VIC เริ่มโครงการทดลองให้สิทธิ์ลาป่วยลูกจ้างแคชวล

ลูกจ้างแคชวลมีสิทธิ์ลาป่วยโดยได้รับค่าจ้าง 5 วันต่อปีเป็นครั้งแรกในออสเตรเลีย ภายใต้โครงการทดลองระยะเวลาสองปีจากงบประมาณ 245.6 ล้านดอลลาร์ของรัฐวิกตอเรีย

Victorian Premier Daniel Andrews says $245.6 million has been allocated to fund the two-year pilot of a paid sick leave scheme for casual and insecure workers.

Victorian Premier Daniel Andrews says $245.6 million has been allocated to fund the two-year pilot of a paid sick leave scheme for casual and insecure workers. Source: AAP Image/Luis Ascui

รัฐวิกตอเรียเตรียมทดลองให้สิทธิ์ลาป่วยโดยได้รับค่าจ้างแก่ลูกจ้างแคชวล (casual) และลูกจ้างซึ่งงานที่ทำอยู่ไม่มั่นคง (insecure worker) ภายใต้โครงการริเริ่มระยะเวลาสองปีจากงบประมาณรัฐ 245.6 ล้านดอลลาร์

ลูกจ้างที่มีสิทธิ์สามารถลาป่วยโดยได้รับค่าจ้าง 5 วันต่อปี จ่ายตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำแห่งชาติที่ 20.33 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

โครงการระยะแรกครอบคลุมลูกจ้างประมาณ 150,000 คนในภาคงานธุรกิจบริการ (hospitality) งานรักษาความปลอดภัย ธุรกิจค้าปลีก งานทำความสะอาด งานดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ

ลูกจ้างกลุ่มนี้มีสิทธิ์ขอลาป่วย (sick leave) หรือลาเพื่อดูแลบุคคลในครอบครัว (carer's leave) เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (14 มี.ค.) โดยจะได้รับเงินจากโครงการโอนเข้าบัญชีธนาคารภายใน 5 วัน
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่าสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ตอกย้ำความลำบากของลูกจ้างแคชวลที่ต้องเลือกระหว่างหาเลี้ยงครอบครัวกับดูแลสุขภาพของตัวเองและเพื่อนร่วมงาน

“โรคระบาดเผยให้เห็นสิ่งที่ชัดเจนว่าไม่ถูกต้อง และเราต้องทำมากกว่านี้ เราต้องทำให้ดีกว่านี้” นายแอนดรูส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ (14 มี.ค.)

โครงการนี้ดำเนินการด้วยงบประมาณของรัฐบาลวิกตอเรียโดยกำหนดระยะเวลาทดลองสองปี 

ทั้งนี้ รัฐบาลวิกตอเรียยังไม่มีข้อสรุปว่าจะสรรหางบประมาณดำเนินโครงการต่อไปอย่างไรหากขยายระยะเวลาโครงการ บางฝ่ายหยิบยกแนวทางเรียกเก็บเงินนำส่งรัฐจากภาคอุตสาหกรรม (industry levy) เป็นอีกหนึ่งความเป็นไปได้

นายจ้างค้านแนวคิดเก็บเงินนำส่งรัฐ

กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งออสเตรเลีย (Australian Industry Group) หรือ Ai Group ซึ่งเป็นองค์กรสมาคมนายจ้างระดับประเทศของออสเตรเลีย ชี้ว่าควรล้มเลิกแนวคิดใด ๆ ที่จะให้ภาคอุตสาหกรรมอุดหนุนงบดำเนินโครงการนี้

“เงินนำส่งรัฐที่ว่านี้อาจส่งผลเหมือนภาษีการจ้างงาน และอาจกลายเป็นอุปสรรคกีดขวางนายจ้างที่มาลงทุนในรัฐวิกตอเรีย” นายทิม ไพเพอร์ (Tim Piper) ประธาน Ai Group ประจำรัฐวิกตอเรียระบุในคำแถลง

นางอินกริด สทิตต์ (Ingrid Stitt) รัฐมนตรีด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงานของรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่ารัฐบาลอาจพิจารณาขยาย “ความคุ้มครองขั้นต่ำ” (safety net) ในลักษณะนี้ไปยังภาคอุตสาหกรรมอื่นของรัฐวิกตอเรีย ซึ่งว่าจ้างพนักงานแคชวลและพนักงานสัญญาจ้าง (contract worker) รวมกว่า 1 ล้านคน
สิทธิ์ลาป่วย 5 วันเริ่มนับใหม่ทุกปี และไม่สามารถทบยอดไปปีถัดไปหากไม่ได้ใช้สิทธิ์ ลูกจ้างที่ทำงานแคชวลหลายงานสามารถขอใช้สิทธิ์ได้เช่นกัน

ลูกจ้างที่ขอใช้สิทธิ์ลาป่วยเกิน 15 ชั่วโมงต้องมีใบรับรองแพทย์ (medical certificate) หากลาเป็นเวลาน้อยกว่านั้นต้องแสดง “หลักฐานสนับสนุนประมาณหนึ่ง”

“พวกเขาอาจต้องแสดงหลักฐานตารางการทำงาน (roster) แล้วยื่นคำแถลงการณ์ (statutory declaration) หรือใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าไม่สามารถเข้างานตามกะได้” นางสทิตต์กล่าว

มุขมนตรีเรียกร้องรัฐบาลกลางพิจารณาให้สิทธิ์ทั่วประเทศ

มุขมนตรีแอนดรูส์คาดหวังว่า รัฐบาลสหพันธรัฐจะพิจารณาแนวทางดำเนินการระดับชาติเพื่อจัดตั้งระบบสิทธิ์ลาป่วยโดยได้รับค่าจ้างที่รองรับลูกจ้างแคชวลและพนักงานสัญญาจ้าง
มาพูดกันให้ชัดเจนเลยว่างานที่ไม่มั่นคงนั้นเป็นพิษ ไม่ใช่เป็นพิษแค่ในรัฐเรา แต่เป็นปัญหาทั่วทั้งประเทศ
“รัฐบาลแห่งชาติที่แท้จริงที่สนใจเปลี่ยนแปลงปฏิรูปคงมาร่วมกันช่วยแก้ปัญหานี้” นายแอนดรูส์กล่าว

รัฐวิกตอเรียประกาศจัดสรรงบประมาณ 5 ล้านดอลลาร์เริ่มพัฒนาโครงการนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ซึ่งนายคริสเตียน พอร์เตอร์ (Christian Porter) อัยการสูงสุดสหพันธรัฐในขณะนั้นเรียกโครงการนี้ว่าเป็น “แนวทางฆ่าธุรกิจและการจ้างงาน”
มุขมนตรีแอนดรูส์ปฏิเสธข้อคิดเห็นดังกล่าว

“ผมจะบอกให้ว่าสิ่งที่ทำให้ธุรกิจลำบากอย่างแท้จริงคือ การที่คนมาทำงานทั้งที่ป่วยมากแล้วทำให้ทุกคนป่วยไปด้วย” นายแอนดรูส์กล่าว

องค์กรยูไนเต็ด เวิร์กเกอส์ ยูเนียน (United Workers Union) หรือ UWU หนึ่งในสหภาพแรงงานขนาดใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ออกมาร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลสหพันธรัฐพิจารณาโครงการลักษณะเดียวกันนี้ หรือแก้ไขมาตรฐานการจ้างงานแห่งชาติ (National Employment Standards) ให้รับรองสิทธิ์ลาป่วยโดยได้รับค่าจ้าง 10 วันสำหรับแรงงานทุกคน

“หากโรคระบาดโควิดชี้ให้เราเห็นอะไรสักอย่าง นั่นคือความจริงที่ว่างานแคชวล งานที่ไม่แน่นอน และงานที่ไม่มั่นคง ส่งผลซับซ้อนพัวพันต่อสุขภาพของคนทั้งชุมชน” นายทิม เคนเนดี (Tim Kennedy) เลขาธิการระดับประเทศของ UWU กล่าว




คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด

หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 16 March 2022 12:42pm
Updated 16 March 2022 1:35pm
Presented by Phantida Sakulratanacharoen
Source: AAP, SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand