NT ประกาศให้ซิดนีย์เป็นจุดฮอตสปอตโควิด-19

มณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ประกาศให้พื้นที่มหานครซิดนีย์ทั้งหมด 30 จุด เป็นพื้นที่ฮอตสปอตจากไวรัสโคโรนา หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มในกลุ่มก้อนการติดเชื้อ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับสถานบริการหลายแห่งในรัฐนิวเซาท์เวลส์

A cleaner dressed in Personal Protective Equipment (PPE) is seen leaving the Crossroads Hotel in Sydney, Saturday, July 11, 2020

A cleaner dressed in Personal Protective Equipment (PPE) is seen leaving the Crossroads Hotel in Sydney, Saturday, July 11, 2020 Source: AAP

มณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ได้ประกาศให้พื้นที่ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่มหานครซิดนีย์ เป็นพื้นที่ฮอตสปอตของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับกลุ่มก่อนการติดเชื้อ (คลัสเตอร์) ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์ 

การประกาศนโยบายดังกล่าว มีขึ้นหลังได้มีการประชุมของคณะกรรมการด้านความปลอดภัย และการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ในมณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี โดยผู้ซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงมายังมณฑล จะต้องได้รับการดำเนินการตามมาตรการกักโรคที่มีความเข้มงวดขึ้น เมื่อมณฑลนอร์เทอร์นเทร์ริทอรีประกาศเปิดพรมแดนในวันศุกร์นี้ (17 ก.ค.) 

“เราจะประกาศให้พื้นที่ปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่มหานครซิดนีย์เป็นจุดฮอตสปอต สำหรับจุดประสงค์ด้านการเดินทางของนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี” นายไมเคิล กันเนอร์ (Michael Gunner) หัวหน้าคณะรัฐบาลมณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีกล่าว

“นั่นหมายความว่า ตั้งแต่วันศุกร์นี้ หากมีผู้ที่เดินทางมายังมณฑลของเราจากซิดนีย์ หรือชาวมณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ที่เคยเดินทางไปยังนครซิดนีย์ เมื่อช่วง 14 วันที่ผ่านมา จะต้องได้รับการกักโรคภาคบังคับที่มีการเฝ้าระวัง”

โดยมาตรการดังกล่าว เป็นไปในลักษณะเดียวกันสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากรัฐวิกตอเรีย

นายกันเนอร์ กล่าวว่า การตัดสินใจของมณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ไม่ใช่เพียงอยู่บนพื้นฐานจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐวิกตอเรียและนครซิดนีย์เท่านั้น แต่อยู่บนความเป็นไปได้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงได้เพียงใด

“สถานการณ์นี้ในซิดนีย์อาจเป็นไปได้ว่าจะเลวร้ายกว่านี้ก่อนที่มันจะดีขึ้นอีกครั้ง และเราจำเป็นจะต้องสรุปว่าคาดว่าสถานการณ์จะแย่ลง การเปิดพรมแดนของเราให้กับประชาชนในซิดนีย์ตอนนี้ ก็คงจะเป็นเหมือนการเสี่ยงโชค” 

พบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์เพิ่มขึ้น

คลัสเตอร์เชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงแรมครอสโรดส์ (Crossroads Hotel) ในเมืองคาซูลา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์นั้น พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลการทดสอบทางพันธุกรรมชี้ให้เห็นว่า ไวรัสดังกล่าวเป็นชนิดเดียวกับในรัฐวิกตอเรีย 

นางเคอร์รี แชนท์ (Kerry Chant) ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 34 รายที่มีความเชื่อมโยงกับโรงแรมแห่งนี้ โดยมี 20 รายเป็นลูกค้าที่เดินทางมาโรงแรม

เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้รายงานการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ 13 ราย โดยพบว่ามีเพียง 3 รายเท่านั้น ที่ไม่พบความเชื่อมโยงกับโรงแรมแห่งนี้

ขณะที่ผู้ติดเชื้อ 2 ราย จากผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับโรงแรมดังกล่าว 10 ราย ได้ไปใช้บริการยิมออกกำลังกาย Planet Fitness นั่นหมายความว่า ผู้ที่เดินทางไปยังยิมออกกำลังกายทั้ง 2 คนนั้นได้นำเชื้อไวรัสไปด้วย

“สิ่งนี้เป็นการเน้นย้ำถึงความเร็วในการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความสำคัญของการติดตามเส้นทางการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะไม่ละเลยว่า เชื้อโควิดอาจพบได้ในทุกพื้นที่ของซิดนีย์ นี่เป็นไวรัสที่สามารถหลบซ่อนตัวได้อย่างแนบเนียน” นางแชนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าว

นอกจากนี้ หน่วยงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ยืนยันว่า ผู้ป่วยรายแรกซึ่งเป็นต้นต่อการแพร่ระบาดเป็นชายชาวเมลเบิร์น ซึ่งเดินทางไปยังโรงแรมครอสโรดส์ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายจอห์น บาริลาโร (John Barilaro) รักษาการในตำแหน่งมุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวยืนยันในช่วงเช้าวันนี้ว่า ผลการตรวจทางพันธุกรรมที่ได้รับการยืนยันของไวรัสในเมืองคาซูลา (Casula) พบความเชื่อมโยงของโครงสร้างไวรัสจากรัฐวิกตอเรีย ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงวันละไม่ต่ำกว่าหลายร้อยคน

“มันไม่ใช่ไวรัสซึ่งแพร่กระจายไปในชุมชน เนื่องจากมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่” นายบาริลาโร กล่าวกับเครือข่ายโทรทัศน์เซเว่น

ทั้งนายบาริลาโร และนางแกลดีส์ เบเรจิเกลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า การล็อกดาวทั่วทั้งรัฐ และการล็อกดาวเฉพาะพื้นที่ จะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่รัฐนิวเซาท์เวลส์จะเลือกใช้

ทั้งนี้ ความจุของแผนกผู้ป่วยวิกฤตภายในโรงพยาบาลของรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า ตั้งแต่ระยะแรกของการแพร่ระบาด ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คน 51 คนทั่วรัฐจนถึงขณะนี้ ขณะที่ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ระบุรายชื่อในสถานบริการต่าง ๆ ที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้เดินทางไป ซึ่งรวมถึง YMCA at Revesby, Wests League Club at Leumeah, Macarthur Tavern in Campbelltown และซูเปอร์มาร์เก็ต Kmart ในเมืองคาซูลา (Casula)

มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ประกาศว่า ตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป (17 ก.ค.) จะมีการกระชับมาตรการจำกัดห้ามสำหรับสถานบริการและโรงแรม ซึ่งรวมถึง การจำกัดจำนวนลูกค้าไม่เกิน 300 คน และการเก็บรายละเอียดการติดต่อจากลูกค้าก่อนเข้าใช้บริการ  


ประชาชนในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นนั้นยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน (stay-at-home orders) และสามารถออกจากบ้านได้เพื่อไปปฎิบัติงานที่มีความจำเป็น เพื่อไปเรียน ออกกำลังกาย และไปให้หรือรับการดูแล โดยมีคำแนะนำให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ 

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 15 July 2020 6:20pm
Updated 16 July 2020 9:05am
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand