กด 🔊 เพื่อฟังเรื่องนี้
LISTEN TO

āļāļēāļĢāđāļāđāļāļāļĢāļāļāļāļĢāļąāļ§āļāļļāļāļāļąāļĄāļ āđāđāļāļāļāļŠāđāļāļĢāđāļĨāļĩāļĒ
SBS Thai
06/06/202213:00
ครอบครัวอุปถัมภ์ (Foster Care) เอื้อให้เด็กๆ และวัยรุ่นมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มั่นคง และทะนุถนอม ในช่วงเวลาสองสามเดือน หลายปี หรือตลอดชีวิตของพวกเขา
คุณโมนิกา (Monica - นามสมมติ) และสามีของเธอรับอุปถัมภ์เด็ก 3 คน ที่ถือกำเนิดจากแม่เดียวกัน
“ฉันและสามีได้รับการอนุมัติให้รับอุปถัมภ์เด็กได้ 3 คน อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 10 ปี เรานึกว่าจะได้เด็กที่โตกว่านี้ แต่เราได้รับเด็กน้อยคนหนึ่งที่อายุ 7 เดือนในตอนนั้น ซึ่งมีความกังวลเรื่องพัฒนาการของเขา ฉันมีพื้นฐานเรื่องพยาบาลอยู่บ้าง พวกเขาคิดว่าฉันจะเป็นผู้ดูแลที่ดีสำหรับเด็กคนนี้ และจากนั้นน้องสาวของเขาก็คลอดอีก 10 เดือนให้หลัง และพวกเขาถามเราว่าสนใจจะรับอุปถัมภ์เธอด้วยหรือไม่”
คุณเรเน่ คาร์เตอร์ (Renée Carter) ผู้บริหารของ อด็อป เชนจ์ (Adopt Change) กล่าวว่า ออสเตรเลียกำลังขาดแคลนครอบครัวอุปถัมภ์
āļĄāļĩāđāļāđāļāļāļĢāļ°āļĄāļēāļ 46,000 āļāļāļāļĩāđāļāļģāļĨāļąāļāļāļēāļĻāļąāļĒāļāļĒāļđāđāļāļąāļāļŠāļīāđāļāļāļĩāđāđāļĢāļĩāļĒāļāļ§āđāļē âāļāļēāļĢāļāļđāđāļĨāļāļāļāļāđāļēāļâāļāļąāđāļ§āļāļāļŠāđāļāļĢāđāļĨāļĩāļĒ āđāļāđāļāļāļēāļĢāļāļđāđāļĨāļāļāļāļĢāļąāļāļāļēāļĨāļŠāļģāļŦāļĢāļąāļāđāļāđāļāđ āļāļĩāđāđāļĄāđāđāļāđāļāļēāļĻāļąāļĒāļāļĒāļđāđāļāļąāļāļāļđāđāļāļāļāļĢāļāļ āļĢāļąāļāļāļēāļĨāļāļąāļāļŠāļĢāļĢāđāļŦāđāļāļ§āļāđāļāļēāļāļĒāļđāđāļāļąāļāļāļĢāļāļāļāļĢāļąāļ§āļāļļāļāļāļąāļĄāļ āđ āļāļąāļāđāļāļĢāļ·āļāļāļēāļāļī āļŦāļĢāļ·āļāļāļĩāđāļāļąāļāđāļāļāļēāļ° āļĢāļ°āļŦāļ§āđāļēāļāļāļĩāđāļāļ§āļāđāļāļēāļĒāļąāļāļŦāļēāļāđāļēāļāđāļŦāđāđāļāđāļāđāļĄāđāđāļāđ
คุณคาร์เตอร์กล่าวว่า ในบางกรณี มีความต้องการครอบครัวอุปถัมภ์ที่มีภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่าง
คุณอลันนา ฮิวจ์ส (Alanna Huges) ผู้จัดการโปรแกรมการดูแลนอกบ้าน เบนีโวแลน โซไซที (Benevolent Society) ที่จัดหาครอบครัวอุปถัมภ์ให้แก่เด็กๆ ในเขตเกรทเทอร์ ซิดนีย์ (Greater Sydney) กล่าวว่า เด็กๆ อาจต้องถูกส่งไปให้ครอบครัวอุปถัมภ์ด้วยเหตุหลายประการ
“มีหลายสาเหตุที่เด็กๆ อาจต้องถูกส่งไปให้ครอบครัวอุปถัมภ์หรือต้องการครอบครัวอุปถัมภ์ เหตุผลหลักคือเพื่อความปลอดภัยของเด็ก พวกเขาไม่สามารถอาศัยอยู่กับครอบครัวของพวกเขาได้ และพวกเขาต้องการการดูแลจากครอบครัวอุปถัมภ์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ หรือระยะยาว เหตุผลอื่นๆ ที่เด็กต้องอยู่ในความดูแลของครอบครัวอุปถัมภ์ เช่น เกิดเหตุร้ายแรง ที่สมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต หรืออาจไม่มีผู้อื่นดูแลเด็กได้”
คุณคาร์เตอร์กล่าวว่า การมีบ้านที่มั่นคง ปลอดภัย และทะนุถนอมเด็ก เป็นกุญแจในการฟื้นฟูเด็กๆ เหล่านี้ ที่ประสบเหตุร้ายบางประการ

āļāļđāđāļāļēāļĒāļāļļāđāļĄāđāļāđāļāļāļđāđāļŦāļāļīāļ Source: Pexels/ Josh Willink
“เด็กเหล่านี้เผชิญสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ แต่พวกเขายังเป็นเด็กธรรมดา และสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ เป็นการบำบัดอันยิ่งใหญ่สำหรับเด็ก หรือโอกาสในการเริ่มต้นที่จะเป็นเด็กและเล่นโดยไม่ต้องกังวลถึงปัญหาของผู้ใหญ่ ได้รู้ว่าพวกเขาจะได้นอนที่ไหนในคืนนั้นและคืนต่อๆ ไป ได้รู้ว่ามีใครที่จะทำอาหารให้พวกเขาทาน”
คุณฮิวจ์สกล่าวว่า หลายท่านสามารถยื่นมือเพื่ออุปถัมภ์ได้หลายแบบ
“เรามีตั้งแต่ผู้อุปถัมภ์แบบฉุกเฉินในระยะสั้น ผู้อุปถัมภ์ระยะยาวผู้อุปถัมภ์ที่กำลังต้องการรับเลี้ยง (Adoption) หรือรับเป็นผู้ปกครองดูแล (Guardianship) เด็กที่อยู่ในการดูแลของพวกเขา และผู้ดูแลชั่วคราว (Respite Carers) ที่จะดูแลเมื่อเด็กต้องการ ซึ่งอาจเป็นเวลาหนึ่งสุดสัปดาห์ต่อเดือน หรือสองสุดสัปดาห์ต่อเดือน และเรายังมีผู้อุปถัมภ์ที่รับดูแลเด็กที่อยู่ในระหว่างรอเพื่อกลับไปที่บ้านหรือครอบครัว และพวกเขาให้การดูแลในช่วงนั้น”
กฎหมายและกระบวนการแตกต่างไปในแต่ละรัฐและมณฑล อาจมีการทำงานโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐบาลหรือเอเจนท์ดูแลเรื่องการรับอุปถัมภ์ แต่มีขั้นตอนสำคัญที่เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในออสเตรเลีย

āđāļĄāđāļāļļāđāļĄāļĨāļđāļāļāļēāļĒāļāļāļ°āļāļĢāļ°āļāļēāļāļīāļāļĒāđāļāļāļāļīāļ Source: Pixabay/Pexels
ขั้นตอนแรกคือการติดต่อหน่วยงานรับอุปถัมภ์ท้องถิ่นและหาข้อมูลเบื้องต้น
คุณฮิวจ์สกล่าวว่า ในรัฐนิวเซาท์เวลส์นั้นขึ้นอยู่กับเอเจนท์ในการอนุมัติผู้ที่จะสามารถเป็นผู้ปกครองอุปถัมภ์ได้ แต่กรมชุมชนและยุติธรรม (Department of Communities and Justice) มีหน้าที่จับคู่ครอบครัวที่ได้รับอนุมัติกับเด็กที่ต้องการการดูแล
“กรมชุมชนและยุติธรรมเป็นองค์กรตามกฎหมาย ที่นำเด็กเข้าสู่การดูแล พวกเขาจะติดต่อเราเพื่อบอกว่า ‘เรามีเด็กที่ต้องการการดูแล คุณมีผู้ดูแลที่เข้ากันได้ที่สามารถรับเด็กหรือไม่’เราจะดูที่ประวัติของเด็กและผู้รับอุปถัมภ์ที่เรามี และหากเข้ากันได้ เราะจะเสนอการดูแลนั้น มันไม่ได้หมายความว่าการเสนอนั้นจะดำเนินการต่อ แต่เราจะเสนอการดูแลก่อน และเด็กจะมาอยู่ในโปรแกรมการดูแลของเราด้วยวิธีนั้น”
คุณฮิวจ์สกล่าวว่า ผู้สมัครที่มีความประสงค์จะเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้นบางประการ
“หนึ่งในข้อกำหนดคือคุณต้องเป็นพลเมืองออสเตรเลีย (Australian Citizen) หรือผู้พำนักถาวร (Permanent Resident) เรากำหนดให้ผู้สมัครต้องมีอายุมากกว่า 25 ปี และผู้สมัครต้องเต็มใจที่จะได้รับการตรวจสอบ ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และมีใบอนุญาตให้ทำงานกับเด็ก (Working with children check) เรายังกำหนดด้วยว่าพวกเขาต้องมีสุขภาพดี”
หากพวกเขามีคุณสมบัติตามกำหนดและการสัมภาษณ์รอบแรกผ่านไปด้วยดี พวกเขาจะเข้าสู่กระบวนการประเมิน ซึ่งเอเจนท์จะตัดสินใจว่าพวกเขาเหมาะสมที่จะเป็นผู้รับอุปถัมภ์หรือไม่ และจะเป็นไปตามความคาดหวังของพวกเขาหรือไม่

āļāļđāļāļĄāļ·āļāđāļāđāļāđāļāļŠāļ§āļ Source: Pixabay/StockSnap
ในบางกรณี เด็กที่อยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในระยะสั้น อาจกลับกลายเป็นอยู่กับพวกเขาในระยะยาว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ คุณฮิวจ์สอธิบาย
“เมื่อเด็กมาอยู่ในการอุปถัมภ์ในเบื้องต้น พวกเขามาอยู่ในการดูแลเพราะมีคำสั่งศาลแบบชั่วคราว (Interim Order) ศาลจะออกคำสั่งศาลในระยะสั้นเพื่อให้การทำงานเพื่อจุดประสงค์โดยรวมของเด็กคนนั้นสามารถทำได้ลุล่วงเด็กจะสามารถกลับบ้านของเขาได้หรือไม่? หากกลับไม่ได้ มีเส้นทางอะไรอื่นให้พวกเขาและบางครั้งมีการอนุมัติคำสั่งศาลที่สิ้นสุด ซึ่งหมายความว่าเด็กจะอยู่ในการดูแลระยะยาว”
คุณฮิวจ์สกล่าวว่า ผู้ปกครองอุปถัมภ์บางท่านอาจกลายเป็นผู้ปกครองดูแลหรือพ่อแม่บุญธรรม
“หากคุณเป็นผู้ดูแลระยะยาว ที่มีเด็กในการดูแลของคุณหลายปี คุณสามารถยื่นความจำนงได้ หากเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับเด็กในการเป็นผู้ปกครองดูแลหรือการรับเลี้ยงเด็กบุญธรรม มีวิธีมากมาย บางอย่างอาจพลิกผันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของคุณและของเด็กที่อยู่ในการดูแลของคุณ”
คุณโมนิกายอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือกับความไม่แน่นอนในการเป็นผู้ปกครองอุปถัมภ์ โดยเฉพาะในตอนแรก
“เราต้องเป็นผู้ปกครองที่เปิดใจยอมรับว่า พวกเขาจะอยู่กับเราจนกว่าพวกเขาอายุ 18 ปี และทุกวันที่พวกเขาอยู่กับเรา โอกาสที่พวกเขาจะถูกดึงออกไปจากเราเพื่อกลับสู่ครอบครัวบุพการีของพวกเขาน้อยลงทุกวัน แต่มันเป็นบางสิ่งที่ไม่แน่นอนเฉกเช่นเด็กที่รับอุปการะ หรือเด็กที่เป็นลูกของคุณเอง”
คุณฮิวจ์สกล่าวว่า เอเจนท์จะให้การช่วยเหลือผู้ปกครองอุปถัมภ์ เพื่อช่วยในกระบวนการรักษา

āđāļĄāđāđāļĨāļ°āļĨāļđāļāļŠāļēāļ§āđāļĨāđāļāļāļāļāļ·āđāļ Source: Pexels/ Karolina Grabowska
“เด็กๆ ของเราส่วนใหญ่ได้รับความบอบช้ำในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการถูกทารุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากทุกรูปแบบ หรืออาจประสบบาดแผลในขณะที่อยู่ในครรภ์ หากพวกเขาถูกพรากจากผู้ปกครองของพวกเขาตั้งแต่อายุยังน้อย การเป็นผู้ปกครองอุปถัมภ์นั้นเป็นมากกว่าจัดหาบ้านให้แก่เด็ก เราต้องเลี้ยงดูเด็กๆ ที่บอบช้ำโดยเฉพาะ และให้การดูแลเพื่อบำบัด เพื่อช่วยเด็กเหล่านี้ให้หายจากความบอบช้ำที่พวกเขาได้รับ"
คุณคาร์เตอร์อธิบายว่า การเป็นผู้อุปถัมภ์เด็กเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า
āđāļĨāļ°āđāļāđāļāļāļāļ§āđāļēāđāļāđāļāļāļĢāļ°āļŠāļāļāļēāļĢāļāđāļāļĩāđāļāļļāđāļĄāļāđāļēāđāļāđāļāļāļąāļ āđāļāļĢāļēāļ°āļāļļāļāđāļāđāļāļģāļāļ§āļēāļĄāļĢāļđāđāļāļąāļāđāļāđāļāđāļĨāđāļāđ āđāļŦāļĨāđāļēāļāļĩāđ āđāļĨāļ°āđāļāđāļēāļĄāļāļāļāļ§āļāđāļāļēāđāļāļīāļāđāļāđāļĨāļ°āļĄāļĩāđāļāļāļēāļŠāļāļĩāđāļāļĩ āđāļāđāđāļāđāļĻāļąāļāļĒāļ āļēāļāļāļāļāļāļ§āļāđāļāļēāļŠāļģāļŦāļĢāļąāļāļŠāļīāđāļāļāļĩāđāļāļ§āļāđāļāļēāļāđāļāļāļāļēāļĢāđāļāļāļĩāļ§āļīāļ
ในกรณีส่วนใหญ่ ผู้ปกครองอุปถัมภ์มักรักษาความสัมพันธ์กับครอบครัวที่ให้กำเนิดเด็กและติดต่อกับเด็ก
หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักต้องการความช่วยเหลือ
โทรสายด่วนความรุนแรงในครอบครัว (Domestic Violence Line) 1800 656 463
หรือสายด่วนคุ้มครองเด็ก (Child Protection Helpline) 13 21 11
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่