มีกี่คนแล้วที่ได้ฉีดวัคซีนโควิดในออสเตรเลีย?

โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่เป็นไปอย่างที่วางแผนไว้ การประมาณการล่าสุดพบว่า อาจต้องใช้เวลาถึงปี 2023 กว่าที่ประชากรทั้งหมดในออสเตรเลียจะได้รับการฉีดวัคซีนครบ นี่คือสถิติเรื่องนี้

Vaccination graphic

Source: SBS News

เมื่อภาพวิดีโอของคุณยาย เจน มาลีเซียก (Jane Malysiak) ผู้รอดชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่สอง วัย 84 ปี ถลกแขนเสื้อขึ้นเพื่อรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถูกเผยแพร่ไปทั่วประเทศ ชาวออสเตรเลียต่างหวังว่า การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนาอาจสิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้

นายกรัฐมนตรีได้ประกาศว่า “วันนั้นเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์” สำหรับออสเตรเลีย ขณะที่เขาเปิดหัวไหล่เพื่อรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นโดสแรก ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2021

ออสเตรเลียได้รอคอยการฉีดวัคซีนโควิดมานานกว่าประเทศอื่นๆ โดยมีการแจ้งให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และรัฐบาลได้ย้ำว่า รัฐบาลมีแผนที่ครอบคลุมรอบด้านที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ทุกคนที่มีสิทธิ์ในออสเตรเลียภายในสิ้นเดือนตุลาคมปีนี้ ประชากร 4 ล้านคนจะได้รับการฉีดวัคซีนภายในเดือนมีนาคม รัฐบาลกล่าว

สองเดือนผ่านไป แผนการใหญ่ที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนของรัฐบาลไม่ได้เป็นไปตามที่คาด

อย่างแรก รัฐบาลพบความยากลำบากในการจัดหาวัคซีน โดยกล่าวหาสหภาพยุโรปว่า ขัดขวางการจัดส่งวัคซีนของแอสตราเซเนกาหลายล้านโดสมายังออสเตรเลีย จากนั้น ได้เกิดความวิตกเกี่ยวกับวัคซีนแอสตราเซเนากา เมื่อหญิงวัย 48 ปีผู้หนึ่งเสียชีวิตจากลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน

ขณะนี้ ปลายเดือนเมษายน วัคซีนเกือบ 1.8 ล้านโดส ถูกฉีดให้ประชากรบางส่วนจากทั้งหมด 25 ล้านคนในออสเตรเลีย

รัฐบาลได้ปรับกรอบเวลาในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนใหม่ โดยที่ความจริงแล้ว อาจเรียกได้ว่า ยกเลิกกรอบเวลาเดิมโดยสิ้นเชิง

เมื่อต้นเดือนนี้ นายกรัฐมนตรีมอร์ริสัน กล่าวว่า “เนื่องจากความไม่แน่นอนหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง” รัฐบาลจะไม่สามารถตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชากรครบถ้วนภายในสิ้นปีนี้ได้

กราฟด้านล่างนี้แสดงจำนวนวัคซีนโควิด-19 ว่ามีกี่โดสแล้ว ที่ถูกฉีดให้แก่ประชาชนในออสเตรเลีย และเราจะมีการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ

โดยสถิติล่าสุดในกราฟด้านล่างนี้รวมโดสแรกและโดสที่สองของทั้งการฉีดวัคซีนไฟเซอร์และวัคซีนแอสตราเซเนกา
สำคัญอย่างยิ่งที่ต้องตระหนักว่า เนื่องจากวัคซีนแอสตราเซเนกาและวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งเป็นวัคซีนสองตัวที่ได้รับการรับรองให้ใช้ได้ในออสเตรเลียนั้น จำเป็นต้องฉีด 2 โดสจึงจะมีประสิทธิภาพ รัฐบาลจึงจำเป็นฉีดวัคซีนให้ได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25 ล้านโดส จึงจะทำให้ประชากรในวงกว้างทั่วประเทศได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน

แต่จากอัตราการฉีดวัคซีนในขณะนี้ จะต้องใช้เวลาจนถึงปี 2023 กว่าที่ประชากรในออสเตรเลียทั้งหมดจะได้รับการฉีดวัคซีนครบ

ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับการฉีดวัคซีนในขณะนี้ ได้แก่ ประชาชนที่อายุ 70 ปีขึ้นไป พนักงานและผู้ที่อาศัยในสถานดูแลผู้สูงอายุและสถานดูแลผู้พิการทุพพลภาพ เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพด่านหน้า เจ้าหน้าบริการฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่พิทักษ์พรมแดน เจ้าหน้าสถานที่กักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ ชาวอะบอริจินและชาวเกาะทอร์เรส สเตรต ที่อายุ 55 ปีขึ้นไป และประชาชนที่มีอาการป่วยเรื้อรัง

เนื่องจากความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน วัคซีนไฟเซอร์จะถูกสงวนไว้ให้ประชาชนอายุต่ำกว่า 50 ปี

เมื่อวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) ยังได้ประกาศแผนที่จะเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน โดยจะฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาให้ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไป และเพิ่มการฉีดวัคซีนให้ประชาชนมากขึ้นที่ศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ต่างๆ ที่รัฐบาลแต่ละรัฐดูแล

“พวกเรามั่นใจว่า วัคซีนไฟเซอร์จะเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนในหลายเดือนข้างหน้า” ศ.เบรนเดน เมอร์ฟรี เลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขสหพันธรัฐ บอกกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมคณะผู้นำรัฐและมณฑลต่างๆ

“เราหวังว่า ชาวออสเตรเลียจะฟังเสียงเรียกร้องให้ออกมารับการฉีดวัคซีน”

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 23 April 2021 12:03pm
Updated 26 April 2021 3:54pm
By SBS News
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand