นายกฯ ยันวัคซีนแอสตราเซเนกาปลอดภัย หลังผลข้างเคียงทำหญิงออสฯ ดับ

พบหญิงนิวเซาท์เวลส์เสียชีวิตรายแรกในออสเตรเลีย จากภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังรับวัคซีนต้านโควิดของแอสตราเซเนกา นายกฯ ยันวัคซีนยังปลอดภัย ด้านรัฐบาลเผยเตรียมทบทวนการใช้วัคซีนทุกชนิดต่อเนื่อง

The federal government says every coronavirus vaccine approved for use in Australia will be continuously reviewed after the death of a NSW woman.

The federal government says every coronavirus vaccine approved for use in Australia will be continuously reviewed after the death of a NSW woman. Source: AAP

ประเด็นสำคัญ

  • นางจีนีน นอร์ริส (Genene Norris) วัย 48 ปี เป็นผู้เสียชีวิตรายแรกในออสเตรเลีย จากภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังรับวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาของแอสตราเซเนกา
  • การเสียชีวิตของนางนอร์ริส ทำให้รัฐบาลสหพันธรัฐเตรียมพิจารณาการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง
  • นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ออกมายืนยันความปลอดภัยของวัคซีนแอสตราเซเนกา ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลผลิดภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย (TGA) ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
ออสเตรเลียจะทำการทบทวนการใช้วัคซีนภายในประเทศทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง หลังการเสียชีวิตของหญิงในรัฐนิวเซาท์เวลส์จากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หลังได้รับวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาของแอสตราเซเนกา 

ครอบครัวของ นางจีนิน นอร์ริส (Genene Norris) ยังคงอยู่ในช่วงเวลาของความสะเทือนใจและโศกเศร้า หลังการจากไปของเธอในวัย 48 ปี โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของเธอนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดจากวัคซีนดังกล่าว

“การเสียชีวิตของเธอได้สร้างช่องว่างให้กับครอบครัวของเรา ในเวลานี้ของเมื่อสัปดาห์ก่อนเธอยังคงอยู่กับเรา เราไม่อาจเชื่อเลยเลยว่าในตอนนี้เธอได้จากเราไปแล้ว” ครอบครัวของนางนอร์ริส ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 เม.ย.)

“สิ่งที่เราทราบเกี่ยวกับเธอนั้นเป็นสิ่งเดียวกันที่สาธารณชนรับรู้ ขณะที่การสอบสวนทางการแพทย์ในอนาคตจำเป็นจะต้องดำเนินต่อไป”  

อย่างไรก็ตาม นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า “จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง” แผนเปิดตัววัคซีนต้านไวรัสโคโรนาระดับชาติ

“ในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญคือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนทำงานด้านสุขภาพแถวหน้า รวมถึงผู้ที่อยู่ในสถานดูแลผู้สูงอายุและสถานดูแลผู้พิการ และการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชากรในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งมีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป” นายมอร์ริสันกล่าวกับผู้สื่อข่าว เมื่อเช้าวานนี้ (18 เม.ย.)

“วัคซีนของแอสตราเซเนกานั้นปลอดภัย และได้รับการแนะนำให้ใช้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในส่วนนี้ ซึ่งมีการยืนยันอีกครั้งจากคำแนะนำที่ได้มีการเสนอมาจาก TGA

ขณะที่ นายเกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย ได้พยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้กับชาวออสเตรเลียในเรื่องของสต๊อกวัคซีน โดยกล่าวว่า วัคซีนนั้น “มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และได้รับการแนะนำอย่างท่วมท้น”

“การพบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 800,000 รายในบางวัน และ 700,000 รายในหลายๆ วัน มันเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนว่าเราอยู่ในจุดปลอดภัยและอยู่ในจุดที่ดี” นายฮันท์ กล่าว

“แต่นั่นไม่อาจเป็นการสรุปหรือประกันความปลอดภัย และนั่นคือเหตุผลว่าเพราะเหตุใดวัคซีนจึงยังคงเป็นสิ่งสำคัญ”

นายฮันท์ กล่าวอีกว่า กลุ่มที่ปรึกษาเชิงเทคนิคด้านการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งออสเตรเลีย (Australian Technical Advisory Group on Immunisation หรือ ATAGI) จะได้รับการร้องขอให้มีการพิจารณาความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาทุกชนิด
นางนอร์ริส ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะมีการประกาศว่า ไม่แนะนำให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา เธอคือผู้รับวัคซีนรายที่ 3 ในออสเตรเลีย ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันจากการรับวัคซีนดังกล่าว ขณะที่ผู้รับวัคซีนอีก 2 รายซึ่งมีอาการในลักษณะเดียวกันนั้นอยู่ในระหว่างการฟื้นฟู 

หน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย (TGA) กล่าวว่า ยังคงมีคำถามอีกมากในแง่ที่ว่า การเสียชีวิตของนางนอร์ริสนั้น จะสามารถสรุปได้ว่ามีสาเหตุที่เชื่อมโยงกับวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาของแอสตราเซเนกาที่เธอได้รับ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ได้หรือไม่

นอกจากนี้ ทีจีเอยังระบุถึงภาวะแทรกซ้อนจากปัญหาด้านสุขภาพของนางนอร์ริส และกล่าวอีกว่า ไม่พบสารแอนติบอดีที่มีอยู่โดยทั่วไป ซึ่งพบในผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนการายอื่น ๆ ในกรณีของนางนอร์ริส

ยังมีการทดสอบหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับนางนอร์ริสที่ยังต้องรอผลลัพธ์จากห้องปฎิบัติการ ขณะที่การชันสูตรพลิกศพ และการไต่สวนการเสียชีวิตนั้น มีเป็นไปได้ว่าจะเริ่มขึ้นในวันนี้ (19 เม.ย.)

ทั้งนี้ ทีจีเอยืนยันอีกว่า ได้รับรายงานการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาของแอสตราเซเนกาอย่างผิดพลาด ในเด็กอายุระหว่าง 14 – 17 ปีเป็นจำนวน 13 ฉบับ อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียยังไม่อนุมัติการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาในเด็ก

ทีจีเอ ระบุว่า ยังไม่มีผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างร้ายแรงจากความผิดพลาดต่าง ๆ เช่น การที่เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาะไม่สามารถยืนยันอายุของผู้รับวัคซีนก่อนฉีดได้


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 19 April 2021 1:18pm
Updated 19 April 2021 8:25pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand