเลียได้ คุณนาฟจอต ซิงค์ ไคเลย์ ตัวแทนด้านการอพยพให้รายละเอียดในเรื่องนี้ว่า

“ตอนนี้ค่าธรรมเนียมในการสมัครวีซ่าคู่ครองนั้นเพิ่มเป็น 7,715 ดอลลาร์แล้ว ซึ่งเป็นวีซ่าที่ถือว่ามีค่าใช้จ่ายสูงสุดในปี 2020 นี้ และมีการคาดการว่าระยะเวลาการรอผลขอวีซ่าคู่ครองจะยืดระยะเวลายาวนานขึ้นอีกด้วย”

Source: Pixabay

ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมในการสมัครวีซ่า

กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศเพิ่มค่าธรรมเนียมในการสมัครวีซ่าประเภทต่าง ๆ ในปี 2020 มีดังนี้

• วีซ่านักเรียน (Student): $620 ดอลลาร์ (เดิม $575 ดอลลาร์)
• วีซ่าแรงทักษะทั่วไป (General Skilled Migration): $4,045 ดอลลาร์ (เดิม $3,755 ดอลลาร์ )
• วีซ่าหลังจบการศึกษา (Graduate Temporary Subclass 485): $1,650 ดอลลาร์ (เดิม $1,535 ดอลลาร์)
• วีซ่าคู่ครอง (Partner): $7,715 ดอลลาร์ (เดิม $7,160 ดอลลาร์)
• วีซ่าสำหรับพ่อแม่ของผู้อยู่อาศัยถาวรหรือพลเมืองออสเตรเลีย ที่จะย้ายมาอาศัยกับลูกในออสเตรเลีย ขั้นแรก (Parent [Contributory] first instalment) : $365-$4,155 ดอลลาร์ (เดิม $340 - $4,155 ดอลลาร์)
• วีซ่าธุรกิจ (Business Migration): $5,375 ดอลลาร์ (เดิม $4,985 ดอลลาร์)
• วีซ่าผู้ลงทุนขนาดใหญ่ (Significant Investor Visa หรือ SIV): $7,880 ดอลลาร์ (เดิม $7,310 ดอลลาร์)
• วีซ่าแรงงานทักษะชั่วคราว (TSS – STSOL): $1,265 ดอลลาร์ ( เดิม $1,175 ดอลลาร์)
• วีซ่าทักษะแรงงานที่เป็นที่ต้องการทั้งระยะสั้นและระยะยาว (TSS – MLTSSL): $2,645 ดอลลาร์ (เดิม $2,455 ดอลลาร์)
• วีซ่านายจ้างเป็นสปอนเซอร์ถาวร (ENS/RSMS): $4,045 ดอลลาร์ (เดิม $3,755 ดอลลาร์)

ภาพรวมการอพยพย้ายถิ่นของออสเตรเลีย

เมื่อปีงบประมาณที่แล้ว มีคนจากต่างประเทศเดินทางเข้ามายังออสเตรเลียเป็นจำนวน 536,600 คน และเดินทางออกเป็นจำนวน 297,700 คน หนึ่งในนั้นเป็นผู้ย้ายถิ่นชาวต่างชาติจำนวน 238,300 คน ขณะที่ปี 2018-19 มีการอนุมัติวีซ่าสำหรับผู้อยู่อาศัยถาวรเป็นจำนวน 160,000 ราย ซึ่งลดลงเกือบ 30,000 ราย ภายในเพดานรับรายปีที่จำนวน 190,000 คน ซึ่งตัวเลขนี้เป็นจำนวนที่น้อยที่สุดนับแต่ปี 2008 เป็นต้นมา 

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (Australian Bureau of Statistics หรือ ABS) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2019 ระบุว่า การเติบโตของจำนวนประชากรในออสเตรเลียนั้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 โดยคิดเป็นการเพิ่มของประชากรด้วยวิธีธรรมชาติ ร้อยละ 37.5 ต่อปี และการเพิ่มขึ้นของประชากรด้วยการอพยพย้ายถิ่น คิดเป็นร้อยละ 62.5 ต่อปี

ปัจจุบัน ออสเตรเลียมีจำนวนประชากรราว 25.5 ล้านคน ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ว่าจำนวนประชากรจะเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคน ภายในปี 2049

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai