รัฐวิกตอเรียไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สองวันติด

รัฐวิกตอเรียไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนรายใหม่เป็นเวลาสองวัน หลังพบชายในเมลเบิร์นมีผลตรวจเป็นบวก และมีการสืบตามผู้สัมผัสใกล้ชิดอย่างเร่งด่วน

ملبورن

ملبورن Source: AAP

รัฐวิกตอเรียไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในชุมชนเป็นวันที่สอง หลังพบชายในเมลเบิร์นมีผลตรวจเป็นบวก

ผลตรวจเชื้อที่เป็นบวกของชายคนนี้เมื่อวันอังคารที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้มีการสืบตามผู้สัมผัสใกล้ชิดแบบเร่งด่วน รวมถึงผู้โดยสารรถไฟหลายร้อยคนที่ใช้บริการขนส่งในเขตตัวเมืองสองสายเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคมได้รับการแจ้งเตือน

รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศในตอนเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคมจากผลตรวจ 21,984 คน
การติดเชื้อของชายคนนี้ส่งผลให้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่กักตัวอยู่บนชั้นเดียวกันในโรงแรมกักตัวของรัฐเซาท์ ออสเตรเลียได้รับคำสั่งให้กักตัวเพิ่มอีกเป็นเวลา 2 สัปดาห์

การสืบหาลำดับพันธุกรรมของเชื้อ (Genomic sequencing testing) ยืนยันว่าชายคนนี้ติดเชื้อในขณะที่พักอยู่ในโรงแรม เพลย์ฟอร์ด (Playford Hotel) ของเมืองแอดิเลด

เขาได้รับผลตรวจที่เป็นบวกเมื่อวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม หลังเดินทางกลับจากอินเดีย โดยเดินทางผ่านมัลดีฟและสิงคโปร์เมื่อวันที่ 19 เมษายนและสิ้นสุดการกักตัว 14 วันในโรงแรมกักตัว

ชายผู้นี้ที่อาศัยในเมืองวอลเลิร์ต (Wallert) ทางตอนเหนือของเมลเบิร์น ได้พักอยู่ในห้องที่ถัดจากคนที่มีผลตรวจเป็นบวก ก่อนที่ผู้ติดเชื้อจะถูกย้ายไปพักในโรงแรมสำหรับผู้ป่วยหรือเมดิโฮเทล (Medihotel)
ในแถลงการณ์ของนางนิโคลา สเปอร์เรียร์ (Nochola Spurrier) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐเซาท์ ออสเตรเลีย เมื่อวันพุธที่ 12 พฤษภาคม ยืนยันว่าทั้งสองกรณีมีความเชื่อมโยงทางพันธุกรรม

“การสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการแพร่เชื้อยังคงดำเนินต่อไป” นางนิโคลากล่าว

ศาสตราจารย์สเปอร์เรียร์กล่าวว่าผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่พักอยู่บนชั้นสามในโรงแรมเพลย์ฟอร์ดในระหว่าง “ช่วงเวลาที่น่ากังวล” ที่สิ้นสุดการกักตัวที่โรงแรมแล้ว ต้องกักตัวต่ออีกสองสัปดาห์

กลุ่มนี้ประกอบด้วยคนที่อาศัยอยู่ในเซาท์ ออสเตรเลีย 10 คน โดยสามารถเลือกได้ว่าจะกักตัวที่บ้านหากเห็นว่าเหมาะสม
ศาสตราจารย์สเปอร์เรียร์ย้ำว่าพนักงานที่เมดิโฮเทลส่วนใหญ่ที่ทำงานในช่วงเวลาที่คาดว่ามีเชื้อเร็ดลอดออกมาได้รับตรวจเชื้อทุกวัน ถึงแม้ว่าจะมีอีก 5 คนที่ต้องติดตามรายงานผล

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ในรัฐเซาท์ ออสเตรเลียสั่งห้ามนักท่องเที่ยวเข้ารัฐ หากพวกเขาไปแวะสถานที่เสี่ยงในรัฐวิกตอเรีย โดยมีข้อยกเว้นเล็กน้อย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในรัฐวิกตอเรียประสบปัญหาในการติดตามแฟนหลายร้อยคนที่ไปชมการแข่งขันเอเอฟแอล (AFL) เมื่อวันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่เดินทางโดยรถไฟร่วมกับชายผู้ติดเชื้อที่อาศัยอยู่ที่วอลเลิร์ต

มีความกังวลว่าฝูงชนอาจได้รับเชื้อไวรัสบนรถไฟสายเครกีเบิร์น (Craigieburn) ในระหว่างที่เดินทางไปหรือกลับจากการชมการแข่งของทีมจีลอง-ริชมอนด์ (Geelong-Richmond) ที่เอ็มซีจี (MCG)

ทางเอเอฟแอลส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังผู้ชมทั้งหมด 54,857 คน
นายมาร์ติน โฟลีย์ (Martin Foley) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัฐวิกตอเรียเตือนว่าในไม่ช้าประชาชนจะเผชิญกับบทลงโทษที่เข้มงวดหากพวกเขาไม่ลงทะเบียนเช็คอินด้วยคิวอาร์โค้ดตามสถานที่ต่างๆ ที่ไป หลังพบลูกค้าบางรายไม่ลงทะเบียน

ชายที่อาศัยที่วอลเลิร์ตได้รับประทานอาหารที่ร้าน เคอร์รี โวลต์ ในตัวเมือง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่คนอื่นในร้านไม่ลงทะเบียนด้วยคิวอาร์โค้ด ซึ่งจะเป็นข้อบังคับของแต่ละสถานที่ในปลายเดือนนี้

รัฐวิกตอเรียไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในชุมชนเป็นเวลา 76 วัน


 

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080 

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 13 May 2021 5:34pm
Presented by Chollada K-Ross
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand