กลุ่มธุรกิจแนะออสเตรเลียรับผู้ย้ายถิ่นที่มีทักษะอาชีพ 2 แสนคนต่อปี

หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า เป้าหมายการรับผู้ย้ายถิ่นฐานต้องถูกกำหนดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน “อย่างรุนแรง” เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัว

The parliamentary report has called for changes to address COVID-19 impact on skilled migration.

The parliamentary report has called for changes to address COVID-19 impact on skilled migration. Source: Unsplash

หนึ่งในกลุ่มธุรกิจชั้นนำของออสเตรเลียได้สนับสนุนการเรียกร้องให้เพิ่มรับผู้ย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะอาชีพ โดยผลักดันให้โครงการรับผู้ย้ายถิ่นฐานประจำปีเพิ่มขึ้น โดยให้ถึงจำนวน 200,000 คน

หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งออสเตรเลีย (ACCI) เรียกร้องให้โครงการรับผู้ย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะอาชีพเพิ่มจำนวนการรับเป็นเกือบสองเท่า เพื่อช่วยส่งเสริมเส้นทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิดของออสเตรเลีย

นับตั้งแต่ออสเตรเลียปิดพรมแดนระหว่างประเทศในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างเรื้อรัง

เมื่อวันอังคารที่ 19 ตุลาคม ACCI ออกกลยุทธ์ “Better Australia” โดยสรุปเป้าหมาย 10 ประการเพื่อปรับปรุงผลงานทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียให้ได้ภายในปี 2050

หอการค้ากล่าวว่า ต้องมีการกำหนดเป้าหมายการรับผู้ย้ายถิ่น เพื่อจัดการกับปัญหาการขาดแคลนทักษะ "อย่างรุนแรง" และเพิ่มผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจให้ได้สูงสุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปเหล่านี้

คุณ แอนดรูว์ แมคเคลลาร์ ผู้บริหารระดับสูงของหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งออสเตรเลีย หรือ ACCI บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า “จำนวนรับผู้อพยพที่มีทักษะอาชีพราว 200,000 คนต่อปีนั้นมีความเป็นไปได้”
นี่คือสิ่งที่จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และกระตุ้นให้การจ้างงานเพิ่มขึ้นโดยรวม
ACCI กล่าวว่า จำนวนที่เสนอนี้นั้น เทียบกับผู้อพยพทักษะราว 120,000-150,000 คนที่เดินทางมายังออสเตรเลียในแต่ละปีตามปกติช่วงก่อนการระบาดใหญ่ของโควิด-19

“แน่นอนว่าจุดสำคัญอย่างหนึ่งคือ การเปิดพรมแดนระหว่างประเทศของเราจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงไร” นาย แมคเคลลาร์ กล่าว

“(และ) แน่นอนว่า การเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัวจะเป็นส่วนสำคัญของแนวทางแก้ปัญหา (การขาดแคลนแรงงาน) นี้”
นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังของสหพันธรัฐ กล่าวในงานของ ACCI เมื่อวันอังคารสัปดาห์ก่อนว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาทบทวนจำนวนการรับและสัดส่วนของอาชีพที่จะรับในโครงการรับผู้ย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย

“สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และรวมไปถึงเรื่องความชราภาพและลักษณะของประชากรของเรา เพราะเรารู้ดีว่าผู้อพยพมีแนวโน้มที่จะมีอายุน้อยกว่าประชากรทั่วไป” นายฟรายเดนเบิร์กกล่าว

“เห็นได้ชัดว่านี่เป็นปัญหาที่ผมและรัฐบาลกำลังพิจารณา ทั้งในแง่ของจำนวนผู้อพยพที่จะรับและสัดส่วนของอาชีพที่จะรับในโครงการย้ายถิ่นฐานของเรา”

กลยุทธ์ของ ACCI ระบุว่า รัฐบาลของรัฐและมณฑลต่างๆ ทั่วออสเตรเลียต้องตระหนักถึงประโยชน์ในระยะยาวของการรับผู้ย้ายถิ่นฐานทั้งชั่วคราวและถาวร

“ทักษะ ความสามารถ และความคิดของผู้ย้ายถิ่นฐานจะต่อยอดและช่วยเพิ่มพูนสมบัติด้านทรัพยากรมนุษย์และทรัพยากรธรรมชาติของเรา” รายงานของ ACCI หรือ หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งออสเตรเลีย ระบุ

“การมุ่งเน้นอย่างต่อเนื่องในการรับผู้ย้ายถิ่นที่อายุน้อยและมีทักษะที่มากกว่าในด้านอาชีพ จะช่วยรับมือเรื่องสังคมสูงวัยของเรา เรื่องการลดลงของฐานภาษีที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ”
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้จัดลำดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน Fitch Ratings ชี้ว่า การย้ายถิ่นฐานมายังออสเตรเลียที่ลดฮวบนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อ การเติบโตของ  "ความตกใจ" ต่อการย้ายถิ่นฐานมีความสามารถในการชั่งน้ำหนักการเติบโตของ GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ) ของออสเตรเลียในระยะกลาง

คาดการณ์ว่าแนวโน้มการเติบโตของออสเตรเลียจะลดลงจาก 2.9% ต่อปี เหลือเพียง 2.1% ต่อปี Fitch Ratings ผู้จัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน ระบุ

“เราคาดว่า จำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานจะไม่มากถึงระดับก่อนเกิดโรคระบาดจนกระทั่งปี 2023 และเราไม่คิดว่าจำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานจะพุ่งขึ้นในปีต่อๆ มาเพื่อชดเชยการขาดแคลนในปี 2020-2021” รายงาน ระบุ

นายโดมินิก เพอร์โรต์เทต์ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเขาสนับสนุนแนวคิด “bigNSW” (นิวเซาท์เวลส์ที่มีขนาดใหญ่) และต้องการทำงานร่วมกับรัฐบาลกลางเพื่อเพิ่มการรับผู้ย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะอาชีพ

องค์กรที่ปรึกษาของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานยังระบุด้วยว่า จำเป็นต้องมีการเพิ่มการรับผู้ย้ายถิ่นฐาน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะอาชีพ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์กรโครงสร้างพื้นฐานของออสเตรเลีย (Infrastructure Australia) ได้เผยแพร่รายงานที่ชี้ว่า จำเป็นต้องมีการรับผู้อพยพย้ายถิ่นมากขึ้นเพื่อเติมเต็มการขาดแคลนแรงงานสำหรับงานที่คาดว่าจะต้องการลูกจ้าง 105,000 ตำแหน่ง

แต่นายอาบูล ริซวี อดีตรองเลขาธิการกรมตรวจคนเข้าเมือง ได้เตือนว่า อย่าตั้งจำนวนการรับผู้ย้ายถิ่นฐาน โดยทำแบบ "ดึงตัวเลข" ออกจาก "อากาศ" เมื่อพิจารณานโยบายด้านการย้ายถิ่นฐานเพื่อตอบสนองสถานการณ์ปัญหา

“อย่าเริ่มต้นด้วยตัวเลข ให้เริ่มต้นด้วยปัญหาด้านนโยบาย หาขนาดของปัญหาแล้วคิดหาแนวทางการตอบสนอง” นายอาบูล ริซวี กล่าวกับ เอสบีเอส นิวส์
อย่าเริ่มต้นด้วยตัวเลข ให้เริ่มต้นด้วยปัญหาด้านนโยบาย หาขนาดของปัญหาแล้วคิดหาแนวทางการตอบสนอง
"คุณต้องการให้รัฐบาลใจเย็นๆ และออกแบบการตอบสนองจากการวิเคราะห์อย่างดีว่า ความจริงแล้วการขาดแคลนแรงงานทักษะจะเป็นอย่างไรกันแน่"

เขากล่าวว่าสิ่งนี้จำเป็นต้องพิจารณาถึง "ผลตามมาที่หลากหลาย" ของจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นที่พุ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการใช้บริการของรัฐบาล โครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่ที่ผู้คนจะตั้งถิ่นฐาน และในด้านที่อยู่อาศัย

“คุณต้องตริตรองถึงสิ่งเหล่านั้นให้รอบคอบ ก่อนที่คุณจะผลักคันเร่งด้านการรับผู้ย้ายถิ่นฐาน” นายอาบูล ริซวี กล่าว

รายงาน “Intergenerational Report” ของรัฐบาลระบุว่า คาดว่าอัตราสุทธิการรับผู้ย้ายถิ่นฐานจากต่างประเทศ จะถึงระดับ 235,000 คนต่อปีภายในปี 2024-25

โดยตัวเลขที่ว่านี้อาจเกิดขึ้นตามมา หลังจากการคาดการณ์ว่าผู้อพยพ 97,000 คนจะเดินทางออกจากออสเตรเลียในปี 2020-21 และ 77,000 คนจะเดินทางออกไปในปี 2021-22


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 26 October 2021 1:20pm
Updated 26 October 2021 1:26pm
By Tom Stayner
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand