จะเปิดตัวบอกพ่อแม่ชาวเอเชียอย่างไรว่าชอบเพศเดียวกัน

ครั้งแรกที่ฉันบอกกับแม่ของฉันว่าฉันเป็นไบเซ็กชวล (รักสองเพศ) เธอบอกปัดว่าฉันนั้นยัง ‘เด็กเกินไป’ แล้วก็ไม่ยอมพูดเรื่องนี้กับฉัน

Image of Jinghua Qian

คุณจิงหัว เชียน มีพื้นเพมาจากนครเซี่ยงไฮ้ ขณะนี่อยู่อาศัยในออสเตรเลีย Source: Image obtained by SBS Sexuality

รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

You can read the full version of this story in English on SBS Sexuality .

หากดูในทีวี การเปิดตัวหรือ “come out” ว่าคุณชอบเพศเดียวกันนั้นมักจะมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพราก การตะโกนใส่กัน คำพูดแสนอบอุ่น การโอบกอด หรือไม่ก็ทุกๆ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น แต่ฉันทราบแต่แรกว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นกับฉัน

เช่นเดียวกันกับ พวกเขามักจะแสดงความรักด้วยการมีอาหารมาให้รับประทาน หรือบอกกับฉันว่าฉันควรจะสวมใส่เสื้ออย่างไร ครั้งแรกที่ฉันบอกกับแม่ของฉันว่าฉันนั้นเป็นไบ (ไบเซ็กชวล หรือรักสองเพศ) เธอปัดว่าฉันนั้นยัง “อายุน้อยเกินไป” แล้วก็เมินเฉยมัน ทว่าสิบห้าปีต่อมา เธอก็ไปงานไพรด์กับฉัน (Pride งานรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนผู้ที่ไม่ได้รักแต่เพศตรงข้าม) แต่ว่าเราก็ยังไม่พูดคุยกันถึงความรู้สึกลึกๆ อยู่ดี
เช่นเดียวกันกับคนเชื้อสายจีนจำนวนมาก พ่อแม่ของฉันมักจะไม่พูดคุยถึงความรู้สึกลึกๆ
จากการผ่านเส้นทางที่ยาวไกลนั้นมา ฉันมีคำแนะนำดังต่อไปนี้:

ค่อยๆ ใช้เวลาตามที่คุณเองเห็นว่าเหมาะสม

ในชีวิตจริง การเปิดตัวนั้นไม่ได้เหมือนกับตอนอวสานของซีรีส์ แต่มันกลับเหมือนการทำงานบ้านเสียมากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่คุณต้องทำซ้ำๆ หลายครั้ง แต่ว่าการลงมือทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้นจะช่วยให้พ่อแม่ของคุณเริ่มเห็นว่าคุณสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ สำหรับฉัน การย้ายออกจากบ้านแต่ว่ายังคงไปมาหาสู่อย่างใกล้ชิดนั้น ช่วยให้พ่อแม่ของฉันเริ่มปฏิบัติกับฉันเหมือนกับว่าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งมากขึ้น และถึงแม้คุณจะยังอยู่กับที่บ้าน การปฏิบัติหน้าที่เพิ่มมากขึ้นในการดูแลตัวเอง พ่อแม่ของคุณ และดูแลบ้านนั้น สามารถจะปรับให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่สู่เด็กกลายเป็นความสัมพันธ์ซึ่งมีการให้ความเคารพซึ่งกันและกันได้ คุณสามารถแสดงให้ท่านเห็นว่าท่านสามารถที่จะยังรักคุณโดยไม่จำเป็นต้องคอยห่วงเกี่ยวกับตัวคุณได้ ดังนั้นท่านก็จะมีความมั่นใจ ว่าคุณสามารถเป็นผู้ที่จะกุมบังเหียนชีวิตของตนเองอย่างมีความสุขได้

บ่อยครั้งที่พ่อแม่ของพวกเราซึ่งเป็นผู้อพยพย้ายถิ่นฐานนั้นจะใช้ไม้แข็งกับพวกเรา นั่นก็เพราะพวกเขารู้สึกหวาดกลัวแทนพวกเรา พวกเขาเคยประสบกับการเลือกปฏิบัติมาก่อนด้วยตัวเอง ดังนั้นพวกเขาก็ต้องการที่จะปกป้องพวกเราจากสิ่งใดก็ตามที่พวกเขาเห็นว่ายิ่งเพิ่มความเสี่ยงในชีวิตให้มากขึ้น คุณจำเป็นจะต้องทำให้ท่านเห็นว่าคุณรู้จักตัวของคุณเองและสิ่งที่ต้องการในชีวิตเป็นอย่างดี

ทำการบ้านล่วงหน้า

คนเอเชียคนอื่นๆ มักจะพยายามบอกกับคุณว่าการเป็นบุคคลที่มีความหลายหลายทางเพศ หรือการเป็นชาว LGBTIQ+ นั้นเป็นเรื่องของ “คนตะวันตก” ซึ่งไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด ฉันได้ร่วมผลิต เพื่อสลายความเชื่อผิดๆ ในเรื่องนี้ แต่ก็อย่าลืมว่า หากทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นออกสื่อนั้นเป็นเรื่องราวของชาวออสเตรเลียผิวขาว นั่นก็เป็นเหตุเป็นผลว่าเพราะเหตุใดพ่อแม่ของคุณจึงไม่เข้าใจเรื่องนี้นัก

การค้นหาภาพยนต์และเรื่องราวที่ประพันธ์ขึ้นเกี่ยวกับชาวเควียร์ (queer) และบุคคลข้ามเพศ (trans) ในวัฒนธรรมของคุณเองนั้นอาจช่วยให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง และช่วยให้คุณมีอาวุธในมือเพื่อใช้เพื่อให้ครอบครัวของคุณนั้นสามารถทำความเข้าใจและคล้อยตามได้ง่ายขั้น และข้อมูลต่างๆ ในภาษาของคุณเอง หากครอบครัวของคุณเคร่งศาสนา มันก็อาจช่วยได้หากคุณไปพบปะกับกลุ่มศาสนาหรือกลุ่มศึกษาพระคัมภีร์ที่มีทัศนคติเป็นมิตรกับชาวรักร่วมเพศ ในขณะเดียวกันคุณต้องจำไว้เสมอว่านี่ไม่ใช่การจะพยายามจะเอาชนะการโต้วาทีกัน คุณกำลังพยายามบอกคนที่คุณรักถึงเรื่องที่สำคัญมากๆ เกี่ยวกับตัวคุณ

ดูลาดเลาก่อน

พยายามหยั่งดูว่าพ่อแม่ของคุณอาจมีปฏิกริยาอย่างไร โดยในตอนแรกให้พยายามพูดเหมื่อนว่าเป็นไกลตัวเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง เช่น ลองถามท่านถึงเรื่องที่ตกเป็นข่าว แล้วค่อยมาตัดสินว่าคุณจะใช้วิธีอย่างไรจากปฏิกริยาของพ่อแม่ของคุณ หากว่าพวกเขาต่อต้านอย่างรุนแรงและเปิดเผย ให้หยุดก่อน คุณไม่ได้ติดหนี้กับใครไว้ทั้งนั้นว่าจำเป็นจะต้องเปิดตัว และมันก็โอเคที่จะปิดเรื่องนี้เป็นความลับเพื่อให้คุณปลอดภัย และหากว่าปฏิกริยาของพวกเขานั้นเป็นบวก ก็เป็นสัญญาณที่ดี—ทว่าก็ควรจะต้องเตรียมใจไว้ด้วยต่อความเป็นไปได้ว่าพวกท่านอาจตอบสนองโดยแตกต่างออกไปถ้าหากว่าเป็นลูกของพวกท่านเอง

ตัดสินใจว่าคุณต้องการอะไร

ตั้งเป้าที่เป็นไปได้จริง ยกตัวอย่างเช่น หากคุณไม่เคยเห็นใครในครอบครัวของคุณจูบกันให้เห็นเลย แม้กระทั่งญาติๆ ที่รักเพศตรงข้าม หรือพวกเขาเสแสร้งว่ายังรักษาพรหมจรรย์เอาไว้อยู่แล้วล่ะก็ การจะพูดคุยกันถึงการรักบุคคลหลากเพศหรือมีคู่รักหลายคนนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ก้าวกระโดดจนเกินไป ถึงแม้ว่าในระยะยาวคุณต้องการให้ครอบครัวของคุณยอมรับ เข้าใจ และให้การสนับสนุนคุณก็ตาม คุณควรจะมุ่งเน้นไปยังความจำเป็นในระยะใกล้เสียก่อน คุณต้องการให้พ่อแม่หยุดหาคู่ให้กับคุณหรือเปล่า? คุณอยากให้พวกท่านเรียกคุณด้วยชื่อใหม่หรือไม่? แจกแจงออกมาเป็นขั้นๆ ย่อยๆ ก่อน และอย่ายอมให้ความมีค่าในตัวเองของคุณนั้นขึ้นอยู่กับการยอมรับของพวกท่าน

หาความช่วยเหลือ

บอกเพื่อนคนใดคนหนึ่งเอาไว้ว่าคุณวางแผนจะทำอะไร เพื่อที่เพื่อนจะได้คุยปรึกษากับคุณได้ในภายหลัง พยายามให้แน่ใจให้ได้ก่อนว่าคุณไม่ได้มีวิธีเดียวที่จะติดต่อกับชุมชนหรือวัฒนธรรมของคุณด้วยการผ่านทางครอบครัว (เรื่องนี้มีกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน (peer support) ที่อาจช่วยคุณได้ เช่นกลุ่ม Beit el Hob และกลุ่ม Yellow Kitties เป็นต้น สำหรับฉันนั้น ฉันไปทานข้าวกับกลุ่ม QTPOC และกลุ่มหมากรุกจีนของฉันเป็นประจำ)

ทำตามวิธีการของคุณเอง

คุณอาจบอกแบบตัวต่อตัว ผ่านทางโทรศัพท์ หรือแชทด้วยวิดิโอ หากว่าคุณไม่ได้พูดภาษาเดียวกับท่านอย่างคล่องแคล่วก็ให้ใช้คำพูดที่เรียบง่ายเข้าไว้ คุณอาจจะเขียนเป็นจดหมายเพื่อให้พวกท่านได้มีเวลาคิดก่อนที่จะตอบโต้ คุณอาจใช้วีธีบอกไบ้เป็นนัยๆ ก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น แนะนำคนรักของคุณให้ท่านรู้จักว่าเป็นเพื่อน แล้วก็ให้เขาหรือเธอสร้างความสัมพันธ์กับพ่อแม่ของคุณเป็นอย่างดีเสียก่อน วิธีการเหล่านี้มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะรู้ว่าอะไรเหมาะสมที่สุดสำหรับครอบครัวของคุณ หากพ่อแม่ของคุณมีความแตกต่างกัน คุณก็อาจเลือกใช้วิธีที่แตกต่างกันไปสำหรับท่านแต่ละคน

อย่างไรก็ตาม การทำอย่างแนบเนียนจนเกินไปนั้นก็อาจกลับกลายเป็นผลเสียได้ ครอบครัวของฉันนั้นชอบพูดคุยเรื่องงานกันมากกว่าเรื่องการออกเดท เรามาจากจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นคอมมูนิสต์ ดังนั้นเราจึงไม่พูดถึงเรื่องกิจกรรมการต่อสู้ของชาว LGBTIQ+ ใดๆ กัน แม่ของฉันเป็นชาวคริสต์นิกายคาทอลิกและก็เป็นอาสาสมัครที่ให้บริการกับชุมชน ซึ่งตอนนั้นฉันก็เลยคาดว่าเธอน่าจะเดาออก ทว่าหลายปีต่อมาเธอกลับพูดว่า “ตอนนั้นจะให้ฉันรู้ได้อย่างไร?” “ลูกยังไปมีส่วนร่วมเรื่องสิทธิผู้ลี้ภัย ทั้งๆ ที่ตัวของลูกเองก็ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย” แม่ของฉันกล่าว

จงอดทน

ฉันรู้สึกประหลาดใจและประทับใจ ต่อการที่พ่อแม่ของฉันนั้นสามารถที่จะยอมรับเรื่องนี้ได้ในเวลาต่อมา แต่ก็มีเวลาหลายปีทีเดียวที่ฉันอยากจะแบ่งตัวเองออกเป็นสองภาค โดยเก็บเอาส่วนที่ฉันรู้ดีว่าจะไม่ได้รับการยอมรับเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ บางครั้งฉันก็รู้สึกโกรธที่ฉันนั้นพลาดโอกาสต่างๆ ไปมากมายในอดีต และบางครั้งฉันก็สงสัยว่าทำไมในอดีตฉันไม่ไว้วางใจพวกท่านว่าจะสามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่พวกท่านไม่คุ้นเคยก็ตาม เพราะคิดดูสิว่าพวกท่านยังเคยแม้กระทั่งย้ายประเทศมายังที่ซึ่งแปลกออกไปแล้วก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่

คุณจิงหัว เชียน เป็นนักเขียน กวี และนักผู้ทำการปะทุให้เกิดแนวคิดต่างๆ (provocateur) คุณจิงหัวมีพื้นเพมาจากนครเซี่ยงไฮ้ และขณะนี้ก็อยู่อาศัยใน Kulin nations (รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย) คุณสามารถติดตามคุณจิงหัวได้ทางทวิตเตอร์ ที่ @qianjinghua

Share
Published 15 July 2019 4:38pm
Updated 15 July 2019 11:57pm
By Jinghua Qian
Presented by Tanu Attajarusit
Source: SBS Sexuality


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand